รีวิว+สปอย | นายหยุดแกล้งฉันได้ไหม เล่ม1

เจียวถังตงกวา (Jiao Tang Dong Gua) เขียน
สีน้ำ แปล

ทดลองอ่าน จิ้ม


แนะนำก่อนอ่าน

  • นายเอกตายเพราะอุบัติเหตุรถชน
  • พระเอกได้ย้อนกลับมาใหม่ช่วงที่ยังไม่รู้จักกับนายเอก
  • ไม่น่าจะมีดราม่าอะไรแล้วในรอบนี้ เพราะพระเอกดูท่าจะกวาดเรียบ คลั่งรักมากแหละ
  • ออกแนวต้อนแกะให้จนมุมแล้วจับกิน สงสารนายเอกอยู่นะ 555
  • Vibe ฝรั่งไปเลย บินกันไปทุกมุมโลกเพื่อไปแข่งกันเป็นว่าเล่น

ตัวละคร

อีวาน ฮันต์

  • น้องใหม่ในวงการรถF1 อยู่คนละสังกัดกับพระเอก
  • อายุน้อยกว่าพระเอก2-3ปี
  • เป็นตัวสำรองในสังกัด แต่สุดท้ายก็ได้โอกาสแสดงฝีมือ

วอห์น วินสตัน

  • ม้ามืดในวงการที่กำลังทะยานขึ้นไปบนยอดของวงการF1
  • ได้ย้อนกลับมาใหม่หลังจากสูญเสียเพื่อนรัก(ที่ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนรักรักเพื่อนหรือเปล่า)

เนื้อเรื่อง

วินสตันได้เสียเพื่อนรักอย่างอีวาน ฮันต์ไปจากอุบัติเหตุ หลังจากนั้นเขาก็ตกอยู่กับความทุกข์ จนวันหนึ่งที่เขาไปนั่งเมาที่หลุมศพของ”เพื่อนรัก”พอลืมตาตื่นก็ได้รู้ว่าตัวเองได้ย้อนกลับมา5ปีก่อน หลังจากนั้นแผนการที่จะกลับเข้าไปตีสนิทเข้าไปอยู่ในวงโคจรของอีวาน ฮันต์ก็เริ่มขึ้น

การพบเจอระหว่างวินสตันกับฮันต์ในแต่ละครั้งเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา อย่างครั้งแรกเลยคือเจอกันในห้องน้ำโดยที่วินสตันช่วยรูกซิปกางเกงให้ ใช่! รูดซิปกางเกง ก็คือแบบบ 5555 เกินไปมากกก ออกตัวเกินไปไหม แต่บอกได้เลยว่าเข้าหาแบบนี้จำได้ขึ้นใจจนไปถึงขั้นหลอนจิต แต่ความที่ฮันต์ก็นะ เป็นเหมือนนักแข่งตัวน้อยๆที่เข้าวงการก็เลยมองไม่ออกว่าคนอย่างวินสตันที่โด่งดังเป็นหัวแถวของวงการจะเข้ามาตีสนิทเขาเพื่ออออ

หลังจากนั้นการเข้าหาก็เริ่มดูปกติมากขึ้นอย่างการเข้ามานั่งดูดบุ๋น แต่ก็อย่างว่าธรรมดาโลกไม่จำก็เลยของดูดด้วยอันเดียวกันนั้นแหละ แล้วก็มีมาช่วยเรื่องแทกติคว่าต้องขับยังไง จนสุดท้ายวินสตันช่วยปลดล็อคความสามารถของฮันต์ซึ่งมันก็ไปประจวบเหมาะกับที่ฮันต์ได้มีโอกาสได้ลงสนามแข่งและผลที่ได้ออกมาก็เป้นที่น่าพอใจมากๆของทีม(ความบังเอิญไม่มีจริง มีแต่ทำให้บังเอิญ 555 วินสตันนางร้ายเด้อออ คิดการใหญ่ต้องลงทุนทุ่มสุดตัว) พอเหมือนเริ่มได้ใกล้ความอลังการของแผนเก็บเกี่ยวก็เริ่มใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนกระทั่งพาไปคลับไฮโซ นี่แหละ5555 กำไรของวินสตันสุดๆ ก็คือก่อนหน้านี้น้องฮันต์เขาอัดอั้นอยากไปปาร์ตี้สาวๆกับนักแข่งด้วยกัน แต่ไฉนเลยเจ้าที่อย่างวินสตันจะฉกกลับมาไม่ได้แถมมากไปกว่านั้นดันไปขู่คนที่จะดึงน้องไปจนขวัญหนีดีฝ่ออีก จบวันนั้นเรียกได้ว่าน้องฮันต์ตัวแดงช้ำไปหมดจากคนที่คุณก็รู้ว่าใครแต่น้องฮันต์เดาไม่ออก

เล่มต่อไปก็น่าจะไปเรื่องการไต่แรงค์ของน้องละว่าจะไปได้ขนาดไหน ส่วนทางวินสตันนั้นเหมือจะลอยตัวไปแล้ว น้องได้คนมีช่วยคนใหม่ก็ดูท่าจะดีขึ้น ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วน้องจะได้ย้ายทีมไปไหนไหม แล้วสุดท้ายน้องจะไปถึงจุดสูงสุดของวงการได้อย่างที่วินสตันเคยพูดหรือเปล่าที่ว่าน้องเคยแซงตัวเองได้


เม้าส์

  • อ่านได้เรื่อยๆนะ เราไม่ใช่คนที่ดูวงการแข่งรถแต่พอรู้เรื่องรถอยู่บ้างเพราะเรียนมาก็เลยเออ รีเลทนิดๆ แต่ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยอาจจะแปลกๆ
  • ช่วงแรกๆของเรื่องเราอ่านแล้วมีความหลอนๆจิตๆนิดๆ แบบว่าการเข้าหาของคุณวินสตันเขาชั้นเชิงมันแบบเยอะมากละมั้ง แบบเข้าหาแบบอ่อยให้เหยื่อตายใจ แต่เผอิญเหยื่อมันซื่อก็เลยดูเหมือนฉากฆาตกรรมนิดๆ
  • ก่อนหน้านี้อ่านเรื่องฝ่ากฎรักของนักเขียนคนนี้แล้วมาอ่านเรื่องนี้ก็คือแปลกไปเลยแฮะ เรื่องนั้นฉากไม่ได้ดู18+อะไรขนาดนี้ แต่เรื่องนี้คือแบบต่างไปหมด ยังกับคนละคนแต่ง มันแบบคนละแนวไปเลย
  • หลังจากอ่านเล่มแรกจบ ก็ไม่ได้หวังอะไรมาก นอกจากขอให้คุณวินสตันถนอมน้องหน่อยเถอะ คืนนั้นมันเกินไปพ่อ รู้ว่าคิดถึงมากแต่ก็นะ

รีวิว+สปอย | ฝ่ากฎรักต่างโลก เล่ม2,3 จบ

เจียวถังตงกวา (Jiao Tang Dong Gua) เขียน
BlueFeather แปล

รีวิวเล่ม1ค่าาา ถ้ายังไม่อ่านไปเจิมก่อนเด้ออ


เนื้อเรื่อง

เปิดเรื่องมาได้ไม่นานก็ได้รู้เรื่องที่เราสงสัยมาก่อนหน้านี้ละว่าโม่เย่กับชายลึกลับคนที่เคยช่วยโจวอวี้มีความสัมพันธ์กันยังไง หลังจากนั้นเลยเป็นเรื่องที่โจวอวี้ต้องมาปรัปตัวว่าจะเป็นยังไงต่อไปเมื่อกายภาพของไอโดลันมันเปลี่ยนไป แล้วลึกๆในใจความสัมพันธ์ความใกล้ชิดจะเป็นยังไงต่อ ระหว่างนั้นก็ยังมีเรื่องการบุกไปฐานนู่นนี้อยู่ ก็เอาเป็นว่าเลือดตากระเด็น แต่ว่าคนใกล้ชิดยังไม่มีใครตาย หลังจากนั้นก็มีเรื่องที่ทำให้โม่เย่ต้องติดอยู่ในร่างของคนไม่สามารถเปลี่ยนกลับไปร่างอื่นได้ ซึ่งมันก็หมายความว่าโม่เย่ไม่สามารถใช้พลังที่มีได้100%

ยังมีเรื่องของโจวชิงน้องของโจวอวี้(ตัวเอก)ที่มีปัญหาเรื่องเนื้องอกในสมองที่ต้องผ่าตัดอีก ก็แบบมันลุกลาม แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอย่างที่ว่าน้องได้ติดต่อกับสิ่งทีชีวิตระดับSบนดาว แต่ว่านะ สิ่งมีชีวิตก็มีทั้งดีแต่ไม่ดี แต่ยังไงค่ะ นัมเบอร์วันไปเลย เกินหน้าเกินตาไปมาก เพราะว่าสิ่งมีชีวิตระดับSที่น้องติดต่อนั้นมันตัวพ่อ

ชอบอันนี้มากที่ว่ามนุษย์ที่ขึ้นมาบนดาวก็มีหลักที่ต้องยึดถือ3ข้อใช่ไหม แต่ว่าสิ่งมีชีวิตบนดาวก็มีหลักที่ต้องยึดถือเหมือนกันนั้นคือ ห้ามหลงรักมนุษย์ เออ มันต้องมีอดีตที่เลวร้ายนั่นแหละ และใช่ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือมนุษย์ที่ขึ้นมาบนดาวนี้ เพราะไม่เพียงแค่จะทำทุกอย่างเพื่อทำลายและยึดสิ่งที่ตัวเองต้องการจากดาวนี้ไป แต่ยังไม่สนใจด้วยว่าทำการใหญ่ใจต้องเหี้ยม ฆ่าได้แม้กระทั่งเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ


เม้าส์

  • อ่านเล่ม1 จบตั้งแต่ออกเล่มใหม่เลยมั้ง ไม่รู้นึกยังไงมาอ่านเล่ม2-3ต่อตอนนี้ ห่างหายไปนานมาก รายละเอียดบางอย่างก็เลยจะหลุดๆไปบาง เป็นการเปิดมาอ่านเพราะอยากพักสมองฉลองวันเกิด แต่กลายเป็นว่าทำให้ไม่ได้นอนเลยจ้าาา ตัดใจนอนทุกครั้งเมื่อรู้ตัวว่าเช้าแล้วสาว 5555
  • หมดกระดาษทิชชู่ไปเท่าไหร อหหหหหหห อ่านยังไงไม่ให้มีน้ำตา มันเหลือเกิ๊นน ทำร้ายจิตใจกันมากนะ หักไปหักมา
  • สุดท้ายแล้วเรื่องนี้มีกี่คู่ จะนับเป็น 2 หรือเป็น 3ดีก็เอาที่สบายใจ
  • เสียดายอย่างที่เรื่องคู่ของน้องไม่ได้มีต่อ มันแบบค้างคามาก หลังจากที่ทุกคนกลับมาโลกก็ปล่อยน้องไว้นู่นกับสิ่งที่คุณจะรู้ว่าเป็นใครเมื่อคุณได้อ่าน แล้วคือยังไงต่อแม่!! อยากเห็นน้องมีความสุขอะ ความสุขน้องเป็นยังไงบ้างงงงง
  • ส่วนเรื่องของโจวอวี้ก็ไม่ต้องอะไรมาก แฮปปี้ ด้วยความที่ทั้งตัวเองและโม่เย่ก็อยู่ในระดับที่ไปต่อด้วยกันยาวๆก็สบายใจ
  • บทสรุปเรื่องนี้คือมนุษย์ด้วยกันนี้แหละที่อันตรายที่สุด
  • เอาจริงไม่รู้จะเม้าท์อะไร เพราะปกติจะอ่านแล้วเมโมไว้ แต่นี่คือเพลินมากกก ยิงยาวไม่หยุดไม่หลับไม่นอนฉลองวันเกิด

รีวิว+สปอย | ฝ่ากฎรักต่างโลก เล่ม1

เจียวถังตงกวา (Jiao Tang Dong Gua) เขียน
BlueFeature แปล

มี 3 เล่มจบ


แนะนำก่อนอ่าน

  • น่ารัก อ่านง่าย สนุกมาก 
  • sci-fi fantacy โลกคู่ขนาน มีความAvatarใดๆ ต้นไม้ที่หล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง มีสัตว์แปลกๆเยอะ มีความร้ายกาจหลายระดับให้ปะทะ
  • ตัวละครหลักมาจากคนละโลก

ตัวละคร

โจวอวี้

  • ผู้บังคับบัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 
  • เป็นคนที่เด็ดเดี่ยวและหนักแน่น
  • มีน้องชายที่รักมากอยู่1คนแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ติดต่อกันมากนั้นชื่อ”โจวชิง” เป็นศาสตราจารย์ที่เก่งเกี่ยวกับพืช
  • แม้จะถูกบังคับอ้อมๆแต่ก็เต็มใจที่จะไปนีเบอลุงเงิน

โม่เย่

  • น้องน่ารักมากกก มีความงื้ออ~ ตลอด อยากบีบบบ 
  • เป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นเรียกแทนสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่เอาออกมาจากศูนย์บัญชาการได้ก่อนจะเดินทางไปยังอีกฐาน สุดท้ายเปิดกล่องออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตหน้าตารูปร่างเหมือนไอโดลันสัตว์ที่คิดกันว่าสูญพันธ์ไปแล้วจากนีเบอลุงเงิน จึงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับA ซึ่งพลังความร้ายกาจความสามารถก็เป็นรองอยู่แค่สิ่งมีชีวิตระดับS แต่ตอนแรกทุกคนคิดว่าน้องระดับC แบบไม่ได้ร้ายมาก
  • มีความสัมพันธ์บางอย่างกับชายหนุ่ม(คงจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับS)ที่คอยช่วยชีวิตโจวอวี้อยู่ในหลายๆครั้ง 
  • เดาว่าน้องเป็นสิ่งมีชีวิตระดับSที่ปลอมแปลงหน้าตาร่างกายให้มีลักษณะคล้ายไอโดลัน ซึ่งสิ่งมีชีวิตระดับSจะทำอะไรก็ได้ไง

เนื้อเรื่อง

โจวอวี้กับทีมได้รับว่าจ้างให้ไปปฎิบัติการช่วยเหลือตัวประกันในสถาบันวิจัยของจวี้ลี่กรุ๊ป ดูเหมือนเป็นงานง่ายๆไม่ได้มีอะไรยาก แต่พอหน่วยสวาทที่ส่งเข้าไปไร้การตอบกลับก็เริ่มจะเป็นที่หนักใจของคนที่ยังเฝ้าสังเกตุการณ์ จนกระทั่งมีสัญญาณมาจากคนที่ส่งเข้าไปว่าอย่าเข้ามา! หัวหน้าทีมอย่างโจวอวี้ก็อยู่เฉยไม่ได้ละเลยลุยเดี่ยว พอเข้าไปโจวอวี้ได้เจอกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่เพียงแต่มีหน้าตาแปลกประหลาดแต่พละกำลัง อาวุธและการฟื้นตัวของมันก็เป็นสิ่งที่คิดว่าไม่ได้เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติแน่นอน สิ่งมีชีวิตตัวนี้ฆ่าทุกคนที่อยู่ในสถาบันวิจัยรวมทั้งคนในทีมของโจวอวี้ แม้กระทั่งโจวอวี้ก็เกือบจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดออกมาได้ถ้าไม่มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน(เหมือนตำรวจที่มักจะมาตอนจบ)

การที่โจวอวี้สามารถเอารอดชีวิตออกมาได้กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจของซ่งจื้อ หัวหน้าที่รับผิดชอบโครงการ“แหวนแห่งนีเบอลุงเงิน”เป็นอย่างมากเพราะการที่มีชีวิตรอดจากเพอริตอนได้นั้นหมายความว่าคุณไม่มีความกลัวเพราะสิ่งมีชีวิตนี้จับฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเมื่อมีความกลัว จากนั้นโลกคู่ขนานอย่างนีเบอลุงเงินที่เป็นความลับสุดยอดก็ได้กลายเป็นที่รับรู้ของโจวอวี้ แล้วโจวอวี้ก็ได้รับข้อเสนอจากซ่งจื้อที่ต้องการจะให้โจวอวี้เดินทางไปยังนีเบอลุงเงิน  แน่นอนว่าการเอาชีวิตไปเสี่ยงกับอีกโลกที่อันตรายมากๆไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะทำ แต่โจวอวี้ก็ต้องทำเมื่อน้องชายอย่างโจวชิงที่เพิ่งจะทำการผ่าตัดสมองก็กำลังจะเดินทางไปนีเบอลุงเงินเพื่อทำการศึกษาวิจัยในศาสตร์ที่เรียนมา(เป็นเงื่อนไขที่ได้รับและเป็นโอกาสในการศึกษาสิ่งใหม่ของโจวชิง) ทำให้พี่ชายที่แสนดีอย่างโจวอวี้ต้องเดินทางไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

ก่อนออกเดินทางไปนีเบอลุงเงินทุกคนต้องเตรียมพร้อมต้องอบรมเรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานก่อน กฎมีสามข้อที่ต้องท่องให้ขึ้นใจจำไม่ยากคือ อย่ากลัว อย่าหลงใหล อย่าไว้ใจ หลังจากเดินทางมานีเบอลุงเงินก็เรียกได้ว่าบันเทิงเลย เมื่อวาร์ปมาลงที่ฐานซึ่งฐานได้ถูกทำลายจากสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ไปแล้วเลยต้องเดินทางไปยังฐานต่อไปโดยรถซึ่งก็อันตรายมากๆเพราะต้องผ่านป่าที่ไม่รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตระดับไหนอยู่ ในการเดินทางอู๋อวิ้นได้เอาตัวอ่อนสิ่งมีชีวิตสำหรับการวิจัยที่ยังไม่ถูกทำลายไปด้วย แบบว่าของสำคัญจะราคาดีเอาไปเรียกเงินได้

ความซวยยังไม่หมดนอกจากดรอปผิดที่แล้วระหว่างการเดินทางก็ยังไปเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ร้ายกาจไม่พอยังอยู่ในช่วงวางไข่ไปอีก จะบ้าตาย😫 พอรอดมาได้ไม่ทันไรโจวชิงที่ชมนกชมไม้อยู่ก็เกิดอาการวูบมองไม่เห็นแล้วก็ได้ยินเสียงปริศนาซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตระดับSแหละ เริ่มกลัวละว่ามาดีหรือมาร้าย แล้วคือโจวชิงสภาพร่างกายก็ไม่ค่อยโอเคด้วยคือถ้าเนื้องอกในสมองกำเริบขึ้นมาก็เสี่ยง แม้ว่าจะมีหมอผ่าตัดมาด้วยก็เถอะ แต่กลายเป็นว่าเสียงนั้นได้แนะนำช่วยเหลือหลายๆอย่างแล้วดีกับโจวชิงดีกับทีมก็เลยงงละว่า ตกลงสิ่งมีชีวิตนี้ยังไง ต้องการอะไร เพราะถ้าต้องการสารอาหารหรือที่วางไข่ขยายอาณาจักรแบบว่าฆ่าโจวชิงก็คือร่างกายไม่ได้ดีขนาดนั้น

ยังไม่ลืมกล่องที่อู๋อวิ้นแบกมาด้วยใช่ไหม หลังจากฟันฝ่าอุปสรรคเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากป่ามาได้ในระยะที่คิดว่าปลอดภัยระดับหนึ่งละ ทุกคนก็ได้เห็นว่าอู๋อวิ้นแบกกล่องบางอย่างมาด้วย(คือรถพังไปแล้ว)ก็เลยให้ทำการเปิดกล่องคือถ้ามันอันตรายก็คือจะได้รีบกำจัดทิ้ง พอแกะออกมาปรากฎว่าเจอสิ่งมีชีวิตหน้าตารูปร่างคล้ายมังกร(น้องโมเย่นั้นแหละ) ด้วยความที่หน้าตารูปร่างไม่ค่อยสวยงามเลยตีกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อันตรายมาก(สวยงามมาก=อันตรายมาก) แล้วน้องก็คือยังเด็กมากๆด้วยก็เลยแบกกันไป แรกเจอโจวอวี้ก็ได้มีการเช็ดตัวให้น้องจากเมือกเหนียวๆที่ติดตัวมา หลายๆคนก็เลยแซวว่าน้องคงจะเห็นโจวอวี้เป็นแม่หรือเปล่าแล้วหลังจากนั้นคือตัวติดกันมากกก ด้วยความออดอ้อนหน้าตาบ๊องแบ้วของน้องก็ทำให้โจวอวี้ที่ไม่คิดว่าตัวเองจะหลงอะไรแบบนี้ก็ได้ยอมหิ้วไปด้วย แล้วเหตุการณ์สำคัญก็เกิดขึ้นเมื่อน้องงับนิ้วของโจวอวี้และได้ดูดเลือดของโจวอวี้ด้วย ทางคนอื่นก็คือไม่รู้หรอกว่าดูดจริงหรือเปล่าเพราะไม่มีแผลและน้องไม่มีฟันก็เลยต้องปล่อย

หลังจากนั้นการเดินทางก็คือสนุกและเกิดเรื่องไม่คาดฝันเยอะมาก คนที่ทำให้เรื่องมันซวยก็คืออู๋อวิ้น555 ชื่อไม่มงคลอะนะ แต่คนที่รับผลก็คือโจวอวี้ แต่ยังดีที่มีคนช่วย😎 แรกๆโจวอวี้ก็ไม่ตั้งชื่อให้น้องเพราะว่าถ้ามีชื่อเรียกแล้วก็คือเหมือนผูกมัดผูกพันธ์กันแล้ว แต่สุดท้ายน้องก็ได้ชื่อโมเย่ และตอนนั้นโจวอวี้ก็ท่องกฏสามข้อของการใช้ชีวิตอยู่ในนีเบอลุงเงินไม่ครบ


เม้าส์

  • ไม่อยากจะบอกที่เริ่มอ่านเล่ม1เพราะเห็นปกเล่ม2นิแหละ สวยแบบสวยมากก ความโทนสีใดๆ ตอนอ่านเล่มแรกไม่ได้คิดเรื่องpositionเลยจะยังไง ก็คือสนุกไปกับความแฟนซี แต่เห็นหน้าปกเล่ม2แล้วโม่เย่ก็คงจะเป็นพระเอกแหละ สูงยาวเข่าดีขนาดนี้
  • ตอนอ่านไม่ได้หวังอะไรเลย แล้วแบบไม่ใน่ใจว่าเคยอ่านตัวอย่างมาก่อนไหม แต่พอหยิบแล้ววางไม่ได้เลย สนุกมากก แล้วเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายแฟนตาซีมาก่อนเลยยาววว อย่างที่บอกว่ามีความAvatarเราก็คิดว่านักเขียนต้องได้inspiredมาแน่ๆ ความโลกคู่ขนาน สิ่งมีชีวิตหลายอย่างๆ ต้นไม้ที่หล่อเลี้ยงสรรพสิ่งมีความเป็นใหญ่คือใช่เลย แต่ก็มีเสริมพวกความร้ายกาจและพลังของสิ่งมีชีวิตแบ่งเป็นเลเวลต่างๆมาด้วย
  • น้องโม่เย่คือน่ารักมากกก คนที่ชอบเลี้ยงสัตว์น่าจะหลงจุดนี้เหมือนๆกัน มีความหมาความแมวแบบติดเจ้าของหนักมากก เอาจริงไม่อยากให้น้องโตแบบตัวใหญ่ แต่ดูท่าถึงจะโตแต่น้องก็คงรักษาร่างประมาณนี้ได้ยาวๆอะแหละ ในหัวก็คือมีความขาสั้นแล้วเวลาวิ่งเวลาเดินตามโจวอวี้ก็ต้องน่ารักมากแน่ๆ
  • ความหนักใจของคนอ่านอย่างเราก็คงเหมือนโจวอวี้ที่คิดว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ถ้าหากต้องกลับโลกตัวเอง ถ้าอิงแบบอวตารโจวอวี้ก็คงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตระดับSไปเลยแหละแล้วอยู่ด้วยกันยาวๆ หนักใจ หนักใจจริงๆ
  • ตัวละครที่ชอบอีกตัวคืออู๋อวิ้น เป็นตัวละครที่ทำให้เรื่องตลกมาก คือถ้าใครอ่านแปลภาษาอื่นหรือจีนจบแล้วมาบอกด้วยว่าคนนี้จะตายไหม ไปเผชิญภารกิจกับโจวอวี้ตลอดเลย กลัวพี่เขาไม่รอด
  • อีกเรื่องคือโจวชิง ตอนแรกเชียร์ให้คู่กับหมอ แต่คืออ่านไปมามีเสียงแทรก เอาละ สิ่งมีชีวิตระดับSแล้วคือมาดีหรือมาร้าย แต่ว่าตามกฎคืออย่าไว้ใจไง TT
  • ฉากที่อยู่กลางทะเลทรายแล้วโมเย่บังคับให้สิ่งมีชีวิตวนกลับมาช่วยก็คือนึกถึงฉากในหนังเรื่องLife of Pi เลยตอนที่ลอยอยู่กลางทะเลแล้วมีวาฬใต้ท้องเรือคือมันแบบอลังการมากกก

ปมรอตามต่อ

  • สิ่งมีชีวิตที่ได้ยินในหัวของโจวชิงมาดีหรือมาร้าย แล้วมีความสัมพันธ์กับใครในเรื่องมาก่อนหรือเปล่า
  • โจวชิงที่ได้ผลเอลพิสจะเอาไปทำอะไร มีผลกระทบยังไง
  • ตกลงโมเย่เป็นสิ่งที่เรียกว่าอะไร
  • สิ่งมีชีวิตระดับSมีกี่คน
  • ซ่งจื้อทำไมต้องดูดเลือดตัวเองเก็บไว้ด้วย
  • การดูดเลือดของโมเย่ทำไปเพราะอะไร ช่วยอะไร

รีวิว+สปอย | Turing code โปรแกรมลับรีเทิร์นรัก เล่ม3 จบ

เฟยเทียนเย่เสียง เขียน
ผู่เอ๋อร์ แปล


เนื้อเรื่อง

  • เริ่มเล่มด้วยความเฉื่อยแฉะ อ่านไปง่วงไป เป็นการเล่าตอนปัจจุบันกับflash back ย้อนอดีตสมัยทั้งคู่ยังเรียนอยู่สลับไปมา พอแต่พอเข้ากลางเล่มเริ่มสนุกเริ่มฮา มีตอนที่ย้อนเล่าไปตอนที่อธิบายว่ากวนเยวี่ยชอบน้องตอนไหนด้วย กลายๆว่าสารภาพความในใจตอนที่รู้ตัวแล้วว่าคิดยังไงกับน้องก็คือเริศจ้าาา 10 10 10 ก็คือตอนนั้นเพื่อนชายอย่างเจียงจื่อเจียนก็ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีด้วยกับทำพอร์ตผู้ชายดีๆมาให้น้องเลือกว่าอะProfileเป็นอย่างไง เรียนอะไร หน้าตาเป็นแบบนี้มีรูปแนบแบบว่าเป็นCatalogเลยอะ แล้วทางพี่ก็คือไม่โอเคละถ้าน้องจะมีแฟนประมาณนั้น ก็เลยรู้ตัวแล้วก็เปิดเผยความในใจ โห มันดีจริงๆ ก็คือกวนเยวี่ยทำแบบอ้อมโลกมากกก แต่พอพูดอธิบายเท่านั้นแหละ ดียยยยย์ 
กวนเยวี่ยไปตามหาหนังสือให้น้องเป็นหนังสือของ Alan Mathison Turing(บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์) ที่ให้ Christopher Morcom ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคือมีความสัมพันธ์มากกว่าพี่น้องจริงไหมระหว่างสองคนนี้ แต่ทาง Alan Turing ก็คือเปิดเผยนะว่าตัวเองเป็นเกย์(ถ้าคนเคยดูเรื่อง The imitation game อาจจะคุ้น) แต่ในเรื่องนี้บ่งบอกว่าเกินเลยเพราะกระดาษหน้าหนึ่งมีการเน้นข้อความด้วยหมึก ก็เป็นหนังสือที่มีนัยยะและมีความเปิดเผยแต่คือน้องไม่ได้อ่านไง สุดท้ายก็เลยต้องมาบอก ปล.ขอเซนเซอร์เพราะเด็ดจริง สปอยมากกว่านี้คงไม่ต้องอ่านเล่มละ
  • ช่วงแรกจะมีขำๆเรื่องของคู่รองบ้าง ความฮาก็คือบ้านอยู่ใกล้ๆกันแต่คือไม่เคยเจอกัน 
  • มีเรื่องสมัยเรียนของเทียนเหอ ช่วงวัยของการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องการเข้าสังคม เรื่องความรัก ความสับสน
  • แล้วก็มีเรื่องธุรกิจที่เริ่มดุเดือดฟาดฟัน ปั่นหัว วางแผน 
  • พี่ชายคนโตของเทียนเหอกลับมา พี่ชายคนนี้คือเก่งมากก คือออกจากบ้านหายไป20กว่าปีไม่ติดต่อกลับมาแบบว่าไปทำงานเพื่อชาติเป็นงานลับอะแล้วได้เหรียญมาเยอะก็เอามาเป็นของฝากให้คนในบ้านแต่ก็ต้องสูญเสียไปหลายอย่างพอรู้ว่าหลายๆคนก็ล้มหายตายและจากไปแล้วอย่าง เช่น พ่อของตัวเอง ทางเทียนเหอก็คือดีใจนะที่พี่กลับมาตอนนี้ครอบครัวตัวเองก็คือครบทั้งพี่คนโตพี่คนรองและคนรู้ใจอย่างกวนเยวี่ย แต่คือพี่คนโตไม่ถูกใจกวนเยวี่ยนี้แหละปัญหาคือไม่โอเคกับเพศที่สามก็ว่าหนักหนาแล้ว พอมารู้ว่าคนที่ที่บ้านไว้ใจให้ดูแลน้องชายคนเล็กตอนไปเรียนนอกกลับมาเอาน้องชายไปเป็นคนรักก็คือไม่สบอารมณ์อย่างแรงก็ตีกันนานอยู่ ทางพี่ชายคนโตก็คือมาแล้วก็ได้มาเป็นตัวช่วยในเรื่องงานเพราะความเก่งนิแหละเลยถูกน้องชายอย่างเทียนเหอหลอกล่อเซ็นยอมรับสภาพการทำหน้าที่ในบริษัทที่จัดตั้งกันมา ก็คือขำมากก น้องจะโดดหน้าต่างขู่คนพี่เลยต้องยอมเซ็นแต่ยอมไม่จบง่ายๆนะมีการขู่เอาไปจ่อเครื่องทำลายเอกสารด้วย สุดท้ายน้องโดดจริงคนพี่วิ่งไปหาน้องที่โดดไปจากหน้าต่างก็เจอว่ากวนเยวี่ยรอรับน้องอยู่ด้านล่าง เอกสารที่เซ็นก็คือหลุดมือละเครื่องทำลายไม่ได้กินแถมเอากลับคืนไม่ได้เพราะมีคนรับไม้ต่อมาฉกไปก่อน 5555 ทำงานกันเป็นกระบวนการ เป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นที่แกงคนเก่งระดับชาติ
  • อีกอย่างคือความพี่น้องที่เขียนโค้ดเป็นก็คือทำเรื่องปวดหัวให้กับคนในออฟฟิศสุดๆเมื่อแกล้งกันแล้วต้องเอาคืนก็คือกระทบไปหมด อ่านแล้วคือขำนะแต่ถ้ามีอย่างนั้นกับเราจริงๆก็คือต้องกรี๊ดไหม แบบว่าทำอะไรกัน ว่างมากหรอ 5555
ปวดหัวไหมแม่ ที่ถ่ายมาคือส่วนหนึ่งนะ ยังมีต่อจ้ะ ตีกันให้ออฟฟิศแตก ตีกันสองคนแต่คือบานปลายเหมือนคน10คนตีกัน ปล.แอนดี้ที่ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเรื่องที่ต้องฟาดฟันกันกับบ.ของกวนเยวี่ย
  • ตอนพิเศษตอนท้ายก็คือฮา เมื่อกวนเยวี่ยกับถงข่ายเผลอกินยาช่วยลืมลงไป คืนนั้นก็เมาแหละก็ฟัดกับคู่ตัวเองอีกดุเดือด แต่พอเช้ามาคือลืมไง บันเทิง
    • ทางกวนเยวี่ยความจำก็หายสิ่งที่จำได้ก็เป็นช่วงอายุ18 ที่ทั้งกวนเยวี่ยแล้วเทียนเหอยังเรียนอยู่ แล้วสภาพก็เปลือยคืนนั้นฟัดกันสุดไง ตื่นมาพร้อมกับความคิดที่ว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเทียนเหอนะไม่ใช่คนรักของเทียนเหอก็คือ ตายไปเลย ทำอะไรลงไป นี่น้องนะ แล้วเรื่องงานอะไรก็กระทบหมดเพราะอายุ18ก็คือไม่มีประสบการณ์แต่งานที่ต้องรับผิดชอบตอนนี้คือCEOไง เงินเป็นพันล้าน แต่ยังดีที่มีโพรมีทิอุสเวอร์ชันอัพเกรดสุดๆมาช่วยให้รอดพ้น
    • ทางถงข่ายตื่นมาก็คืออาละวาดตามระเบียบแบบว่าถูกล่อลวงมา อาละวาดสุดฤทธิ์สุดเดช ถ้ายังจำช่วงที่ตีกันตอนว่าใครจะรุกจะรับก็นั้นแหละ รับตัวเองไม่ได้เพราะตัวเองโดนไง 555 รู้บทบาทกันแล้วเนาะ

เม้าท์

  • อย่างที่บอกตอนเริ่มว่าอ่านแล้วท้อเลยช่วงแรกเพราะหนาจริง แล้วอ่านไม่ต่อเนื่องไง หลายๆอย่างก็งงว่าเออ..อะไรตอนไหนที่มายังไง 
  • เป็นเล่มที่ฮาและหวานนะ คือบาลานซ์กันได้ทั้งคู่หลักคู่รอง คู่หลักก็อาจจะเรื่องเยอะกว่า แต่คู่รองก็มีประเด็นมาให้เล่นด้วยเหมือนกัน
  • อ่านยากสำหรับเราใน เรื่องธุรกิจ เรื่องการเงิน เรียกได้ว่าไม่มีความรู้เลย เคยแค่เทรดเงินเล็กๆน้อยๆ ถ้าคนที่เรียนสายนี้อาจจะสนุกกับการเล่นเกมส์ของคนรวยที่ใช้การปั่นหุ้น การเลเวอเรจสัดส่วนเงินแล้วยิงตีกันถล่มกัน ไม่ใช่การแก้แค้นแบบฟาดฟันฆ่ากันให้ตายแต่เป็นการเอาเงินเข้าสู้กันให้หมดตัวให้ล้มละลายมากกว่า
  • ฉากอย่างว่าก็คือแซ่บ เทียนเหอไม่ใช่คนขี้อายเด้อ คนขี้อายเป็นทางกวนเยวี่ยซะมากกว่า หลายๆฉากก็คือกล้าเกิน ที่ทำงานบ้างอะไรบ้าง 
เห็นประโยคนี้แล้วคือต้องเก็บอะ หมั่นไส้ ตอนแรกๆก็คืออีโก้สูงปรี๊ดดด
มาตอนนี้หรอเต็มปากเต็มคำไม่บ่ายเบี่ยงรู้เลยนะว่าเจาะจงคนไหน

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม3 จบ

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ

เล่ม3 หน้าปกน่าจะเป็นต้นแป๊ะก๊วยหน้าบริษัทของสีชิงไหม ที่ได้ทำการถอนต้นไม้เก่าออกแล้วเอาต้นไม้ที่น้องชอบลง จนกลายเป็นเอกลักษณ์เป็นจุดเด่นของบริษัทเลยที่ใครผ่านก็ต้องมองต้องถ่าย

เม้าท์

  • บอกก่อนเลยว่าเล่มนี้หวานอะ แบบว่าย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วไปอยู่บ้านสีชิง คืออ้างกับคนอื่นว่าเชฟที่บ้านสีชิงทำอาหารอร่อยเลยย้ายไปอยู่ด้วย อยากจะแหมมมมม่ ยาวๆ ทุกคนรู้ ประตูบ้านรู้ โคมไฟรู้
  • ความโหด เฉือนนิ่มๆของเสี่ยวเฉียวยังคงเส้นคงวา อ่านแล้วสะใจ ยิ่งมีตอนที่น้องลับฝีปากกับทนายอีก คำด่าแบบแบบฟังแล้วต้องคิดตามอะ สุดจริงด่าแบบคำปกติทั่วไปมันไม่เหมาะกับนักเรียนดีเด่นแบบน้อง
  • ฉากNC ไม่มีบรรยาย ไม่ได้เล่าแบบถึงพริกถึงขิงแบบที่คาดไว้เลย เป็นแบบตัดเข้าโคมแบบว่ารู้กัน ก็คือเหมาะกับเนื้อเรื่องแหละถ้าให้พ่อเทพบุตรเสี่ยวเฉียวมีฉากแบบนั้นก็คิดว่ามันจะกระโตกกระตากเกินไปหน่อยอะ
ครั้งแรกใช่ไหม ครั้งแรก เขินแทนสีชิง
ทำไมน้องพูดอย่างนี้ มันต้องสลับกันไหมอะพ่อเทพบุตร
  • พ่อแม่ของเสี่ยวเฉียวรับรู้ ไม่มีดราม่า เรื่องการคบผู้ชายของน้อง
  • อ่านแล้วยิ้ม ฟิลกู้ด เรื่อยๆ ไม่หวือหวา ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ 
  • เป็นเล่มจบที่เหมือนไม่จบ เพราะอ่านแล้วยิ้มมาตั้งแต่เริ่มเล่มคือเขาอยู่ด้วยกัน พอมาท้ายๆเรื่องทุกอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทางความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนไม่มีอะไรกระทบกระทั่ง พระเอกคือตอนเขินก็น่ารักแต่ตอนดูแลก็คือ ออกหน้าออกตา.ออกปากปกป้องน้องดีมากๆให้ทำอะไรก็ทำ ชวนไปเล่นหนังยังไป 555

เนื้อเรื่อง

  • เริ่มเล่มมาเสี่ยวเฉียวไปงานรับรางวัล แล้วก็แน่นอนจ้ะ ได้รางวัลมา แล้วคือรางวัลใหญ่อะ อ่านไปลุ้นไป พอประกาศก็คือยิ้ม สร้างชื่อเสียงอีกแล้วยัยน้อง เก่งที่สุด สมกับคำว่าเทพบุตรแห่งชาติจริงๆไปที่ไหนก็ได้ดีได้คนชมได้ผลงาน ตอนเล่ม2ได้รางวัลไป1 มาเล่มนี้ได้อีก1 สุดยอด
  • ระหว่างการรับรางวัลก็มีการปะทะกันระหว่างแฟนคลับน้องกับแฟนคลับของดาราใหญ่ สุดท้ายแฟนคลับของเสี่ยวเฉียวชนะไปเพราะน้องได้รางวัลรับใหญ่เมื่อเทียบกันแล้วก็คือน้องได้รางวัลเร็วกว่า แล้วพอดาราคนนั้นมาเม้นต์แสดงความยินดีบังเอิญข้อความนั้นไม่เข้าหูเข้าตาประธานสีเข้าให้ ท่านประธานก็เลยจัดไปหนึ่งดอก สั่งตัดขาห้ามบริษัทในเครือให้งานดาราคนนี้อีกก็กลายเป็นว่าต้องห่างหายจากวงการ ไประยะหนึ่ง
  • น้องก็มีการรับเล่นหนังบ้าง และก็ลงทุนเองด้วยบ้างเพราะเงินมันเหลือ
เสี่ยวเฉียวไม่ได้เป็นแค่นักแสดงนะ เป็นนักลงทุนไปแล้วว
เงินเหลือๆเห็นลู่ทางเลยหว่านพืชรอผลสักหน่อย
  • มีช่วงเสี่ยวเฉียวบอกนะว่าตัวเองเคยเป็นใครอะไรยังไง(เรื่องในชาติก่อน)แต่สีชิงก็คือไม่ได้เชื่อไง แบบว่าเออ.ก็รับฟังไว้ แต่หลังจากนั้นก็มีบางอย่างตงิดใจแล้วก็เลยเริ่มหาข้อมูลเริ่มอ่านหลายๆอย่างที่มีความเกี่ยวพันกับยุคนั้นที่เสี่ยวเฉียวบอกว่าเคยอยู่ จนกระทั่งได้ทำหนังเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ที่น้องเคยอยู่ เป็นเรื่องที่ไม่มีนางเอกมีแต่ตัวเอกซึ่งมองคล้ายๆก็เหมือนเป็นหนังที่ถ่ายทอดชีวิตในชาติก่อนของเสี่ยวเฉียว 🥳🤩🥳🤩🥳🤩

รีวิว+สปอย | เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ เล่ม 1

ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน
Himazan แปล

มี 6เล่มจบ


แนะนำก่อนอ่าน

  • อ่านง่าย สบาย
  • แฟนตาซี โลกมนุษย์ สวรรค์ ปีศาจ ตลกฮา
  • เป็นเรื่องของสัตว์เทพ(มีร่างคน)ที่โดนลงโทษให้มาทำงานในสวนสัตว์เป็นพนักงานตำแหน่ง”สัตว์” เช้าเป็นสัตว์ เย็นเป็นคน
  • แล้วแต่ละคนก็คือไม่ธรรมดา แบบโหดสุด หลงตัวเองสุด เวทมนตร์อลังการสุด ใฝ่รู้ใฝ่เรียนสุดก็มี
  • อ่านแล้วฟิลกึ่งเกมส์อะ แบบสร้างสวนสัตว์จากร้างๆให้กลายเป็นที่นิยม ตัวเอกก็ได้รับภารกิจเรื่อยๆต้องทำเควส ถ้าไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จก็จะโดนฟ้าผ่า ก็คือไม่มีทางเลือกต้องสำเร็จเท่านั้นใครจะอยากเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ธรรมดามีชีวิตเดียว

ตัวละคร

ต้วนเจียเจ๋อ – ตัวเอก

  • นักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่หางานไม่ได้ไปต่อไม่ถูก ญาติคนไหนไม่รู้ตายเลยได้มรดกเป็นสวนสัตว์ร้าง ตอนแรกก็คิดว่ารับไว้แล้วกะขายเอาเงินแต่แจ็คพอตเจอคำขู่เซ็นรับไปแล้วไม่ทำไม่ได้เดี๋ยวเจอฟ้าผ่าลงหัวตายแบบไม่เกิดใหม่
  • สัญญาที่ว่าเป็นสัญญาที่ชื่อว่า “โครงการแห่งความหวังหลิงเซียว”
  • ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสวนสัตว์
ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นผมลอนอะ 555

ลู่ยา

  • อีกาทองสามขาตัวสุดท้ายระหว่างสวรรค์กับโลก
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนคือหล่อสุด หล่อจริง แต่หน้าไม่รับแขกสุดๆเช่นกัน
  • โหดสุด หลงตัวเองสุดๆ ให้ทำอะไรไม่ชอบทำอย่ามาใช้งานกันนะ แต่ถ้าชมหน่อยยอพี่เขาหน่อยก็คือทำได้ เดี๋ยวทำให้แหละ 5555
  • ในสวนสัตว์เป็นนกไม่ระบุสายพันธ์
  • เป็นลูกพี่ใหญ่ของสวนสัตว์เลยแหละ สัตว์ตัวไหนก็กลัว เป็นขาใหญ่
  • อาหารต้องให้ต้วนเจียเจ๋อทำให้เท่านั้น ต้องทำ คนอื่นห้าม ห้าม ห้าม

โหย่วซู

  • จิ้งจอกเก้าหางในตำนาน
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนเป็นเด็กน้อย สาวน้อย หลอกตามากใครเห็นก็คือเอ็นดู แต่อีแม่อยากฟาดกระต่ายสดมาก หิวของดิบ
  • ในสวนสัตว์เป็นจิ้งจอกอาร์กติกสีขาว เริศเชิด
  • ความสามารถนางเรียกได้ว่าใครๆก็ต่างบูชาแค่เห็นร่างแล้วขอก็ได้สิ่งนั้นเลย กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ประจำสวนสัตว์ พิมพ์99แล้วสาธุได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ไป๋ซูเจิน และ เสี่ยวจิง

  • นางพญางูขาวและผู้ใกล้ชิด
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนเป็นผู้หญิงและผู้ชาย ตามปกติผู้ใกล้ชิดจะเป็นหญิงแต่มีเหตุ
  • ในสวนสัตว์เป็นงูขาว และงูเขียว 

หูต้าเหวย

  • จิ้งจอกปีศาจ 
  • ถูกจับผลัดจับมาเป็นแรงงานทาสในสวนสัตว์ ถูกกดจากรุ่นพี่(เดาไม่ยากว่าใครที่วิชาแกร่งกล้า) ทำงาน24/7 รับใช้และประจบผู้อำนวยการ
  • ในสวนสัตว์เป็นจิ้งจอกแดง

สงซือเชียน

  • หมี
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ในสวนสัตว์เป็นหมีดำ
  • คือเป็นตัวละครที่น่ารักมากก แบบว่าเป็นคนตัวใหญ่เปิดมาฉากมาฉากแรกแบบโหดเลยนะ แต่พอเอาเข้าจริงเป็นคนซื่อๆรักการเรียนรู้ บอกว่าตอนทำงานตอนเช้าที่เป็นร่างสัตว์อยากได้หนังสือ เอาไว้อ่านในกรงเพราะเป็นคนรักการเรียนรู้ ต้วนเจียเจ๋อก็คือไปไม่เป็นเลยอะเพราะเป็นสัตว์เด้ออ อยากให้คนอื่นรู้หรือไงว่าไม่ได้เป็นสัตว์ปกติอะ ก็เลยได้แค่เอาทีวีไปติดให้ แล้วก็ยังไม่พอรีเควสช่องข่าวด้วย 555 อยากติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ตลก

เนื้อเรื่อง+เม้าท์

เปิดมาก็เป็นการรับมรดกตกทอดจากญาติและความหดหู่หลังจากที่ได้รู้ว่าสวนสัตว์ไม่สามารถขายต่อได้ต้องถือไปเป็นระยะเวลา70ปี และถือเฉยๆไม่ได้ด้วยนะต้องปรับปรุงสวนสัตว์ต้องทำเควสตามที่ระบบประกาศ ก็คือมีแอปติดตั้งในโทรศัพท์เลยแล้วเช็คเอาว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำเสร็จสำเร็จก็มีรางวัลให้ แต่ถ้าไม่สำเร็จก็คือโดนฟ้าผ่า(ตายไหมไม่รู้เพราะเล่มนี้ยังไม่โดน) 

สภาพสวนสัตว์ร้างเดิมก็ยังพอมีสัตว์อยู่บ้างแต่ก็แห้งแล้งมากเพราะโดนคนที่จ้างมาให้อาหารโกงเอาอาหารไปเยอะ พอต้วนเจียเจ๋อมาดูก็แก้ก็ปรับปรุงหลายอย่าง และสัตว์ตัวแรกที่มาช่วย(?)ก็คือลู่ยา ช่วยให้ดีขึ้นหรือช่วยให้ลำบาก555 เอาใจยากมากพ่อ เรื่องทำเควสก็เป็นพวกหาเงินเข้าให้ได้ ให้คนเข้ามาเที่ยวตามจำนวน หาสัตว์เข้ามาตามจำนวนต้องเป็นสัตว์ประเภทนี้ รางวัลที่ได้ก็พวกปรับปรุงสวนสัตว์ ทัศนวิสัย อาคาร คือทำทุกอย่างแต่ไม่ได้ทำอาคารอำนวยการ แล้วอาคารเนี่ยก็เป็นสิ่งที่ต้วนเจียเจ๋ออยากแก้มากอยากทำใหม่แต่ไม่มีตังค์ เศร้า

ความฝันอย่างหนึ่งของต้วนเจียเจ๋อคือมีอควาเรียม คือนางเป็นคนที่เลี้ยงปลาขึ้นมือมาก แบบว่าเลี้ยงดีจนงง เลี้ยงรวมกันก็ยังรอดจนเป็นที่สงสัย ด้วยความอยากมีแต่ทำอะไรไม่ได้ต้องเก็บเงินทำสวนสัตว์นี้ก็เลยมีแหละอควาเรียมหน่ะ…แต่เป็นขนาดตู้ปลา55555 และเพราะเรื่องปลานิแหละก็ทำให้ต้วนเจียเจ๋อได้คอนเนคชั่นอลังกาล รู้จักคนใหญ่คนโต

ด้วยความที่สวนสัตว์มีสัตว์เทพและปีศาจก็เลยมีเรื่องมีราวกับสำนักพรตที่ชื่อว่าสำนักหลินสุ่ย เป็นสำนักพรตที่มีชื่อเสียงมากในเมืองก็คือก่อตั้งมาเป็นพันปีละ คนก็นับหน้าถือตาเป็นทั้งที่ท่องเที่ยวและที่พึ่งพาทางใจ เรื่องเกิดเพราะนักพรตจับได้ว่ามีไอปีศาจที่สวนสัตว์แล้วคือต้วนเจียเจ๋อก็รู้อยู่แก่ใจแหละว่ามีจริงๆ5555 แต่คือจะไปบอกว่ามีไม่ได้ ก็ต้องบ่ายเบี่ยงจนสุดท้ายได้ลู่ยาเข้ามาช่วย ลู่ยาก็แบบเหมือนใช้กลแล้วไปหลอกว่าเป็นพุทธที่แกร่งกล้ามากจนนักพรตคนนั้นต้องนั่งสมาธิเข้าญาณไม่ออกหลายวันจนทำให้ทางสำนักเดือดร้อนเพราะกลัวว่านักพรตคนนี้จะเปลี่ยนศาสนาคือเป็นศิษย์เอกไง ไปมาเลยกลายเป็นที่รู้กันว่าที่สวนสัตว์มีคนที่วิชาแกร่งกล้ามาก ห้ามไปมีเรื่องด้วย ถ้าช่วยอะไรก็ช่วยถ้ายิ่งถูกออกปากจากต้วนเจียเจ๋อคือห้ามปฏิเสธ สวนสัตว์ก็เลยได้อานิสงค์หลายอย่าง

อีกอย่างที่เป็นเรื่องน่ารักเลยก็จะเป็นเรื่องของสัตว์ ในสวนสัตว์ตอนแรกก็จะแห้งแล้งมากแต่พอทำเควสได้รางวัลเป็นอาหารก็คือจะอุดมสมบูรณ์มากกว่าทั่วไปเพราะเป็นเนื้อเป็นอาหารที่มีพลังวิญญาณ คือถูกส่งมาจากสวรรค์อะแหละ ทำให้สัตว์ทุกตัวขนสวย จิตใจเบิกบาน บวกกับความที่มีลูกพี่คุมอยู่(ลู่ย่า)คุยภาษาเดียวกันก็เลยแลดูเป็นสัตว์ที่เชื่องมากเรียกได้ว่ารู้ความมากกว่าปกติ ทำให้เวลามีคนถ่ายคลิปหรือมีไลฟ์ไปโผล่บนSNSก็จะกลายเป็นที่ฮือฮากันมาก 

  • อย่างฉากที่สงซือเชียนหรือหมีดำที่ว่าชอบการเรียนรู้อะ มีช่วงที่เปิดข่าวแล้วคือนางยืนดูข่าวไงคนที่เห็นก็จะแบบ อะไรอะ ไม่เคยเห็นหมีดูข่าว ดูรู้เรื่องหรอ แล้วมีความหาของกินมากินไปดูไป 
  • มีคนมาไลฟ์สด แบบว่าชื่อดังคนตามเยอะ
  • ถ่ายโฆษณา

ทางสวนสัตว์ก็มีSNSเป็นของตัวเองด้วยก็เหมือนจะดูง่ายนะ แต่เควสบอกเลยว่ายากขึ้นเรื่อยๆต้องแบบใช้ทั้งเงิน(ที่ไม่ค่อยจะมี) ใช้เวลา และคอนเนคชั่นในการสร้างชื่อเสียงอีกเยอะแยะมากมาย

ส่วนที่อ่านแล้วลุ้นคือความจะแตกไหมที่สวนสัตว์มีทั้งมนุษย์และพนักงานตำแหน่งสัตว์อยู่ร่วมกัน คือต้วนเจียเจ๋อเป็นคนเดียวที่รู้ว่ามีคนที่ไม่ใช่คนอยู่ โป๊ะไหมต้องรอดูเพราะคนเริ่มเยอะแล้วตอนนี้

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความน่ารักของผู้อำนวยการต้วนเจียเจ๋อในทรงผมใหม่ดัดลอน ทรงผมนี้มีที่มา จะเป็นช่วงท้ายเล่มแบบว่าน่ารักเอ็นดูนาง ไม่ชอบนะ แต่ว่าแก้ไม่ได้ละ55555 


ที่มาของรูปตัวละคร
《我开动物园那些年》 第1话:我是陆压【加入会员专享全集】


รีวิว+สปอย | S.C.I. #ทีมพิฆาตทรชน เล่ม 1

เอ๋อร์หย่า (ErYa) เขียน
ชุนลี แปล

13 เล่มจบ

แนะนำก่อนอ่าน

  • เนื้อหามีส่วนที่ค่อนข้างรุนแรงไม่เหมาะสำหรับคนจิตใจอ่อนไหว
  • เป็นแนวสืบสวนสอบสวน
  • เป็นทีมพิเศษที่ชื่อว่า S.C.I. เป็นการรวมเอาคนเก่ง คนหัวกะทิในแต่ละด้านมารวมกันทั้งสืบสวนสอบสวน ต่อสู้ จิตวิทยา แพทย์นิติเวช และอื่นๆ เพื่อไขคดีที่มีความซับซ้อนยุ่งยาก

เล่ม1 ไป๋อวี้ถัง(บน) – จั่นเจา(ล่าง)

เล่ม 1 ตอนที่ 1 – ตอน ฆาตกรหมายเลข

เกริ่น

  • ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
  • จิตวิทยา

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

คู่ 1 – ไป๋อวี้ถัง(หัวหน้าหน่วย เก่งสืบสวน ต่อสู้) กับ จั่นเจา(หัวหน้ารอง อัจฉริยะด้านจิตวิทยา)

           เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนรู้จักกันมาแต่เด็กที่บ้านรู้จักกันสนิทกันแถมเกิดเวลาไล่เลี่ยกันก็เรียกได้ว่าตีคู่สูสีกันมาแต่เด็กเลย ผลัดกันชนะผลัดกันแพ้ พอโตขึ้นก็มีทางเป็นของตัวเองแยกกันไปแต่พอมีการจัดตั้งทีมS.C.I. ก็ได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ทางไป๋อวี้ถังก็คือเอ๊ะอะจับจูบ ส่วนทางจั่นเจาจะยอมไม่ยอมหรือมีปฏิกริยาตอบรับรุนแรงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ก็ยังไม่รู้ที่มาที่ไปว่าความสัมพันธ์จากคนที่ตีกันตอนเด็กกลายมาจับจูบกันตอนไหน อย่างไร

ก็คือยังไง ยังไง แม่!!! ต้องสู่ขอแล้วไหมมมม

คู่ 2 – ไป๋จิ่นถัง(พี่ชายไป๋อวี้ถัง) กับ กงซุน(แพทย์นิติเวชมือ1ของทีม)

          เป็นคู่ที่มีความตลกเพราะต่างคนก็ต่างดูเกินๆไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร ทางไป๋จิ่นถังก็คือเป็นนักธุรกิจที่รวยมากซื้อรถสปอร์ตให้น้องชายสบายๆทั้งที่น้องก็ไม่จะดูแลพี่ดีเท่าไหร อยากได้อะไรก็ต้องได้แล้วพอมาถูกใจกงซุนก็คือ…นึกภาพตอนตกลงปลงใจกันไม่ออกว่าจะจบดียังไง ขำตั้งแต่กงซุนเมาแล้วไป๋จิ่นถังเอาปากกามาเขียนบนตัวกงซุนว่า’จองแล้วนะที่ตรงนี้’ ก็คือฮา คนปกติเขาไม่ทำกันนะแบบนี้ แล้วบังเอิญวันนั้นกงซุนโดนโรคจิตที่แบบคลั่งไคล้ในตัวกงซุนจับไปอีกก็คือสติแตกไหมถามมมม

คู่นี้มันฮาจริงๆ

เนื้อเรื่อง

เรื่องเกิดเมื่อมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น แล้วศพทุกศพบนหลังใบหูจะมีตัวเลขกำกับไว้เหมือนหมูที่โดนฆ่าแล้วมีตัวเลขประทับ ซึ่งตัวเลขก็คือรันเป็นจำนวนหลายร้อย แต่ศพที่พบตัวเลขข้ามไปข้ามมาไม่ได้เรียงกัน คดีนี้สืบไปสืบมากลายเป็นว่าไปพัวพันกับคนที่มีชื่อเสียงและมีตำแหน่งทั้งวงการจิตวิทยาและวงการของตำรวจ เป็นคดีเก่าแก่ที่เคยโด่งดังมาก่อนแต่ปัจจุบันไม่มีใครพูดถึงแบบลงรายละเอียดและแฟ้มคดีก็หายไปไร้ร่องรอย เรื่องราวสืบไปหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้โยงเข้ามาถึงตัวละครหลักทั้ง จั่นเจาที่มีคนติดตามแบบชื่นชอบมากๆจนกระทั่งได้ถูกฆาตกรรมแต่ก่อนจะตายก็ยังให้ข้อมูลช่วยเหลือ ทางกงซุนก็มีโรคจิตติดตามซึ่งก็เกี่ยวพันกับคดีนี้อีก ยังมีพี่ชายของไป๋อวี้ถังที่เป็นคนมีความเกี่ยวพันกับคนตัวการหลักของคดีซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกี่ยวพันขนาดไหนด้วย คือทุกคนโดนหมด แน่นอนว่าคดีปิดได้คนร้ายตายหมด(ฆ่าตัวตาย)แต่ตัวการหลักลอยนวล คงได้ตามต่อในตอนอื่นๆเพราะเก่งมากจริงขนาดว่าฆ่าคนได้ทั้งที่ไม่ต้องออกเสียงซะด้วยซ้ำ

ความหลอนของตอนนี้ก็คือ พี่ชายของไป๋อวี้ถัง ชื่อ “ไป๋จิ่นถัง” เป็นคนที่อายุพอจะทันเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกับคดีโด่งดังซึ่งตอนนี้ตามหาเบาะแสไม่ได้ไม่มีใครบอก ทางจั่นเจาก็เลยจะทำการสะกดจิตเพื่อหาร่องรอยของคดีนี้ว่าเป็นยังไง เผื่อจะมีอะไรเหลืออยู่บ้างที่ต้องสะกดจิตก็เพราะว่าทางไป๋จิ่นถังเกิดอุบัติเหตุตอนเด็กทำให้เวลาในช่วงเด็กหายไป พอได้ย้อนกลับไปจั่นเจาก็เหมือนได้รับรู้อะไรหลายๆอย่างแล้วอยู่ๆไป๋จิ่นถังก็ทำท่าทางออกมาแบบไม่รู้ตัว นั้นก็คือ ยื่นนิ้วชี้ออกมาแนบเข้ากับริมฝีปากแล้วส่งเสียง ‘ชู่ว์‘ ออกมา

บอกได้เลยว่าร้องเชี่—หนักมากกกกก

 ก็คือหลอนมากกกกก อยากจะกรี๊ด แบบอ่านตอนกลางคืนก็คือเสียวขาขนลุก เพราะการกระทำนี้จะเป็นที่รู้กันว่าเป็นท่าทางของตัวร้ายตัวหลักของตอนที่ทำจนติด คล้ายกับว่าเป็นท่าทางประจำตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการกระทำนี้ก็เป็นไปได้ว่า ไป๋จิ่นถังเคยใกล้ชิดกับคนร้าย(ก็เป็นไปได้เพราะเหมือนพ่อซึ่งเป็นตำรวจเคยสนิทกับคนนี้มาก่อนแบบเคยเป็นเพื่อนกันทำงานร่วมกันแต่คนนี้เดินไปอีกทาง) หรือเคยถูกชักจูงทางจิตจากคนร้าย ซึ่งก็ต้องตามต่อ

เฉลย : คนร้าย = เจ้าเจ๋ว์ อัจฉริยะด้านจิตวิทยา ให้คนอื่นฆ่าคนให้ได้โดยไม่ต้องออกปาก และหลบหนีการจับกุมได้ในท้ายที่สุด 


เล่ม 1 ตอนที่ 2 – ค่ายฝึกอบรมนักฆ่า

เกริ่น

  • ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
  • จิตวิทยา
  • มีฉากขืนใจ

เนื้อเรื่อง

ในงานเลี้ยงนักจิตวิทยาชื่อดังถูกซุ่มยิงจากมือปืนอายุน้อยแต่บุญบาปโชคดีที่มีไป๋อวี้ถังในงานด้วยเลยรอดตายบาดเจ็บนิดหน่อยส่วนมือปืนก็โดนมือดีอย่างไป๋อวี้ถังสอยร่วงตายในนัดเดียว หลังจากตามหาและระบุตัวคนร้ายก็ได้ความว่าเจ้าตัวเป็นนักศึกษาธรรมดา เป็นพี่ชาย เป็นนักดนตรีมือเบส แต่แค่เป็นโรคนอนละเมอและได้พบหมออยู่เรื่อยๆซึ่งหลังจากเรื่องราวประกอบกันหมดความจริงแล้วก็คือคนนี้เป็นโรคหลายบุคลิคซึ่งตัวร้ายใช้โรคนี้ให้เป็นประโยชน์ปั้นคนก่อการร้ายปั้นมือปืนซุ่มยิง

จากการลอบยิงในช่วงนี้สังเกตได้ว่าแต่ละครั้งมือปืนจะจำกัดระยะการยิงแค่500เมตร ซึ่งเป็นระยะทั่วไปในการซ้อมยิงที่สนามยิงปืน หลังจากนั้นก็ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เป็นทั้งการลอบฆ่า การสร้างความปั่นป่วน ซึ่งแต่ละครั้งล้วนมีความสัมพันธ์กัน พอไปสืบหาลงลึกค้นเมลล์คนก่อเหตุก็เจอว่ามีจดหมายหลายฉบับที่ส่งมาในวันเกิดเหตุโดยมีการลงนามว่าส่งมาจาก Killer Trianing Camp ทางS.C.I.เลยจำกัดวงแล้วส่งคนเข้าไปเป็นเหยื่อล่อซึ่งคนนั้นก็คือ”หม่าฮั่น”ที่เก่งเรื่องซุ่มยิง คนพวกนี้จะจิตแกร่งกว่าปกติทำให้การแสร้งเป็นคนจิตไม่ปกติสามารถทำได้และไม่มีผลกระทบทางจิต(ที่พูดถึงหม่าฮั่นเพราะต่อไปจะเริ่มมีบทบาทเด่นละรอๆ) แล้วก็โป๊ะ!หม่าฮั่นตกเหยื่อได้ ได้รับเมลล์ต่างๆแล้วก็ได้ทำตามขั้นตอนที่จั่นเจาบอก ลุล่วง

เฉลย : ค่ายฝึกอบรมนักฆ่าเป็นการแข่งขันด้านจิตวิทยาของหมอบ้าๆสองคน โดยการปั่นหัวคนใช้ประโยชน์จากโรคหลายบุคลิคหรือโรคต่างๆที่เข้าข่ายในการสร้างเครื่ืองมือทำลายล้างให้คนเหล่านั้นไปกำจัดไปปิดปากโดยโยงไปต่างๆนานาให้คนนั้นคนนี้กลายเป็นแพะแล้วตัวเองลอยนวล โดยถ้าสำเร็จก็คือการทดลองทฤษฎีที่ตั้งไว้ก็ลุล่วง

ตัวละครใหม่

ไป๋ฉือ

  • ลูกพี่ลูกน้องของไป๋อวี้ถัง
  • เป็นตำรวจเหมือนกัน ฉากแรกที่เจอเป็นตอนที่ไป๋อวี้ถังและจั่นเจาไปตามดูคนร้ายที่ยิงตายในฉากแรกที่ลอบยิงนักจิตวิทยา ไป๋ฉือก็คือเป็นคนเง๋อง๋ะนิดๆ เป็นตำรวจแต่ใช้ปืนไม่เป็นขี้ตกใจแล้วครั้งนั้นเป็นการเดินลาดตระเวณครั้งแรกด้วยก็แจ็คพอตเจอคนร้ายที่โดนยิงเป็นศพ 
  • ครั้งสองที่เจอก็เลยได้รู้ว่าเป็นญาติกัน พอได้คุยไปมาเลยรู้ว่าไป๋ฉือเป็นคนที่IQสูงมาก จั่นเจาก็ปลอบว่าเป็นตำรวจไม่ต้องต่อสู้เก่งเหมือนคนในตระกูลไป๋คนอื่นก็ได้นะ ตำรวจไม่ต้องบู๋เก่งอย่างเดียว ขนาดตัวจั่นเจาเองบู๋ไม่เก่งยังเป็นตำรวจเลย ไป๋ฉือเลยฮึดเลย จากนั้นก็เลยให้มาฝึกงานที่S.C.I.ทำฝ่ายเอกสารดูก่อน
  • มีฉากหนึ่งที่ไป๋ฉือขึ้นรถไปแล้วเจอคนคนหนึ่งซึ่งยังเป็นที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นเจ้าเจ๋ว์ที่เป็นคนร้ายในตอนที่1เล่ม1

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

คู่ 1 – ไป๋อวี้ถัง(หัวหน้าหน่วย เก่งสืบสวน ต่อสู้) กับ จั่นเจา(หัวหน้ารอง อัจฉริยะด้านจิตวิทยา)

          ในตอนที่1อ่านแล้วดูคลุมเครือว่ายังไง พอมาตอนนี้ก็คือจ้าา ขอกันเป็นแฟนแล้วจ้าาา ก็ตอบตกลงกันไป มีฉากหวานๆเขินๆเรื่อย

เขินไหม ถามมมมม

คู่ 2 – ไป๋จิ่นถัง(พี่ชายไป๋อวี้ถัง) กับ กงซุน(แพทย์นิติเวชมือ1ของทีม)

          จากตอนแรกที่ดูฮาๆดูไม่น่าจะพัฒนาได้เร็ว แต่มาตอน2ก็คือทะลุปรอทเพราะอีพี่ไปฟันเขาซะงั้น ก็แบบว่าหึงมาก หน้ามือเลยจัดเขาบนรถเลย กงซุนคือโกรธสุดก็มาแบบนิ่งๆเลยไม่อยากยุ่งละไม่พอใจ ทางน้องชายก็เข้าใจแหละว่าพี่ชายตัวเองไม่ปกติก็เลยมาคุยกับกงซุนดู ทางกงซุนก็เหมือนจะเข้าใจพฤติกรรมไป๋จิ่นถังมากขึ้นเพราะเป็นผลกระทบจากที่ตอนเด็กที่มีช่วงหนึ่งคามทรงจำหายไปแล้วหลังจากนั้นก็เลยเปลี่ยนไปเหมือนกลายเป็นคนละคน ขนาดตัวไป๋อวี้ถังที่รักพี่ชายนะแต่บางครั้งก็ยังกลัวๆเลย ทางกงซุนก็โอเคมากขึ้นก็ยอมกลับไปคุย เปิดใจดูค่อยๆปรับไป อย่างว่ากงซุนก็ไม่ใช่คนปกตินะเอาจริงๆ 5555 

          อีกอย่างที่ฮาก็จะมีลูกน้องของไป๋จิ่นถังที่เป็นคู่แฝดติง คู่นี้ก็คือเป็นลูกรับได้ฮามาก เชียร์อัพลูกพี่ตลอดเรื่องกงซุน

แต่คือน่าจะเป็นเชียร์อัพให้ฝั่งที่ได้เปรียบ ณ ช่วงเวลานั้นๆมากกว่านะ 5555

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม2

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ

มาเล่ม2หน้าปกดูเข้าที่เป็นสีชิงยืนกางร่ม แต่พออ่านจบแล้วก็ยังคิดไม่ออกว่าไปยืนกางร่มตอนไหน แต่เป็นปกที่แสดงแนวทางของเนื้อเรื่องได้ดีนะแบบว่าทำให้คนที่มองดูออกง่ายว่าเออ เป็นเรื่องแนวปัจจุบัน ถ้าเป็นเล่ม1คนที่แค่มองผ่านไม่อ่านเรื่องย่อหลังเล่มคงคิดว่าเป็นแนวจีนโบราณแต่เล่มนี้โอเค คนใส่สูท มีรถหรู

เส้นเรื่อง

  • ยังคงความเรื่อยๆในการพัฒนาความสัมพันธ์
  • สีชิงรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้คิดกับเสี่ยวเฉียวแบบเพื่อน แน่ละเพื่อนที่ไหนทำกันขนาดนี้
  • ยังมีการเปิดตัวความสามารถของเสี่ยวเฉียวที่ให้ต้องตะลึงอีกละ เก่งไปไหน
  • มีความห่วงเสี่ยวเฉียวออกนอกหน้านอกตามากกก หมั่นไส้
  • สีชิงและเสี่ยวเฉียวสนิทกันจนคนรอบข้างแปลกใจ ขำตรงคนใกล้ตัวสีชิงแบบบอดี้การ์ดคนงานในบ้านคือรู้แกวกันหมดละว่าต้องทำตัวยังไงกับเรื่องของเสี่ยวเฉียว
  • ฉากแสดงการจิกกัดคนที่มาแบบไม่หวังดีของเสี่ยวเฉียวคือ 10 10 10 ร้ายมาร้ายตอบ ฉันไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณหรอก
  • เรื่องธุรกิจของตระกูลใหญ่เริ่มทวีความรุนแรง

สปอยละขอมาแนวเม้าท์ไปทีละข้อ

  • จากการที่เสี่ยวเฉียวไปเล่นหนังระดับชาติก็ทำให้เสี่ยวเฉียวได้รางวัลใหญ่มาตั้งสองรางวัล สุดยอดมากกกก บอกแล้วว่าเก่งไปหมดทุกอย่างทุกทางจริงๆ
  • เสี่ยวเฉียวได้รับเชิญไปงานนานาชาติเป็นงานที่รวมคนหลายๆชาติมาแสดงผลงานทางศิลปะ ทางเสี่ยวเฉียวที่เป็นนักวาดพู่กันแบบไม่มีใครรู้จักหน้าตาปิดเป็นความลับมาตลอดแต่ทางคนในวงการจำฝีแปรงของเสี่ยวเฉียวได้เลยรู้ตัวตน งานของเสี่ยวเฉียวคือมีค่ามีราคาในตลาดมาก ด้วยความที่กลับมาเกิดใหม่เสี่ยวเฉียวก็จะรู้รายละเอียดรู้องค์ประกอบการจัดวางรู้วิธีการที่สรรสร้างทำให้ภาพหรือวิธีการที่เสี่ยวเฉียวถ่ายทอดลงกระดาษมีค่ามากๆ ยิ่งบวกกับหน้าตาความสามารถที่เป็นดาราดังเพิ่งได้รับรางวัลใหญ่อีกก็ทำให้แตก งานแตกแบบใครๆก็ต้องการสัมภาษณ์ ยังไม่นับงานที่เสี่ยวเฉียววาดมาโชว์อีกที่ทำให้คนในวงการถึงกับต้องหลั่งน้ำตาที่ได้ยล
  • สีชิงมีการเอาเสี่ยวเฉียวไปแนะนำกับเพื่อนแล้วนะจ้าาา แบบเพื่อนก็เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันแหละและเป็นพวกตระกูลใหญ่เหมือนกันเพราะเรื่องธุรกิจเริ่มดุเดือดก็กลัวอีกฝ่ายจะเล่นสกปรกเลยหาที่พึ่งหาคอนเนคชั่นให้เสี่ยวเฉียวเพิ่ม คือทางเสี่ยวเฉียวก็เป็นแค่คนมีตังค์ไม่ได้มีอำนาจ ขำตอนพอเสี่ยวเฉียวไปงานนานาชาติก็ได้ซื้อของกลับมาฝากเพื่อนแล้วทางสีชิงคือมองของที่น้องจะให้เพื่อนแล้วดูอิจฉาอะ 555 แบบว่าของตัวเองละ มีให้คนอื่นแล้วฉันละ สุดท้ยของสีชิงก็มีจ้าา แล้วคือถ่ายอวด 5555 ลงSNSไปเลย หมั่นมากกก หมั่นไส้
  • ต่อมาเสี่ยวเฉียวไปออกกองถ่ายเป็นแบบปิดถ่ายในที่ห่างไกล ความเจริญไม่ค่อยมี อาหารก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ ตอนลากันขึ้นเครื่องก็คืออ้อยอิ่งมากกกกก ไปสักทีเถิดพ่อ คือตัวเองก็ส่งบอดี้การ์ดในร่างคนดูแลสุขภาพไปด้วยนะ(บอกว่าเป็นอดีตพยาบาลเก่า แต่สภาพคือถ้าบอกเป็นทหารเก่าจะน่าเชื่อถือกว่าและแน่ละเอามาเป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยน้อง) บวกความห่วงความคิดถึงเข้าไปอีกคือไปเยี่ยมกองถ่ายทั้งๆที่อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะยกกองละ บอกว่าเป็นกองปิดนะแต่คือบ.สีชิงเป็นคนออกเงินให้กองไงจะเข้าไปดูก็เข้าได้ ก่อนหน้านี้คือเสี่ยวเฉียวบ่นให้ฟังว่าอยากกินหม้อไฟบวกกับได้รับอุบัติเหตุสิชิงก็เลยได้หิ้วของไปหาแล้วคือต้องนั่งออฟโร้ดไปนะเพราะทางคือไม่ดีฝนตกทางเละ แล้วห้องก็ได้นอนด้วยกันเพราะที่พักไม่พอ ดี ดีไปหมด ก็คือลาภปากคนในกองถ่ายเพราะหม้อไฟเนื้ออร่อยมาก อาหารอร่อยมันหาได้ยากแถวนี้ ดูสภาพหม้อไฟคนที่เอามาด้วยก็น่าจะเป็นเชฟด้วยซ้ำ แต่คนอื่นเข้าใจว่าเป็นบอดี้การ์ดสีชิงที่ทำกับข้าวเป็น 5555
  • เสี่ยวเฉียวป่วย!!! บอดี้การ์ดที่ส่งไปดูแลรายงานมา ก็เอาเลยจ้ะให้มานอนที่บ้าน แล้วคือคนทำอาหารที่บ้านน้องก็ลาพอดีน้องเลยตกลงไปอยู่ด้วย อะไรจะเหมาะขนาดนี้บรรยากงบรรยากาศ ฝนตกไฟดับคนในบ้านก็เป็นใจ ทุกคนรู้หมดว่าคนนี้เจ้านายชอบ 
  • จบเล่ม2ก็มาบอกชอบเสี่ยวเฉียวตอนท้าย เอาจริงตอนอ่านเล่ม1คิดว่าจะบอกเร็วกว่านี้นะ เพราะดูเข้าหาเร็ว สรุปคือเข้าหาเร็วแต่รู้ตัวช้า บอกช้า แล้วเสี่ยวเฉียวก็คือให้ดูๆกันไปก่อน เล่ม3ก็ไม่รู้จะหวานกันเยอะไหมเพราะดูจะมีเรื่องธุรกิจที่เริ่มดุเดือดละ ส่วนเรื่องในวงการของเสี่ยวเฉียวก็ดูจะลอยตัวไปแล้ว ไม่มีอะไรไม่ดีไม่ดังทุกอย่างคือPerfect
คือบอกคำที่บอกว่าน้องยิ้มตาหยีคือคนอ่านก็ยิ้มตามไง ยิ้มทำไม ฮือออ บอกไปแล้วนะ น้องยิ้มรับก็คือใจชื้นแหละคุณพี่

รีวิว+สปอย | ใครบ้างไม่เคยเห็นซุป’ตาร์ 2เล่มจบ

Molly เขียน
เหอมู๋ แปล


แนะนำก่อนอ่าน

  • นายเอกมีความสามารถในการมองเห็นอนาคตของคนคนนั้นจากการสบตา
  • เรื่องดำเนินเร็ว พระเอกรุกจีบเร็ว เพราะเคยมีความหลังตอนเด็กกันแต่นายเอกจำไม่ได้
  • สายคนชอบพระเอกเปย์สุด ห่วงเก่ง ต้องชอบ
  • ฟิลกู้ด ไม่ดราม่า ตลก อ่านง่าย  จังหวะมันได้
  • นิยายสายวงการบันเทิง 

ตัวละคร

เจียงจื่อเฉิง – นายเอก

เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่ว่ามองตาคนไหนแล้วจะเห็นอนาคตของคนนั้น เจียงจื่อเฉิงเลยได้ใช้ความสามารถนี้กับการทำงานของตัวเอง หลังจากการมองเห็นอนาคตของผู้กำกับคนหนึ่งที่จะสามารถเอาหนังไปได้รางวัลเลยได้เข้าหาเข้าร่วมจนได้เป็นนักแสดงนำของเรื่องนั้นและแน่นอนว่าการมองเห็นอนาคตไม่ผิดพลาด แต่ได้รางวัลนอกประเทศไม่ได้แปลว่าเจียงจื่อเฉิงจะดังในประเทศ จากก่อนหน้านี้ที่เป็นตัวประกอบซึ่งเหมือนขาทองคำของหนังของละครที่ไปอยู่เรื่องไหนเรื่องนั้นก็โด่งดังแต่ด้วยบทที่ได้ก็ไม่ใช้พระเอกพระรองก็ทำให้แฟนคลับไม่ได้อุ่นหนาฝาคลั่งบวกกับการสนใจแต่ละครไม่ค่อยออกงานออกวาไรตี้เลยจะดูเหมือนมีหน้าตาออกมาให้เห็นบนจอเป็นบางช่วงเท่านั้น  

ประสบเคราะห์ดีมาแล้วแต่กลับมาก็ต้องมาเจอกับบริษัทที่สังกัดไปต่อไม่ได้โดนบริษัทใหญ่อย่าง”รุ่ยฉือ”เข้ารวบ แต่พนักงานในบ.เก่าที่ยังถือเป็นพี่น้องกันก็ได้รับการช่วยเหลือจากเจียงจื่อเฉิงในการมองอนาคตและพบเจอว่าให้เปิดร้านหม้อเป็นดี จากการรวมกับบ.ชื่อดังอย่างรุ่ยฉือเอนเตอร์เทนเมนต์ก็ได้ทำให้ชีวิตของเจียงจื่อเฉิงเปลี่ยนไป  

เซี่ยเป่ยวั่ง – พระเอก

เป็นลูกชายของประธานเซี่ยเจ้าของบ.รุ่ยซือ มีน้องสาวหนึ่งคนที่รักมาก ดูแลอย่างดีแม้จะเป็นคนละแม่ ตอนเด็กเกิดและโตที่ชนบทอยู่แบบยากลำบากจนวันหนึ่งประธานเซี่ยออกตามหาลูกชายได้รวบรวมและแต่งตั้งมุ่งหวังให้เซี่ยเป่ยวั่งเข้ามาดูแลกิจการ 


เนื้อเรื่อง

ฉากเจอกันครั้งแรกตอนโตเป็นตอนที่เจียงจื่อเฉิงจำได้ไม่รู้ลืมเพราะได้ใช้ความสามารถพิเศษกับเซี่ยเปี่ยวั่งคนคุมบ.รุ่ยซือและได้มองเห็นฉากที่ตัวเองกับเซี่ยเปี่ยวั่งอยู่กันในห้องสองต่อสองในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยบวกกับกระดาษที่เหมือนสัญญาการเลี้ยงดู!  ก็คือวงแตก…การที่เจียงจื่อเฉิงมาอยู่จุดนี้ได้มีรางวัลหนังที่ตัวเองแสดงได้ไม่ใช่เพราะการมองเห็นอนาคตอย่างเดียวแต่มันต้องบวกเข้ากับความสามารถในการแสดงที่เขาต้องมีด้วย การเอาตัวเข้าแลกเพื่อชื่อเสียงอย่างนี้ไม่ได้ ยอมไม่ได้เลยทำตัวห่าง แต่แล้วก็มีแชทเด้งชื่อแชทว่า “เซี่ย” ทางเจียงจื่อเฉิงก็เข้าใจว่าเป็นน้องสาวของเซี่ยเป่ยวั่งอย่างเซี่ยอิ๋งอิ๋งมากกว่า เพราะทางพี่ชายก็ไม่สนิท แถมเป็นเจ้านายอีกจะแอดมาทำไม ก็ได้มีการโต้ตอบไปมาหลายๆครั้งโดยไม่สงสัยเลยว่าจริงแล้ว “เซี่ย”ที่ว่านั่นหนะ เป็นคนพี่

ไปเวนิสงานรางวัลภาพยนตร์ เจียงจื่อเฉิงไปทำงาน ทางเซี่ยเป่ยวั่งก็อยู่บ.ทำงานไปจนกระทั่งน้องสาวที่อยู่ด้วยเบื่ออยากเที่ยวเลยเสนอให้ไปเวนิสเพราะจะตามโอปป้า ทางพี่ชายก็คือโอเคเลยเพราะไปเวนิสก็ได้ตามเจียงจื่อเฉิงด้วยและก็ไปทำงานได้ด้วย มีแต่ได้กับได้ แล้วเรื่องก็เกิดเข้าให้เมื่อทางเซี่ยอิ๋งอิ๋งต้องการแลกห้องกับเจียงจื่อเฉิงเพราะอยากอยู่ชั้นเดียวกับโอปป้า ก็เลยได้ยกห้องตัวเองที่อยู่ชั้นบนราคาแพง2ห้องนอน1ห้องน้ำให้ โดยไม่ได้รู้เลยว่าอีกห้องเป็นของใคร และฉากเจอกันอีกครั้งประทับใจไม่รู้ลืมก็เกิดขึ้นในห้องน้ำ เจียงจื่อเฉิงแช่น้ำแล้วเซี่ยเป่ยวั่งเปิดประตูเข้ามาเจอ 555 แตกเป็นแตก มุดเป็นมุด อีกเหตุการณ์ที่เซี่ยเป่ยวั่งได้แสดงอำนาจก็ตอนเจียงจื่อเฉิงได้แชทหาคุณหนู”เซี่ย”เรื่องคู่อริเก่าที่ชอบลวนลามตัวเอง ต่อมาไม่นานเลยได้เจอข่าวคู่อริโดนดึงเข้าไปเกี่ยวกับมาเฟียนอนหยอดข้าวต้มไปแล้ว ดูก็รู้เลยนะคะว่าฝีมือใคร 5555

แล้วซีเป่ยวั่งคือหึงเก่งจ้า ตั้งกฎบ.แบบว่าคิดว่าคงอ้างมาเดี๋ยวนั้นแหละ(กับเจียงจื่อเฉิง)ว่า  ห้ามศิลปิน(แซ่เจียง)ที่อายุต่ำกว่า30ปีมีคู่จิ้น ตลกมากกก เป็นพระเอกเป็นดาราจะไม่มีคู่จิ้นได้ยังไง หลังๆคือรับงานเป็นตัวเด่นก็ต้องมีข่าวให้เป็นกระแสไง แต่ดั้นมาตั้งว่าห้ามมี

มีช่วงที่ร้านหม้อไฟก่อนจะเปิดกิจการก็ได้ชวนเจียงจื่อเฉิงไปกินก่อนเพราะช่วงที่เปิดพอดีกับช่วงถ่ายหนังแล้วบังเอิญวันนั้นเจียงจื่อเฉิงปะกับซีเป่ยวั่งเลยได้เอามากินหม้อไฟกันด้วย และด้วยความที่อีกฝ่ายกินไม่เป็นเพราะนักธุรกิจใหญ่โตจะมีจัดงานหม้อไฟก็ไม่ได้ ที่บ้านก็ไม่ได้สนิทจะกินก็คงยาก น้องสาวก็มีกลุ่มเพื่อนของตัวเองก็ไม่เคยกินกับน้องการกินครั้งนี้เจียงจื่อเฉิงเลยดูคล้ายๆพี่เลี้ยงเด็ก คอยทำให้คอยดูแล แล้วทางคนร้านหม้อไปที่เป็นเจ้านายเก่าก็ไม่รู้ว่าซีเป่ยวั่งเป็นถึงผู้บริหารคิดว่าเป็นแค่ผู้จัดการก็ไม่เกรงอะไร มีการถ่ายรูปอีกซะด้วยแบบโฟกัสสองคนนี้โมเมนต์ดี โมเมนต์ได้ เจียงจื่อเฉิงมาเจออีกรอบถึงกับตาหลุดภาพนิใหญ่แบบเมตรครึ่งถึงกับให้ถอดเอากลับ…หาทางทำลาย แต่ตอนจะขึ้นที่พักมาเจอซีเป่ยวั่งก่อนแถมเห็นรูปไปแล้วอีก ซีเป่ยวั่งก็ได้อานิสงค์กลายเป็นคืนสำเร็จโทษ

เล่ม2 เจียงจื่อเฉิงปลดล็อครู้ความจริงสมัยเด็กกับพี่ชายที่เคยเฝ้ารอ จากนั้นก็คือหวานเกิ๊นนนน ทะลึ่งไปดิ 555

ฮืออออ พัฒนาการไปเร็วมากก แม่จะเป็นลม ขึ้นเตียงไม่กี่ครั้งก็ขนาดนี้แล้ว

ซีเป่ยวั่งนางน่ารักนะ ทำได้ทุกอย่างให้เจียงจื่อเฉิงอะ แบบโดนแฟนคลับดาราคนอื่นรังควาญทางแก้ก็ต้องหาพวก แต่ดาราอีกคนที่จะมาช่วยไม่สามารถพูดป่าวประกาศได้เพราะบ.ห้าม ซีเป่ยวั่งเลยทำการเข้ารวบบ.เลยแล้วให้ดาราคนนั้นมีอิสระแล้วพูดมาช่วยเจียงจื่อเฉิง

ได้รับบาดเจ็บจากการช่วยอีกฝ่ายเลยต้องออกคำขู่สักหน่อย น่ากลัวมากกก ก็คือกลัวจริงแหละ 55

มีอีกคู่น่าส่องไม่แน่ใจจะมีเรื่องแยกไหมเป็นเทพบุตรขวัญใจเจียงจื่อเฉิง กับ คนเขียนบทละคร เทพบุตรขวัญใจอดีตเป็นดาราแต่ตอนนี้มาผันตัวเป็นผู้ช่วยผู้กำกับเพราะบอกว่าไม่มีบทที่อยากเล่น คนเขียนบทละครร่างยักษ์ท่าทางสวนกับอาชีพเขียนบทดีบทเร็วราคาถูกแต่แต่งตัวซกมกเคราไม่โกนหนีบร้องเท้าแตะเสื้อยืดสกรีนQR CODE บัญชี เปลี่ยนบททำให้ได้ตังมาของไปโอนเร็วทำเร็ว แต่เห็นดูท่าทางซกมกแต่ความจริงหล่อและดูเหมือนจะเป็นพี่น้องต่างแม่ของซีเป่ยวั่ง ใช่ไม่ใช่?

เรื่องราวจะมีหลักๆแค่สองอย่างคือ

  1. เรื่องความรักความสัมพันธ์ของคนสองคนระหว่างเซี่ยเป่ยวั่งและเจียงจื่อเฉิง เจอกันตอนไหน อดีตเป็นยังไง ทำไมจำไม่ได้ แล้วตกลงมันยังไงมองอนาคตสองครั้งทำไมเจอแต่ฉากวาบหวิว ครั้งแรกสัญญาเลี้ยงดูที่เซวี่ยเป่ยวั่งยื่นให้ ครั้งสองเจียงจื่อเฉิงยื่นให้อีกฝ่าย
  2. เรื่องเซี่ยเป่ยวั่ง กับ พ่อของตัวเองที่มีปัญหากัน การแยกบริษัท ซึ่งจะมาในช่วงท้ายๆเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ดราม่าหนักหนาสาหัส
นัมเบอร์วัน 10 10 10

“สิ่งที่งดงามที่สุดของความรักก็คือ..ความคลุมเครือ..เพราะความคลุมเครือเป็นสถานะที่เลือนรางและไม่ชัดเจนกว่าอย่างอื่น ทุกครั้งฝ่ายรุกก็จะต้องหยั่งเชิงด้วยความระมัดระวังและทุกครั้งที่หลบหนีความจริงแล้วยินดีแต่แค่แกล้งเป็นปฏิเสธเท่านั้น”

ประโยคเด็ดกินใจอยากเอามาแปะ

เม้าท์

  • ความสามารถพิเศษนอกจากจะใช้กับคนได้แล้วก็ยังสามารถใช้กับสัตว์ได้ด้วย สุดมากกก
  • ต้นแปะก๊วยที่ปลูกเรียงรายหน้าบ.รุ่ยซือเป็นฝีมือของเซี่ยเป่ยวั่งเพราะมีความหลังตอนยังเด็กกับคนคนหนึ่ง
  • เจียงจื่อเฉิงเป็นคนที่ไม่ค่อยจำเรื่องราวในอดีตได้เท่าไหร เนื่องจากตัวเองมองเห็นอนาคตทำให้โฟกัสอยู่กับตรงนั้นมากกว่าอดีตทำให้หลายๆเรื่องได้ถูกหลงลืมไปรวมทั้งพี่ชายที่แสนดีตามติดตอนยังเด็กก็ลืมเลือนจนกระทั่งที่บ้านได้เอากล่องสำคัญมาให้ข้างในเป็นจดหมายที่ตัวเองเขียนให้พี่ชายคนนั้นและถูกตีกลับเพราะไม่มีคนรับ
  • เสียดาย: มีฉากตอนที่เจียงจื่อเฉิงมองอนาคตแล้วเห็นงานแต่งก็เดาได้แหละว่าเป็นงานแต่งตัวเองกับซีเป่ยวั่ง แต่เสียดายอ่านจนจบก็ไม่มีให้เห็นเสียดายจริงๆ
น้องเป็งคนตลก

รีวิว+สปอย | หัวใจมีหลิงซี

Molly เขียน
SUNTUR แปล


แนะนำก่อนอ่าน

  • ตามซื้อเรื่องนี้เพราะอ่านนิยายเรื่อง “น้องชายที่รัก” แล้วคือมีตัวละครในเรื่องนี้โผล่มาแจม
  • เป็นนิยายฟิลกู้ดโรแมนติก อ่านง่าย ไม่มีดราม่า 1เล่มหนาสะใจ 407หน้า
  • เป็นนิยายวงการบันเทิง ดาราxนักร้อง ให้ชวนจิ้นมีแฟนคลับมีแฟนฟิค 
  • นายเอกโก๊ะๆเปิ่นๆ น่ารัก เป็นคนสดใส
  • พระเอกคือดี ดีแบบดียยย์ ต้องมีแบบนี้หลายๆคนเป็นคนที่เห็นใจใส่ใจเพื่อนร่วมโลก ดังไม่หยิ่ง มีความนุ่มนวล
  • เป็นการสานความสัมพันธ์ที่เริ่มจากการเป็นเพื่อนแล้วค่อยๆไต่ระดับ

ตัวละคร

หลิงซี – นายเอก

นักร้องฉายาราชาเพลงร้านสองหยวน ก็คือถึงจะมีความสามารถแต่ก็ไม่ได้ดังเป็นพลุแตกตีตลาดได้หลายช่วงอายุแต่เป็นความดังที่จะได้ยินเพลงตามร้ายขายของชำตามชนบท ยอดขายไม่ได้ทะลุเป้า เข้าวงการเพลงมาตั้งแต่อายุ15ปี(ในเรื่องหลิซีอายุ26ปี)ผู้จัดการไปเห็นดูมีแววก็เลยลากเข้าวงการ 

อันรุ่ยเฟิง – พระเอก

ดาราหน้าลูกครึ่งดังมาจากละครแล้วผันตัวเข้าวงการหนัง หน้าตาดีถูกใจทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพเรียกว่าใครๆก็ต้องรู้จักตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ขนาดพระลัทธิเต๋าในหุบเขายังเป็นแฟนคลับ เรียกได้ว่าถ้าเทียบกันในเรื่องการงานแล้วหลิงซีกับอันรุ่ยเฟิงก็คือฟ้ากับเหวต่างกันมากๆ แบบมองแล้วไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้


เนื้อเรื่อง

เริ่มต้นการเจอหน้าเป็นการพบปะบนเครื่องบินที่แม้ว่าสถานะชนชั้นในวงการจะแตกต่างกันแต่ก็ได้เจอกันบนเครื่องบินที่ห้องน้ำชั้นfirst class ไม่ใช่ว่าหลิงซีได้นั่งชั้นนี้แต่ห้องน้ำฝั่งธรรมดามันเต็มเลยขอแอร์มาเข้าฝั่งนี้ได้เพราะสถานะทางการเงินที่บ.ให้กับหลิงซีคือน้อยมากนั่งที่ดีๆไม่ได้เงินไม่พอ และการเจอในห้องน้ำก็เป็นฉากประทับใจไม่รู้ลืมแรกเจอหน้าพระนาย 5555 เพราะตกหลุมอากาศและกางเกงยังสวมไม่เสร็จงานนี้ลืมยาก 555 พอลงเครื่องก็เจอหน้าอีกได้คุยกันจุดหมายปลายทางเดียวกันแล้วยิ่งรุ่ยเฟิงออกตัวว่ารู้จักกันสนิทกันแม้เพิ่งเจอบวกเข้ากับความไหลลื่นความสดใสของหลิงซีก็ทำให้สนิทกันจริงๆ

จากการเจอกันครั้งแรก ครั้ง 2 3 4 ก็ตามมา พอเวลามีปัญหาหลิงซีก็ได้รุ่ยเฟิงเข้ามาช่วยแล้วคือช่วยได้ไงเพราะดังมีชื่อเสียงการมีปัญหากับดารายังไงคนดังกว่าก็ได้ชัยชนะ ปัญหาที่ว่าก็คือหลิงซีได้หน้าที่แต่งเพลงประกอบด้วยพอเพลงเสร็จเดโมเสร็จปรากฎว่าไปโดนใจพระเอกของหนังเรื่องนี้เข้า ก็แบบอยากร้องอยากได้เลยใช้กำลังใช้ชื่อเสียงจะมาเอา หลิงซีไม่ยอมก็ไปขอความช่วยเหลือรุ่ยเฟิงเลยจบได้เพราะทางรุ่ยเฟิงดังกว่าพระเอกของหนังเรื่องนี้ถ้ารุ่ยเฟิงอยากร้องยังไงผลลัพธ์ที่ได้ล้นหลามกว่าแน่นอน เป็นการเริ่มต้นแบบเพื่อนช่วยเพื่อนที่ดูธรรมดาไม่มีอะไรแต่ยังมีหลายเหตุการณ์ให้ เอ๊ะ! ยังไงนะคู่นี้

หลิงซีไม่ใช่คนที่จะมาเอาเปรียบง่ายๆเห็นร่าเริงเข้ากับคนง่ายแต่ฝีปากคือสุดมากกกก หลิงซีได้บทเป็นปีศาจหมากลายร่างเป้าฮุยเลยว่าเข้าถึงอารมณ์หมาได้ยัง เจอหลิงซีสวนกลับเข้าให้ว่าแล้วบทที่เป็นคนละท้าทายมากสินะ – แบบว่าเป้าฮุยเป็นหมาหรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่คนกลับต้องมาเล่นบทคน 5555

มีช่วงรุ่ยเฟิงทำงานต่างเมืองหลิงซีว่างก็เลยบินไปหาเพราะจะเอากระเป๋าเดินทางไปให้และเป็นการไปเยี่ยมด้วย การพบกันที่สนามบินครั้งแรกมีการพูดถึงกระเป๋าเดินทางของหลิงซีเพราะเด่นมากจริงๆเป็นรูปซูชิแบบแฮนด์เมดลอยมาตามสะพานคือเห็นมาแต่ไกลก็เลยได้ทำให้รุ่ยเฟิง1ใบ เพื่อนกันต้องมีคล้ายๆกัน

มีช่วงหลิงซีทำconcertตามหัวเมืองต่างๆพบปะแฟนคลับ เป็นช่วงที่เป็นที่รู้จักมาระดับหนึ่งละเพราะมีข่าวกับรุ่ยเฟิงที่สนามบินด้วย(มีข่าวจิ้น) มีเล่นหนังร้องเพลง ช่วงนั้นก็คือคุยแชทกับรุ่ยเฟิง’ทุกคืน’และมีการนัดกันด้วยว่าตอนไปเมืองใกล้ที่รุ่ยเฟิงทำงานอยู่จะจองที่ไว้ให้มาดูมาฟัง อีกอย่างคือรุ่ยเฟิงชอบเพลงของหลิงซีมาถึงกับตั้งให้เป็นเสียงรอสาย แต่สรุปคือวันนั้นมาไม่ทันรถติดที่ทางมีปัญหาแต่หลิงซีก็คือโทรหาแล้วร้องผ่านทางโทรศัพท์ให้ฟังจ้าาาา ดียยย์ แฟนคลับสายจิ้นที่ซื้อตั๋วเข้ามาแอบมีตงิดก็คือลอยเพราะทางนั้นก็เป็นแฟนคลับรุ่ยเฟิงและเป็นหัวเรือใหญ่ในการจิ้นคู่นี้ด้วย

หวานไปไหมแม่!!!! ถ้าผมเป็นดวงอาทิตย์ของพวกคุณ เขาก็คงเป็นจักรวาลของผม เพื่อนกันไม่พูดแบบนี้นะลูกกก

มีช่วงได้ถ่ายหนังด้วยกันบนเขาแล้วต้องนอนด้วยกัน แล้วช่วงนั้นคือต่างคนต่างยอมรับใจตัวเองกันแล้วก็คือระเบิดพลุ ยินดีกับความรัก หวานมากแต่มีอะไรกันไม่ได้เพราะคิวแน่นมากถ่ายเช้าดึกร่างกายต้องพร้อมเพราะเป็นหนังแบบวิทยายุทธ์หนังจีนโบราณแฟนซีแต่จ้ะ แน่นอนว่าปิดกองลงเขาดุเด็ดเผ็ดมันส์ ต่างคนต่างเข้ากันได้ดี ทางหลิงซีก็คือพูดเก่ง ทะลึ่งเก่ง 

มาในส่วนของเรื่องงานทางหลิงซีที่ดูจะไม่มีวี่แววโด่งดังพลุแตกเพราะถึงจะได้ถ่ายหนังแต่กว่าจะถ่ายทำกว่าจะได้เข้าโรงระยะเวลาก็ทิ้งห่างจนถูกค่ายลอยแพ โยกผู้จัดการที่ดูแลกันมา11ปีไปดูแลคนอื่น คนใหม่ไม่ส่งมาแล้วคือลำบากช่วงนั้นจะลงเขาด้วยยังดีที่มีรุ่ยเฟิงอยู่คอยช่วย ทางหลิงซีที่มีการต่อสัญญาเพิ่มอีก3ปี หลังจากหมดไปตอนอายุ25ปี ซึ่งตอนนี้เหลืออีก2ปีก็ไม่ไหวละโดนลอยแพแถมพอไปคุยกับบ.อีก2ปีที่เหลือก็คือจะไม่ดันนะจะให้ทำงานเบื้องหลังให้แต่งเพลงให้นักร้องใหม่แล้วคือแต่งให้แบบเป็นเงาไม่ได้ชื่อได้แค่เงิน หลิงซีทนไม่ได้ดีนะอัดเสียงไว้เลยมีข้อต่อรองฉีกสัญญา


เม้าท์

ตอนทำหนังหลิงซีได้บทเป็นปีศาจหมากลายร่าง ตอนเป็นคนเลยมีหางมีหูทางกองถ่ายก็ได้เครื่องมือได้เทคโนโลยีมาช่วย เป็นหูห่างที่ตอบสนองตามความคิดคนใส่แล้วคือรุ่ยเฟิงประทับใจมากถึงกับให้หลิงซีติดต่อซื้อให้แล้วทำเป็นให้เก็บไว้ให้ แต่เสียดายที่พอชอบกันแล้วไม่เห็นมีฉากบนเตียงที่ได้เอามาใช้เลยอะ

ของเล่นตั้งแพงแต่กลับไม่มีบท เสียดายจริงๆ