รีวิว+สปอย | Turing code โปรแกรมลับรีเทิร์นรัก เล่ม3 จบ

เฟยเทียนเย่เสียง เขียน
ผู่เอ๋อร์ แปล


เนื้อเรื่อง

  • เริ่มเล่มด้วยความเฉื่อยแฉะ อ่านไปง่วงไป เป็นการเล่าตอนปัจจุบันกับflash back ย้อนอดีตสมัยทั้งคู่ยังเรียนอยู่สลับไปมา พอแต่พอเข้ากลางเล่มเริ่มสนุกเริ่มฮา มีตอนที่ย้อนเล่าไปตอนที่อธิบายว่ากวนเยวี่ยชอบน้องตอนไหนด้วย กลายๆว่าสารภาพความในใจตอนที่รู้ตัวแล้วว่าคิดยังไงกับน้องก็คือเริศจ้าาา 10 10 10 ก็คือตอนนั้นเพื่อนชายอย่างเจียงจื่อเจียนก็ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีด้วยกับทำพอร์ตผู้ชายดีๆมาให้น้องเลือกว่าอะProfileเป็นอย่างไง เรียนอะไร หน้าตาเป็นแบบนี้มีรูปแนบแบบว่าเป็นCatalogเลยอะ แล้วทางพี่ก็คือไม่โอเคละถ้าน้องจะมีแฟนประมาณนั้น ก็เลยรู้ตัวแล้วก็เปิดเผยความในใจ โห มันดีจริงๆ ก็คือกวนเยวี่ยทำแบบอ้อมโลกมากกก แต่พอพูดอธิบายเท่านั้นแหละ ดียยยยย์ 
กวนเยวี่ยไปตามหาหนังสือให้น้องเป็นหนังสือของ Alan Mathison Turing(บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์) ที่ให้ Christopher Morcom ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคือมีความสัมพันธ์มากกว่าพี่น้องจริงไหมระหว่างสองคนนี้ แต่ทาง Alan Turing ก็คือเปิดเผยนะว่าตัวเองเป็นเกย์(ถ้าคนเคยดูเรื่อง The imitation game อาจจะคุ้น) แต่ในเรื่องนี้บ่งบอกว่าเกินเลยเพราะกระดาษหน้าหนึ่งมีการเน้นข้อความด้วยหมึก ก็เป็นหนังสือที่มีนัยยะและมีความเปิดเผยแต่คือน้องไม่ได้อ่านไง สุดท้ายก็เลยต้องมาบอก ปล.ขอเซนเซอร์เพราะเด็ดจริง สปอยมากกว่านี้คงไม่ต้องอ่านเล่มละ
  • ช่วงแรกจะมีขำๆเรื่องของคู่รองบ้าง ความฮาก็คือบ้านอยู่ใกล้ๆกันแต่คือไม่เคยเจอกัน 
  • มีเรื่องสมัยเรียนของเทียนเหอ ช่วงวัยของการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องการเข้าสังคม เรื่องความรัก ความสับสน
  • แล้วก็มีเรื่องธุรกิจที่เริ่มดุเดือดฟาดฟัน ปั่นหัว วางแผน 
  • พี่ชายคนโตของเทียนเหอกลับมา พี่ชายคนนี้คือเก่งมากก คือออกจากบ้านหายไป20กว่าปีไม่ติดต่อกลับมาแบบว่าไปทำงานเพื่อชาติเป็นงานลับอะแล้วได้เหรียญมาเยอะก็เอามาเป็นของฝากให้คนในบ้านแต่ก็ต้องสูญเสียไปหลายอย่างพอรู้ว่าหลายๆคนก็ล้มหายตายและจากไปแล้วอย่าง เช่น พ่อของตัวเอง ทางเทียนเหอก็คือดีใจนะที่พี่กลับมาตอนนี้ครอบครัวตัวเองก็คือครบทั้งพี่คนโตพี่คนรองและคนรู้ใจอย่างกวนเยวี่ย แต่คือพี่คนโตไม่ถูกใจกวนเยวี่ยนี้แหละปัญหาคือไม่โอเคกับเพศที่สามก็ว่าหนักหนาแล้ว พอมารู้ว่าคนที่ที่บ้านไว้ใจให้ดูแลน้องชายคนเล็กตอนไปเรียนนอกกลับมาเอาน้องชายไปเป็นคนรักก็คือไม่สบอารมณ์อย่างแรงก็ตีกันนานอยู่ ทางพี่ชายคนโตก็คือมาแล้วก็ได้มาเป็นตัวช่วยในเรื่องงานเพราะความเก่งนิแหละเลยถูกน้องชายอย่างเทียนเหอหลอกล่อเซ็นยอมรับสภาพการทำหน้าที่ในบริษัทที่จัดตั้งกันมา ก็คือขำมากก น้องจะโดดหน้าต่างขู่คนพี่เลยต้องยอมเซ็นแต่ยอมไม่จบง่ายๆนะมีการขู่เอาไปจ่อเครื่องทำลายเอกสารด้วย สุดท้ายน้องโดดจริงคนพี่วิ่งไปหาน้องที่โดดไปจากหน้าต่างก็เจอว่ากวนเยวี่ยรอรับน้องอยู่ด้านล่าง เอกสารที่เซ็นก็คือหลุดมือละเครื่องทำลายไม่ได้กินแถมเอากลับคืนไม่ได้เพราะมีคนรับไม้ต่อมาฉกไปก่อน 5555 ทำงานกันเป็นกระบวนการ เป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นที่แกงคนเก่งระดับชาติ
  • อีกอย่างคือความพี่น้องที่เขียนโค้ดเป็นก็คือทำเรื่องปวดหัวให้กับคนในออฟฟิศสุดๆเมื่อแกล้งกันแล้วต้องเอาคืนก็คือกระทบไปหมด อ่านแล้วคือขำนะแต่ถ้ามีอย่างนั้นกับเราจริงๆก็คือต้องกรี๊ดไหม แบบว่าทำอะไรกัน ว่างมากหรอ 5555
ปวดหัวไหมแม่ ที่ถ่ายมาคือส่วนหนึ่งนะ ยังมีต่อจ้ะ ตีกันให้ออฟฟิศแตก ตีกันสองคนแต่คือบานปลายเหมือนคน10คนตีกัน ปล.แอนดี้ที่ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเรื่องที่ต้องฟาดฟันกันกับบ.ของกวนเยวี่ย
  • ตอนพิเศษตอนท้ายก็คือฮา เมื่อกวนเยวี่ยกับถงข่ายเผลอกินยาช่วยลืมลงไป คืนนั้นก็เมาแหละก็ฟัดกับคู่ตัวเองอีกดุเดือด แต่พอเช้ามาคือลืมไง บันเทิง
    • ทางกวนเยวี่ยความจำก็หายสิ่งที่จำได้ก็เป็นช่วงอายุ18 ที่ทั้งกวนเยวี่ยแล้วเทียนเหอยังเรียนอยู่ แล้วสภาพก็เปลือยคืนนั้นฟัดกันสุดไง ตื่นมาพร้อมกับความคิดที่ว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเทียนเหอนะไม่ใช่คนรักของเทียนเหอก็คือ ตายไปเลย ทำอะไรลงไป นี่น้องนะ แล้วเรื่องงานอะไรก็กระทบหมดเพราะอายุ18ก็คือไม่มีประสบการณ์แต่งานที่ต้องรับผิดชอบตอนนี้คือCEOไง เงินเป็นพันล้าน แต่ยังดีที่มีโพรมีทิอุสเวอร์ชันอัพเกรดสุดๆมาช่วยให้รอดพ้น
    • ทางถงข่ายตื่นมาก็คืออาละวาดตามระเบียบแบบว่าถูกล่อลวงมา อาละวาดสุดฤทธิ์สุดเดช ถ้ายังจำช่วงที่ตีกันตอนว่าใครจะรุกจะรับก็นั้นแหละ รับตัวเองไม่ได้เพราะตัวเองโดนไง 555 รู้บทบาทกันแล้วเนาะ

เม้าท์

  • อย่างที่บอกตอนเริ่มว่าอ่านแล้วท้อเลยช่วงแรกเพราะหนาจริง แล้วอ่านไม่ต่อเนื่องไง หลายๆอย่างก็งงว่าเออ..อะไรตอนไหนที่มายังไง 
  • เป็นเล่มที่ฮาและหวานนะ คือบาลานซ์กันได้ทั้งคู่หลักคู่รอง คู่หลักก็อาจจะเรื่องเยอะกว่า แต่คู่รองก็มีประเด็นมาให้เล่นด้วยเหมือนกัน
  • อ่านยากสำหรับเราใน เรื่องธุรกิจ เรื่องการเงิน เรียกได้ว่าไม่มีความรู้เลย เคยแค่เทรดเงินเล็กๆน้อยๆ ถ้าคนที่เรียนสายนี้อาจจะสนุกกับการเล่นเกมส์ของคนรวยที่ใช้การปั่นหุ้น การเลเวอเรจสัดส่วนเงินแล้วยิงตีกันถล่มกัน ไม่ใช่การแก้แค้นแบบฟาดฟันฆ่ากันให้ตายแต่เป็นการเอาเงินเข้าสู้กันให้หมดตัวให้ล้มละลายมากกว่า
  • ฉากอย่างว่าก็คือแซ่บ เทียนเหอไม่ใช่คนขี้อายเด้อ คนขี้อายเป็นทางกวนเยวี่ยซะมากกว่า หลายๆฉากก็คือกล้าเกิน ที่ทำงานบ้างอะไรบ้าง 
เห็นประโยคนี้แล้วคือต้องเก็บอะ หมั่นไส้ ตอนแรกๆก็คืออีโก้สูงปรี๊ดดด
มาตอนนี้หรอเต็มปากเต็มคำไม่บ่ายเบี่ยงรู้เลยนะว่าเจาะจงคนไหน

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม3 จบ

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ

เล่ม3 หน้าปกน่าจะเป็นต้นแป๊ะก๊วยหน้าบริษัทของสีชิงไหม ที่ได้ทำการถอนต้นไม้เก่าออกแล้วเอาต้นไม้ที่น้องชอบลง จนกลายเป็นเอกลักษณ์เป็นจุดเด่นของบริษัทเลยที่ใครผ่านก็ต้องมองต้องถ่าย

เม้าท์

  • บอกก่อนเลยว่าเล่มนี้หวานอะ แบบว่าย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วไปอยู่บ้านสีชิง คืออ้างกับคนอื่นว่าเชฟที่บ้านสีชิงทำอาหารอร่อยเลยย้ายไปอยู่ด้วย อยากจะแหมมมมม่ ยาวๆ ทุกคนรู้ ประตูบ้านรู้ โคมไฟรู้
  • ความโหด เฉือนนิ่มๆของเสี่ยวเฉียวยังคงเส้นคงวา อ่านแล้วสะใจ ยิ่งมีตอนที่น้องลับฝีปากกับทนายอีก คำด่าแบบแบบฟังแล้วต้องคิดตามอะ สุดจริงด่าแบบคำปกติทั่วไปมันไม่เหมาะกับนักเรียนดีเด่นแบบน้อง
  • ฉากNC ไม่มีบรรยาย ไม่ได้เล่าแบบถึงพริกถึงขิงแบบที่คาดไว้เลย เป็นแบบตัดเข้าโคมแบบว่ารู้กัน ก็คือเหมาะกับเนื้อเรื่องแหละถ้าให้พ่อเทพบุตรเสี่ยวเฉียวมีฉากแบบนั้นก็คิดว่ามันจะกระโตกกระตากเกินไปหน่อยอะ
ครั้งแรกใช่ไหม ครั้งแรก เขินแทนสีชิง
ทำไมน้องพูดอย่างนี้ มันต้องสลับกันไหมอะพ่อเทพบุตร
  • พ่อแม่ของเสี่ยวเฉียวรับรู้ ไม่มีดราม่า เรื่องการคบผู้ชายของน้อง
  • อ่านแล้วยิ้ม ฟิลกู้ด เรื่อยๆ ไม่หวือหวา ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ 
  • เป็นเล่มจบที่เหมือนไม่จบ เพราะอ่านแล้วยิ้มมาตั้งแต่เริ่มเล่มคือเขาอยู่ด้วยกัน พอมาท้ายๆเรื่องทุกอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทางความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนไม่มีอะไรกระทบกระทั่ง พระเอกคือตอนเขินก็น่ารักแต่ตอนดูแลก็คือ ออกหน้าออกตา.ออกปากปกป้องน้องดีมากๆให้ทำอะไรก็ทำ ชวนไปเล่นหนังยังไป 555

เนื้อเรื่อง

  • เริ่มเล่มมาเสี่ยวเฉียวไปงานรับรางวัล แล้วก็แน่นอนจ้ะ ได้รางวัลมา แล้วคือรางวัลใหญ่อะ อ่านไปลุ้นไป พอประกาศก็คือยิ้ม สร้างชื่อเสียงอีกแล้วยัยน้อง เก่งที่สุด สมกับคำว่าเทพบุตรแห่งชาติจริงๆไปที่ไหนก็ได้ดีได้คนชมได้ผลงาน ตอนเล่ม2ได้รางวัลไป1 มาเล่มนี้ได้อีก1 สุดยอด
  • ระหว่างการรับรางวัลก็มีการปะทะกันระหว่างแฟนคลับน้องกับแฟนคลับของดาราใหญ่ สุดท้ายแฟนคลับของเสี่ยวเฉียวชนะไปเพราะน้องได้รางวัลรับใหญ่เมื่อเทียบกันแล้วก็คือน้องได้รางวัลเร็วกว่า แล้วพอดาราคนนั้นมาเม้นต์แสดงความยินดีบังเอิญข้อความนั้นไม่เข้าหูเข้าตาประธานสีเข้าให้ ท่านประธานก็เลยจัดไปหนึ่งดอก สั่งตัดขาห้ามบริษัทในเครือให้งานดาราคนนี้อีกก็กลายเป็นว่าต้องห่างหายจากวงการ ไประยะหนึ่ง
  • น้องก็มีการรับเล่นหนังบ้าง และก็ลงทุนเองด้วยบ้างเพราะเงินมันเหลือ
เสี่ยวเฉียวไม่ได้เป็นแค่นักแสดงนะ เป็นนักลงทุนไปแล้วว
เงินเหลือๆเห็นลู่ทางเลยหว่านพืชรอผลสักหน่อย
  • มีช่วงเสี่ยวเฉียวบอกนะว่าตัวเองเคยเป็นใครอะไรยังไง(เรื่องในชาติก่อน)แต่สีชิงก็คือไม่ได้เชื่อไง แบบว่าเออ.ก็รับฟังไว้ แต่หลังจากนั้นก็มีบางอย่างตงิดใจแล้วก็เลยเริ่มหาข้อมูลเริ่มอ่านหลายๆอย่างที่มีความเกี่ยวพันกับยุคนั้นที่เสี่ยวเฉียวบอกว่าเคยอยู่ จนกระทั่งได้ทำหนังเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ที่น้องเคยอยู่ เป็นเรื่องที่ไม่มีนางเอกมีแต่ตัวเอกซึ่งมองคล้ายๆก็เหมือนเป็นหนังที่ถ่ายทอดชีวิตในชาติก่อนของเสี่ยวเฉียว 🥳🤩🥳🤩🥳🤩

รีวิว+สปอย | เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ เล่ม 1

ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน
Himazan แปล

มี 6เล่มจบ


แนะนำก่อนอ่าน

  • อ่านง่าย สบาย
  • แฟนตาซี โลกมนุษย์ สวรรค์ ปีศาจ ตลกฮา
  • เป็นเรื่องของสัตว์เทพ(มีร่างคน)ที่โดนลงโทษให้มาทำงานในสวนสัตว์เป็นพนักงานตำแหน่ง”สัตว์” เช้าเป็นสัตว์ เย็นเป็นคน
  • แล้วแต่ละคนก็คือไม่ธรรมดา แบบโหดสุด หลงตัวเองสุด เวทมนตร์อลังการสุด ใฝ่รู้ใฝ่เรียนสุดก็มี
  • อ่านแล้วฟิลกึ่งเกมส์อะ แบบสร้างสวนสัตว์จากร้างๆให้กลายเป็นที่นิยม ตัวเอกก็ได้รับภารกิจเรื่อยๆต้องทำเควส ถ้าไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จก็จะโดนฟ้าผ่า ก็คือไม่มีทางเลือกต้องสำเร็จเท่านั้นใครจะอยากเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ธรรมดามีชีวิตเดียว

ตัวละคร

ต้วนเจียเจ๋อ – ตัวเอก

  • นักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่หางานไม่ได้ไปต่อไม่ถูก ญาติคนไหนไม่รู้ตายเลยได้มรดกเป็นสวนสัตว์ร้าง ตอนแรกก็คิดว่ารับไว้แล้วกะขายเอาเงินแต่แจ็คพอตเจอคำขู่เซ็นรับไปแล้วไม่ทำไม่ได้เดี๋ยวเจอฟ้าผ่าลงหัวตายแบบไม่เกิดใหม่
  • สัญญาที่ว่าเป็นสัญญาที่ชื่อว่า “โครงการแห่งความหวังหลิงเซียว”
  • ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสวนสัตว์
ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นผมลอนอะ 555

ลู่ยา

  • อีกาทองสามขาตัวสุดท้ายระหว่างสวรรค์กับโลก
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนคือหล่อสุด หล่อจริง แต่หน้าไม่รับแขกสุดๆเช่นกัน
  • โหดสุด หลงตัวเองสุดๆ ให้ทำอะไรไม่ชอบทำอย่ามาใช้งานกันนะ แต่ถ้าชมหน่อยยอพี่เขาหน่อยก็คือทำได้ เดี๋ยวทำให้แหละ 5555
  • ในสวนสัตว์เป็นนกไม่ระบุสายพันธ์
  • เป็นลูกพี่ใหญ่ของสวนสัตว์เลยแหละ สัตว์ตัวไหนก็กลัว เป็นขาใหญ่
  • อาหารต้องให้ต้วนเจียเจ๋อทำให้เท่านั้น ต้องทำ คนอื่นห้าม ห้าม ห้าม

โหย่วซู

  • จิ้งจอกเก้าหางในตำนาน
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนเป็นเด็กน้อย สาวน้อย หลอกตามากใครเห็นก็คือเอ็นดู แต่อีแม่อยากฟาดกระต่ายสดมาก หิวของดิบ
  • ในสวนสัตว์เป็นจิ้งจอกอาร์กติกสีขาว เริศเชิด
  • ความสามารถนางเรียกได้ว่าใครๆก็ต่างบูชาแค่เห็นร่างแล้วขอก็ได้สิ่งนั้นเลย กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ประจำสวนสัตว์ พิมพ์99แล้วสาธุได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ไป๋ซูเจิน และ เสี่ยวจิง

  • นางพญางูขาวและผู้ใกล้ชิด
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนเป็นผู้หญิงและผู้ชาย ตามปกติผู้ใกล้ชิดจะเป็นหญิงแต่มีเหตุ
  • ในสวนสัตว์เป็นงูขาว และงูเขียว 

หูต้าเหวย

  • จิ้งจอกปีศาจ 
  • ถูกจับผลัดจับมาเป็นแรงงานทาสในสวนสัตว์ ถูกกดจากรุ่นพี่(เดาไม่ยากว่าใครที่วิชาแกร่งกล้า) ทำงาน24/7 รับใช้และประจบผู้อำนวยการ
  • ในสวนสัตว์เป็นจิ้งจอกแดง

สงซือเชียน

  • หมี
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ในสวนสัตว์เป็นหมีดำ
  • คือเป็นตัวละครที่น่ารักมากก แบบว่าเป็นคนตัวใหญ่เปิดมาฉากมาฉากแรกแบบโหดเลยนะ แต่พอเอาเข้าจริงเป็นคนซื่อๆรักการเรียนรู้ บอกว่าตอนทำงานตอนเช้าที่เป็นร่างสัตว์อยากได้หนังสือ เอาไว้อ่านในกรงเพราะเป็นคนรักการเรียนรู้ ต้วนเจียเจ๋อก็คือไปไม่เป็นเลยอะเพราะเป็นสัตว์เด้ออ อยากให้คนอื่นรู้หรือไงว่าไม่ได้เป็นสัตว์ปกติอะ ก็เลยได้แค่เอาทีวีไปติดให้ แล้วก็ยังไม่พอรีเควสช่องข่าวด้วย 555 อยากติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ตลก

เนื้อเรื่อง+เม้าท์

เปิดมาก็เป็นการรับมรดกตกทอดจากญาติและความหดหู่หลังจากที่ได้รู้ว่าสวนสัตว์ไม่สามารถขายต่อได้ต้องถือไปเป็นระยะเวลา70ปี และถือเฉยๆไม่ได้ด้วยนะต้องปรับปรุงสวนสัตว์ต้องทำเควสตามที่ระบบประกาศ ก็คือมีแอปติดตั้งในโทรศัพท์เลยแล้วเช็คเอาว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำเสร็จสำเร็จก็มีรางวัลให้ แต่ถ้าไม่สำเร็จก็คือโดนฟ้าผ่า(ตายไหมไม่รู้เพราะเล่มนี้ยังไม่โดน) 

สภาพสวนสัตว์ร้างเดิมก็ยังพอมีสัตว์อยู่บ้างแต่ก็แห้งแล้งมากเพราะโดนคนที่จ้างมาให้อาหารโกงเอาอาหารไปเยอะ พอต้วนเจียเจ๋อมาดูก็แก้ก็ปรับปรุงหลายอย่าง และสัตว์ตัวแรกที่มาช่วย(?)ก็คือลู่ยา ช่วยให้ดีขึ้นหรือช่วยให้ลำบาก555 เอาใจยากมากพ่อ เรื่องทำเควสก็เป็นพวกหาเงินเข้าให้ได้ ให้คนเข้ามาเที่ยวตามจำนวน หาสัตว์เข้ามาตามจำนวนต้องเป็นสัตว์ประเภทนี้ รางวัลที่ได้ก็พวกปรับปรุงสวนสัตว์ ทัศนวิสัย อาคาร คือทำทุกอย่างแต่ไม่ได้ทำอาคารอำนวยการ แล้วอาคารเนี่ยก็เป็นสิ่งที่ต้วนเจียเจ๋ออยากแก้มากอยากทำใหม่แต่ไม่มีตังค์ เศร้า

ความฝันอย่างหนึ่งของต้วนเจียเจ๋อคือมีอควาเรียม คือนางเป็นคนที่เลี้ยงปลาขึ้นมือมาก แบบว่าเลี้ยงดีจนงง เลี้ยงรวมกันก็ยังรอดจนเป็นที่สงสัย ด้วยความอยากมีแต่ทำอะไรไม่ได้ต้องเก็บเงินทำสวนสัตว์นี้ก็เลยมีแหละอควาเรียมหน่ะ…แต่เป็นขนาดตู้ปลา55555 และเพราะเรื่องปลานิแหละก็ทำให้ต้วนเจียเจ๋อได้คอนเนคชั่นอลังกาล รู้จักคนใหญ่คนโต

ด้วยความที่สวนสัตว์มีสัตว์เทพและปีศาจก็เลยมีเรื่องมีราวกับสำนักพรตที่ชื่อว่าสำนักหลินสุ่ย เป็นสำนักพรตที่มีชื่อเสียงมากในเมืองก็คือก่อตั้งมาเป็นพันปีละ คนก็นับหน้าถือตาเป็นทั้งที่ท่องเที่ยวและที่พึ่งพาทางใจ เรื่องเกิดเพราะนักพรตจับได้ว่ามีไอปีศาจที่สวนสัตว์แล้วคือต้วนเจียเจ๋อก็รู้อยู่แก่ใจแหละว่ามีจริงๆ5555 แต่คือจะไปบอกว่ามีไม่ได้ ก็ต้องบ่ายเบี่ยงจนสุดท้ายได้ลู่ยาเข้ามาช่วย ลู่ยาก็แบบเหมือนใช้กลแล้วไปหลอกว่าเป็นพุทธที่แกร่งกล้ามากจนนักพรตคนนั้นต้องนั่งสมาธิเข้าญาณไม่ออกหลายวันจนทำให้ทางสำนักเดือดร้อนเพราะกลัวว่านักพรตคนนี้จะเปลี่ยนศาสนาคือเป็นศิษย์เอกไง ไปมาเลยกลายเป็นที่รู้กันว่าที่สวนสัตว์มีคนที่วิชาแกร่งกล้ามาก ห้ามไปมีเรื่องด้วย ถ้าช่วยอะไรก็ช่วยถ้ายิ่งถูกออกปากจากต้วนเจียเจ๋อคือห้ามปฏิเสธ สวนสัตว์ก็เลยได้อานิสงค์หลายอย่าง

อีกอย่างที่เป็นเรื่องน่ารักเลยก็จะเป็นเรื่องของสัตว์ ในสวนสัตว์ตอนแรกก็จะแห้งแล้งมากแต่พอทำเควสได้รางวัลเป็นอาหารก็คือจะอุดมสมบูรณ์มากกว่าทั่วไปเพราะเป็นเนื้อเป็นอาหารที่มีพลังวิญญาณ คือถูกส่งมาจากสวรรค์อะแหละ ทำให้สัตว์ทุกตัวขนสวย จิตใจเบิกบาน บวกกับความที่มีลูกพี่คุมอยู่(ลู่ย่า)คุยภาษาเดียวกันก็เลยแลดูเป็นสัตว์ที่เชื่องมากเรียกได้ว่ารู้ความมากกว่าปกติ ทำให้เวลามีคนถ่ายคลิปหรือมีไลฟ์ไปโผล่บนSNSก็จะกลายเป็นที่ฮือฮากันมาก 

  • อย่างฉากที่สงซือเชียนหรือหมีดำที่ว่าชอบการเรียนรู้อะ มีช่วงที่เปิดข่าวแล้วคือนางยืนดูข่าวไงคนที่เห็นก็จะแบบ อะไรอะ ไม่เคยเห็นหมีดูข่าว ดูรู้เรื่องหรอ แล้วมีความหาของกินมากินไปดูไป 
  • มีคนมาไลฟ์สด แบบว่าชื่อดังคนตามเยอะ
  • ถ่ายโฆษณา

ทางสวนสัตว์ก็มีSNSเป็นของตัวเองด้วยก็เหมือนจะดูง่ายนะ แต่เควสบอกเลยว่ายากขึ้นเรื่อยๆต้องแบบใช้ทั้งเงิน(ที่ไม่ค่อยจะมี) ใช้เวลา และคอนเนคชั่นในการสร้างชื่อเสียงอีกเยอะแยะมากมาย

ส่วนที่อ่านแล้วลุ้นคือความจะแตกไหมที่สวนสัตว์มีทั้งมนุษย์และพนักงานตำแหน่งสัตว์อยู่ร่วมกัน คือต้วนเจียเจ๋อเป็นคนเดียวที่รู้ว่ามีคนที่ไม่ใช่คนอยู่ โป๊ะไหมต้องรอดูเพราะคนเริ่มเยอะแล้วตอนนี้

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความน่ารักของผู้อำนวยการต้วนเจียเจ๋อในทรงผมใหม่ดัดลอน ทรงผมนี้มีที่มา จะเป็นช่วงท้ายเล่มแบบว่าน่ารักเอ็นดูนาง ไม่ชอบนะ แต่ว่าแก้ไม่ได้ละ55555 


ที่มาของรูปตัวละคร
《我开动物园那些年》 第1话:我是陆压【加入会员专享全集】


รีวิว+สปอย | S.C.I. #ทีมพิฆาตทรชน เล่ม 1

เอ๋อร์หย่า (ErYa) เขียน
ชุนลี แปล

13 เล่มจบ

แนะนำก่อนอ่าน

  • เนื้อหามีส่วนที่ค่อนข้างรุนแรงไม่เหมาะสำหรับคนจิตใจอ่อนไหว
  • เป็นแนวสืบสวนสอบสวน
  • เป็นทีมพิเศษที่ชื่อว่า S.C.I. เป็นการรวมเอาคนเก่ง คนหัวกะทิในแต่ละด้านมารวมกันทั้งสืบสวนสอบสวน ต่อสู้ จิตวิทยา แพทย์นิติเวช และอื่นๆ เพื่อไขคดีที่มีความซับซ้อนยุ่งยาก

เล่ม1 ไป๋อวี้ถัง(บน) – จั่นเจา(ล่าง)

เล่ม 1 ตอนที่ 1 – ตอน ฆาตกรหมายเลข

เกริ่น

  • ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
  • จิตวิทยา

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

คู่ 1 – ไป๋อวี้ถัง(หัวหน้าหน่วย เก่งสืบสวน ต่อสู้) กับ จั่นเจา(หัวหน้ารอง อัจฉริยะด้านจิตวิทยา)

           เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนรู้จักกันมาแต่เด็กที่บ้านรู้จักกันสนิทกันแถมเกิดเวลาไล่เลี่ยกันก็เรียกได้ว่าตีคู่สูสีกันมาแต่เด็กเลย ผลัดกันชนะผลัดกันแพ้ พอโตขึ้นก็มีทางเป็นของตัวเองแยกกันไปแต่พอมีการจัดตั้งทีมS.C.I. ก็ได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ทางไป๋อวี้ถังก็คือเอ๊ะอะจับจูบ ส่วนทางจั่นเจาจะยอมไม่ยอมหรือมีปฏิกริยาตอบรับรุนแรงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ก็ยังไม่รู้ที่มาที่ไปว่าความสัมพันธ์จากคนที่ตีกันตอนเด็กกลายมาจับจูบกันตอนไหน อย่างไร

ก็คือยังไง ยังไง แม่!!! ต้องสู่ขอแล้วไหมมมม

คู่ 2 – ไป๋จิ่นถัง(พี่ชายไป๋อวี้ถัง) กับ กงซุน(แพทย์นิติเวชมือ1ของทีม)

          เป็นคู่ที่มีความตลกเพราะต่างคนก็ต่างดูเกินๆไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร ทางไป๋จิ่นถังก็คือเป็นนักธุรกิจที่รวยมากซื้อรถสปอร์ตให้น้องชายสบายๆทั้งที่น้องก็ไม่จะดูแลพี่ดีเท่าไหร อยากได้อะไรก็ต้องได้แล้วพอมาถูกใจกงซุนก็คือ…นึกภาพตอนตกลงปลงใจกันไม่ออกว่าจะจบดียังไง ขำตั้งแต่กงซุนเมาแล้วไป๋จิ่นถังเอาปากกามาเขียนบนตัวกงซุนว่า’จองแล้วนะที่ตรงนี้’ ก็คือฮา คนปกติเขาไม่ทำกันนะแบบนี้ แล้วบังเอิญวันนั้นกงซุนโดนโรคจิตที่แบบคลั่งไคล้ในตัวกงซุนจับไปอีกก็คือสติแตกไหมถามมมม

คู่นี้มันฮาจริงๆ

เนื้อเรื่อง

เรื่องเกิดเมื่อมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น แล้วศพทุกศพบนหลังใบหูจะมีตัวเลขกำกับไว้เหมือนหมูที่โดนฆ่าแล้วมีตัวเลขประทับ ซึ่งตัวเลขก็คือรันเป็นจำนวนหลายร้อย แต่ศพที่พบตัวเลขข้ามไปข้ามมาไม่ได้เรียงกัน คดีนี้สืบไปสืบมากลายเป็นว่าไปพัวพันกับคนที่มีชื่อเสียงและมีตำแหน่งทั้งวงการจิตวิทยาและวงการของตำรวจ เป็นคดีเก่าแก่ที่เคยโด่งดังมาก่อนแต่ปัจจุบันไม่มีใครพูดถึงแบบลงรายละเอียดและแฟ้มคดีก็หายไปไร้ร่องรอย เรื่องราวสืบไปหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้โยงเข้ามาถึงตัวละครหลักทั้ง จั่นเจาที่มีคนติดตามแบบชื่นชอบมากๆจนกระทั่งได้ถูกฆาตกรรมแต่ก่อนจะตายก็ยังให้ข้อมูลช่วยเหลือ ทางกงซุนก็มีโรคจิตติดตามซึ่งก็เกี่ยวพันกับคดีนี้อีก ยังมีพี่ชายของไป๋อวี้ถังที่เป็นคนมีความเกี่ยวพันกับคนตัวการหลักของคดีซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกี่ยวพันขนาดไหนด้วย คือทุกคนโดนหมด แน่นอนว่าคดีปิดได้คนร้ายตายหมด(ฆ่าตัวตาย)แต่ตัวการหลักลอยนวล คงได้ตามต่อในตอนอื่นๆเพราะเก่งมากจริงขนาดว่าฆ่าคนได้ทั้งที่ไม่ต้องออกเสียงซะด้วยซ้ำ

ความหลอนของตอนนี้ก็คือ พี่ชายของไป๋อวี้ถัง ชื่อ “ไป๋จิ่นถัง” เป็นคนที่อายุพอจะทันเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกับคดีโด่งดังซึ่งตอนนี้ตามหาเบาะแสไม่ได้ไม่มีใครบอก ทางจั่นเจาก็เลยจะทำการสะกดจิตเพื่อหาร่องรอยของคดีนี้ว่าเป็นยังไง เผื่อจะมีอะไรเหลืออยู่บ้างที่ต้องสะกดจิตก็เพราะว่าทางไป๋จิ่นถังเกิดอุบัติเหตุตอนเด็กทำให้เวลาในช่วงเด็กหายไป พอได้ย้อนกลับไปจั่นเจาก็เหมือนได้รับรู้อะไรหลายๆอย่างแล้วอยู่ๆไป๋จิ่นถังก็ทำท่าทางออกมาแบบไม่รู้ตัว นั้นก็คือ ยื่นนิ้วชี้ออกมาแนบเข้ากับริมฝีปากแล้วส่งเสียง ‘ชู่ว์‘ ออกมา

บอกได้เลยว่าร้องเชี่—หนักมากกกกก

 ก็คือหลอนมากกกกก อยากจะกรี๊ด แบบอ่านตอนกลางคืนก็คือเสียวขาขนลุก เพราะการกระทำนี้จะเป็นที่รู้กันว่าเป็นท่าทางของตัวร้ายตัวหลักของตอนที่ทำจนติด คล้ายกับว่าเป็นท่าทางประจำตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการกระทำนี้ก็เป็นไปได้ว่า ไป๋จิ่นถังเคยใกล้ชิดกับคนร้าย(ก็เป็นไปได้เพราะเหมือนพ่อซึ่งเป็นตำรวจเคยสนิทกับคนนี้มาก่อนแบบเคยเป็นเพื่อนกันทำงานร่วมกันแต่คนนี้เดินไปอีกทาง) หรือเคยถูกชักจูงทางจิตจากคนร้าย ซึ่งก็ต้องตามต่อ

เฉลย : คนร้าย = เจ้าเจ๋ว์ อัจฉริยะด้านจิตวิทยา ให้คนอื่นฆ่าคนให้ได้โดยไม่ต้องออกปาก และหลบหนีการจับกุมได้ในท้ายที่สุด 


เล่ม 1 ตอนที่ 2 – ค่ายฝึกอบรมนักฆ่า

เกริ่น

  • ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
  • จิตวิทยา
  • มีฉากขืนใจ

เนื้อเรื่อง

ในงานเลี้ยงนักจิตวิทยาชื่อดังถูกซุ่มยิงจากมือปืนอายุน้อยแต่บุญบาปโชคดีที่มีไป๋อวี้ถังในงานด้วยเลยรอดตายบาดเจ็บนิดหน่อยส่วนมือปืนก็โดนมือดีอย่างไป๋อวี้ถังสอยร่วงตายในนัดเดียว หลังจากตามหาและระบุตัวคนร้ายก็ได้ความว่าเจ้าตัวเป็นนักศึกษาธรรมดา เป็นพี่ชาย เป็นนักดนตรีมือเบส แต่แค่เป็นโรคนอนละเมอและได้พบหมออยู่เรื่อยๆซึ่งหลังจากเรื่องราวประกอบกันหมดความจริงแล้วก็คือคนนี้เป็นโรคหลายบุคลิคซึ่งตัวร้ายใช้โรคนี้ให้เป็นประโยชน์ปั้นคนก่อการร้ายปั้นมือปืนซุ่มยิง

จากการลอบยิงในช่วงนี้สังเกตได้ว่าแต่ละครั้งมือปืนจะจำกัดระยะการยิงแค่500เมตร ซึ่งเป็นระยะทั่วไปในการซ้อมยิงที่สนามยิงปืน หลังจากนั้นก็ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เป็นทั้งการลอบฆ่า การสร้างความปั่นป่วน ซึ่งแต่ละครั้งล้วนมีความสัมพันธ์กัน พอไปสืบหาลงลึกค้นเมลล์คนก่อเหตุก็เจอว่ามีจดหมายหลายฉบับที่ส่งมาในวันเกิดเหตุโดยมีการลงนามว่าส่งมาจาก Killer Trianing Camp ทางS.C.I.เลยจำกัดวงแล้วส่งคนเข้าไปเป็นเหยื่อล่อซึ่งคนนั้นก็คือ”หม่าฮั่น”ที่เก่งเรื่องซุ่มยิง คนพวกนี้จะจิตแกร่งกว่าปกติทำให้การแสร้งเป็นคนจิตไม่ปกติสามารถทำได้และไม่มีผลกระทบทางจิต(ที่พูดถึงหม่าฮั่นเพราะต่อไปจะเริ่มมีบทบาทเด่นละรอๆ) แล้วก็โป๊ะ!หม่าฮั่นตกเหยื่อได้ ได้รับเมลล์ต่างๆแล้วก็ได้ทำตามขั้นตอนที่จั่นเจาบอก ลุล่วง

เฉลย : ค่ายฝึกอบรมนักฆ่าเป็นการแข่งขันด้านจิตวิทยาของหมอบ้าๆสองคน โดยการปั่นหัวคนใช้ประโยชน์จากโรคหลายบุคลิคหรือโรคต่างๆที่เข้าข่ายในการสร้างเครื่ืองมือทำลายล้างให้คนเหล่านั้นไปกำจัดไปปิดปากโดยโยงไปต่างๆนานาให้คนนั้นคนนี้กลายเป็นแพะแล้วตัวเองลอยนวล โดยถ้าสำเร็จก็คือการทดลองทฤษฎีที่ตั้งไว้ก็ลุล่วง

ตัวละครใหม่

ไป๋ฉือ

  • ลูกพี่ลูกน้องของไป๋อวี้ถัง
  • เป็นตำรวจเหมือนกัน ฉากแรกที่เจอเป็นตอนที่ไป๋อวี้ถังและจั่นเจาไปตามดูคนร้ายที่ยิงตายในฉากแรกที่ลอบยิงนักจิตวิทยา ไป๋ฉือก็คือเป็นคนเง๋อง๋ะนิดๆ เป็นตำรวจแต่ใช้ปืนไม่เป็นขี้ตกใจแล้วครั้งนั้นเป็นการเดินลาดตระเวณครั้งแรกด้วยก็แจ็คพอตเจอคนร้ายที่โดนยิงเป็นศพ 
  • ครั้งสองที่เจอก็เลยได้รู้ว่าเป็นญาติกัน พอได้คุยไปมาเลยรู้ว่าไป๋ฉือเป็นคนที่IQสูงมาก จั่นเจาก็ปลอบว่าเป็นตำรวจไม่ต้องต่อสู้เก่งเหมือนคนในตระกูลไป๋คนอื่นก็ได้นะ ตำรวจไม่ต้องบู๋เก่งอย่างเดียว ขนาดตัวจั่นเจาเองบู๋ไม่เก่งยังเป็นตำรวจเลย ไป๋ฉือเลยฮึดเลย จากนั้นก็เลยให้มาฝึกงานที่S.C.I.ทำฝ่ายเอกสารดูก่อน
  • มีฉากหนึ่งที่ไป๋ฉือขึ้นรถไปแล้วเจอคนคนหนึ่งซึ่งยังเป็นที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นเจ้าเจ๋ว์ที่เป็นคนร้ายในตอนที่1เล่ม1

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

คู่ 1 – ไป๋อวี้ถัง(หัวหน้าหน่วย เก่งสืบสวน ต่อสู้) กับ จั่นเจา(หัวหน้ารอง อัจฉริยะด้านจิตวิทยา)

          ในตอนที่1อ่านแล้วดูคลุมเครือว่ายังไง พอมาตอนนี้ก็คือจ้าา ขอกันเป็นแฟนแล้วจ้าาา ก็ตอบตกลงกันไป มีฉากหวานๆเขินๆเรื่อย

เขินไหม ถามมมมม

คู่ 2 – ไป๋จิ่นถัง(พี่ชายไป๋อวี้ถัง) กับ กงซุน(แพทย์นิติเวชมือ1ของทีม)

          จากตอนแรกที่ดูฮาๆดูไม่น่าจะพัฒนาได้เร็ว แต่มาตอน2ก็คือทะลุปรอทเพราะอีพี่ไปฟันเขาซะงั้น ก็แบบว่าหึงมาก หน้ามือเลยจัดเขาบนรถเลย กงซุนคือโกรธสุดก็มาแบบนิ่งๆเลยไม่อยากยุ่งละไม่พอใจ ทางน้องชายก็เข้าใจแหละว่าพี่ชายตัวเองไม่ปกติก็เลยมาคุยกับกงซุนดู ทางกงซุนก็เหมือนจะเข้าใจพฤติกรรมไป๋จิ่นถังมากขึ้นเพราะเป็นผลกระทบจากที่ตอนเด็กที่มีช่วงหนึ่งคามทรงจำหายไปแล้วหลังจากนั้นก็เลยเปลี่ยนไปเหมือนกลายเป็นคนละคน ขนาดตัวไป๋อวี้ถังที่รักพี่ชายนะแต่บางครั้งก็ยังกลัวๆเลย ทางกงซุนก็โอเคมากขึ้นก็ยอมกลับไปคุย เปิดใจดูค่อยๆปรับไป อย่างว่ากงซุนก็ไม่ใช่คนปกตินะเอาจริงๆ 5555 

          อีกอย่างที่ฮาก็จะมีลูกน้องของไป๋จิ่นถังที่เป็นคู่แฝดติง คู่นี้ก็คือเป็นลูกรับได้ฮามาก เชียร์อัพลูกพี่ตลอดเรื่องกงซุน

แต่คือน่าจะเป็นเชียร์อัพให้ฝั่งที่ได้เปรียบ ณ ช่วงเวลานั้นๆมากกว่านะ 5555

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม2

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ

มาเล่ม2หน้าปกดูเข้าที่เป็นสีชิงยืนกางร่ม แต่พออ่านจบแล้วก็ยังคิดไม่ออกว่าไปยืนกางร่มตอนไหน แต่เป็นปกที่แสดงแนวทางของเนื้อเรื่องได้ดีนะแบบว่าทำให้คนที่มองดูออกง่ายว่าเออ เป็นเรื่องแนวปัจจุบัน ถ้าเป็นเล่ม1คนที่แค่มองผ่านไม่อ่านเรื่องย่อหลังเล่มคงคิดว่าเป็นแนวจีนโบราณแต่เล่มนี้โอเค คนใส่สูท มีรถหรู

เส้นเรื่อง

  • ยังคงความเรื่อยๆในการพัฒนาความสัมพันธ์
  • สีชิงรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้คิดกับเสี่ยวเฉียวแบบเพื่อน แน่ละเพื่อนที่ไหนทำกันขนาดนี้
  • ยังมีการเปิดตัวความสามารถของเสี่ยวเฉียวที่ให้ต้องตะลึงอีกละ เก่งไปไหน
  • มีความห่วงเสี่ยวเฉียวออกนอกหน้านอกตามากกก หมั่นไส้
  • สีชิงและเสี่ยวเฉียวสนิทกันจนคนรอบข้างแปลกใจ ขำตรงคนใกล้ตัวสีชิงแบบบอดี้การ์ดคนงานในบ้านคือรู้แกวกันหมดละว่าต้องทำตัวยังไงกับเรื่องของเสี่ยวเฉียว
  • ฉากแสดงการจิกกัดคนที่มาแบบไม่หวังดีของเสี่ยวเฉียวคือ 10 10 10 ร้ายมาร้ายตอบ ฉันไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณหรอก
  • เรื่องธุรกิจของตระกูลใหญ่เริ่มทวีความรุนแรง

สปอยละขอมาแนวเม้าท์ไปทีละข้อ

  • จากการที่เสี่ยวเฉียวไปเล่นหนังระดับชาติก็ทำให้เสี่ยวเฉียวได้รางวัลใหญ่มาตั้งสองรางวัล สุดยอดมากกกก บอกแล้วว่าเก่งไปหมดทุกอย่างทุกทางจริงๆ
  • เสี่ยวเฉียวได้รับเชิญไปงานนานาชาติเป็นงานที่รวมคนหลายๆชาติมาแสดงผลงานทางศิลปะ ทางเสี่ยวเฉียวที่เป็นนักวาดพู่กันแบบไม่มีใครรู้จักหน้าตาปิดเป็นความลับมาตลอดแต่ทางคนในวงการจำฝีแปรงของเสี่ยวเฉียวได้เลยรู้ตัวตน งานของเสี่ยวเฉียวคือมีค่ามีราคาในตลาดมาก ด้วยความที่กลับมาเกิดใหม่เสี่ยวเฉียวก็จะรู้รายละเอียดรู้องค์ประกอบการจัดวางรู้วิธีการที่สรรสร้างทำให้ภาพหรือวิธีการที่เสี่ยวเฉียวถ่ายทอดลงกระดาษมีค่ามากๆ ยิ่งบวกกับหน้าตาความสามารถที่เป็นดาราดังเพิ่งได้รับรางวัลใหญ่อีกก็ทำให้แตก งานแตกแบบใครๆก็ต้องการสัมภาษณ์ ยังไม่นับงานที่เสี่ยวเฉียววาดมาโชว์อีกที่ทำให้คนในวงการถึงกับต้องหลั่งน้ำตาที่ได้ยล
  • สีชิงมีการเอาเสี่ยวเฉียวไปแนะนำกับเพื่อนแล้วนะจ้าาา แบบเพื่อนก็เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันแหละและเป็นพวกตระกูลใหญ่เหมือนกันเพราะเรื่องธุรกิจเริ่มดุเดือดก็กลัวอีกฝ่ายจะเล่นสกปรกเลยหาที่พึ่งหาคอนเนคชั่นให้เสี่ยวเฉียวเพิ่ม คือทางเสี่ยวเฉียวก็เป็นแค่คนมีตังค์ไม่ได้มีอำนาจ ขำตอนพอเสี่ยวเฉียวไปงานนานาชาติก็ได้ซื้อของกลับมาฝากเพื่อนแล้วทางสีชิงคือมองของที่น้องจะให้เพื่อนแล้วดูอิจฉาอะ 555 แบบว่าของตัวเองละ มีให้คนอื่นแล้วฉันละ สุดท้ยของสีชิงก็มีจ้าา แล้วคือถ่ายอวด 5555 ลงSNSไปเลย หมั่นมากกก หมั่นไส้
  • ต่อมาเสี่ยวเฉียวไปออกกองถ่ายเป็นแบบปิดถ่ายในที่ห่างไกล ความเจริญไม่ค่อยมี อาหารก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ ตอนลากันขึ้นเครื่องก็คืออ้อยอิ่งมากกกกก ไปสักทีเถิดพ่อ คือตัวเองก็ส่งบอดี้การ์ดในร่างคนดูแลสุขภาพไปด้วยนะ(บอกว่าเป็นอดีตพยาบาลเก่า แต่สภาพคือถ้าบอกเป็นทหารเก่าจะน่าเชื่อถือกว่าและแน่ละเอามาเป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยน้อง) บวกความห่วงความคิดถึงเข้าไปอีกคือไปเยี่ยมกองถ่ายทั้งๆที่อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะยกกองละ บอกว่าเป็นกองปิดนะแต่คือบ.สีชิงเป็นคนออกเงินให้กองไงจะเข้าไปดูก็เข้าได้ ก่อนหน้านี้คือเสี่ยวเฉียวบ่นให้ฟังว่าอยากกินหม้อไฟบวกกับได้รับอุบัติเหตุสิชิงก็เลยได้หิ้วของไปหาแล้วคือต้องนั่งออฟโร้ดไปนะเพราะทางคือไม่ดีฝนตกทางเละ แล้วห้องก็ได้นอนด้วยกันเพราะที่พักไม่พอ ดี ดีไปหมด ก็คือลาภปากคนในกองถ่ายเพราะหม้อไฟเนื้ออร่อยมาก อาหารอร่อยมันหาได้ยากแถวนี้ ดูสภาพหม้อไฟคนที่เอามาด้วยก็น่าจะเป็นเชฟด้วยซ้ำ แต่คนอื่นเข้าใจว่าเป็นบอดี้การ์ดสีชิงที่ทำกับข้าวเป็น 5555
  • เสี่ยวเฉียวป่วย!!! บอดี้การ์ดที่ส่งไปดูแลรายงานมา ก็เอาเลยจ้ะให้มานอนที่บ้าน แล้วคือคนทำอาหารที่บ้านน้องก็ลาพอดีน้องเลยตกลงไปอยู่ด้วย อะไรจะเหมาะขนาดนี้บรรยากงบรรยากาศ ฝนตกไฟดับคนในบ้านก็เป็นใจ ทุกคนรู้หมดว่าคนนี้เจ้านายชอบ 
  • จบเล่ม2ก็มาบอกชอบเสี่ยวเฉียวตอนท้าย เอาจริงตอนอ่านเล่ม1คิดว่าจะบอกเร็วกว่านี้นะ เพราะดูเข้าหาเร็ว สรุปคือเข้าหาเร็วแต่รู้ตัวช้า บอกช้า แล้วเสี่ยวเฉียวก็คือให้ดูๆกันไปก่อน เล่ม3ก็ไม่รู้จะหวานกันเยอะไหมเพราะดูจะมีเรื่องธุรกิจที่เริ่มดุเดือดละ ส่วนเรื่องในวงการของเสี่ยวเฉียวก็ดูจะลอยตัวไปแล้ว ไม่มีอะไรไม่ดีไม่ดังทุกอย่างคือPerfect
คือบอกคำที่บอกว่าน้องยิ้มตาหยีคือคนอ่านก็ยิ้มตามไง ยิ้มทำไม ฮือออ บอกไปแล้วนะ น้องยิ้มรับก็คือใจชื้นแหละคุณพี่

รีวิว+สปอย | ใครบ้างไม่เคยเห็นซุป’ตาร์ 2เล่มจบ

Molly เขียน
เหอมู๋ แปล


แนะนำก่อนอ่าน

  • นายเอกมีความสามารถในการมองเห็นอนาคตของคนคนนั้นจากการสบตา
  • เรื่องดำเนินเร็ว พระเอกรุกจีบเร็ว เพราะเคยมีความหลังตอนเด็กกันแต่นายเอกจำไม่ได้
  • สายคนชอบพระเอกเปย์สุด ห่วงเก่ง ต้องชอบ
  • ฟิลกู้ด ไม่ดราม่า ตลก อ่านง่าย  จังหวะมันได้
  • นิยายสายวงการบันเทิง 

ตัวละคร

เจียงจื่อเฉิง – นายเอก

เป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่ว่ามองตาคนไหนแล้วจะเห็นอนาคตของคนนั้น เจียงจื่อเฉิงเลยได้ใช้ความสามารถนี้กับการทำงานของตัวเอง หลังจากการมองเห็นอนาคตของผู้กำกับคนหนึ่งที่จะสามารถเอาหนังไปได้รางวัลเลยได้เข้าหาเข้าร่วมจนได้เป็นนักแสดงนำของเรื่องนั้นและแน่นอนว่าการมองเห็นอนาคตไม่ผิดพลาด แต่ได้รางวัลนอกประเทศไม่ได้แปลว่าเจียงจื่อเฉิงจะดังในประเทศ จากก่อนหน้านี้ที่เป็นตัวประกอบซึ่งเหมือนขาทองคำของหนังของละครที่ไปอยู่เรื่องไหนเรื่องนั้นก็โด่งดังแต่ด้วยบทที่ได้ก็ไม่ใช้พระเอกพระรองก็ทำให้แฟนคลับไม่ได้อุ่นหนาฝาคลั่งบวกกับการสนใจแต่ละครไม่ค่อยออกงานออกวาไรตี้เลยจะดูเหมือนมีหน้าตาออกมาให้เห็นบนจอเป็นบางช่วงเท่านั้น  

ประสบเคราะห์ดีมาแล้วแต่กลับมาก็ต้องมาเจอกับบริษัทที่สังกัดไปต่อไม่ได้โดนบริษัทใหญ่อย่าง”รุ่ยฉือ”เข้ารวบ แต่พนักงานในบ.เก่าที่ยังถือเป็นพี่น้องกันก็ได้รับการช่วยเหลือจากเจียงจื่อเฉิงในการมองอนาคตและพบเจอว่าให้เปิดร้านหม้อเป็นดี จากการรวมกับบ.ชื่อดังอย่างรุ่ยฉือเอนเตอร์เทนเมนต์ก็ได้ทำให้ชีวิตของเจียงจื่อเฉิงเปลี่ยนไป  

เซี่ยเป่ยวั่ง – พระเอก

เป็นลูกชายของประธานเซี่ยเจ้าของบ.รุ่ยซือ มีน้องสาวหนึ่งคนที่รักมาก ดูแลอย่างดีแม้จะเป็นคนละแม่ ตอนเด็กเกิดและโตที่ชนบทอยู่แบบยากลำบากจนวันหนึ่งประธานเซี่ยออกตามหาลูกชายได้รวบรวมและแต่งตั้งมุ่งหวังให้เซี่ยเป่ยวั่งเข้ามาดูแลกิจการ 


เนื้อเรื่อง

ฉากเจอกันครั้งแรกตอนโตเป็นตอนที่เจียงจื่อเฉิงจำได้ไม่รู้ลืมเพราะได้ใช้ความสามารถพิเศษกับเซี่ยเปี่ยวั่งคนคุมบ.รุ่ยซือและได้มองเห็นฉากที่ตัวเองกับเซี่ยเปี่ยวั่งอยู่กันในห้องสองต่อสองในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยบวกกับกระดาษที่เหมือนสัญญาการเลี้ยงดู!  ก็คือวงแตก…การที่เจียงจื่อเฉิงมาอยู่จุดนี้ได้มีรางวัลหนังที่ตัวเองแสดงได้ไม่ใช่เพราะการมองเห็นอนาคตอย่างเดียวแต่มันต้องบวกเข้ากับความสามารถในการแสดงที่เขาต้องมีด้วย การเอาตัวเข้าแลกเพื่อชื่อเสียงอย่างนี้ไม่ได้ ยอมไม่ได้เลยทำตัวห่าง แต่แล้วก็มีแชทเด้งชื่อแชทว่า “เซี่ย” ทางเจียงจื่อเฉิงก็เข้าใจว่าเป็นน้องสาวของเซี่ยเป่ยวั่งอย่างเซี่ยอิ๋งอิ๋งมากกว่า เพราะทางพี่ชายก็ไม่สนิท แถมเป็นเจ้านายอีกจะแอดมาทำไม ก็ได้มีการโต้ตอบไปมาหลายๆครั้งโดยไม่สงสัยเลยว่าจริงแล้ว “เซี่ย”ที่ว่านั่นหนะ เป็นคนพี่

ไปเวนิสงานรางวัลภาพยนตร์ เจียงจื่อเฉิงไปทำงาน ทางเซี่ยเป่ยวั่งก็อยู่บ.ทำงานไปจนกระทั่งน้องสาวที่อยู่ด้วยเบื่ออยากเที่ยวเลยเสนอให้ไปเวนิสเพราะจะตามโอปป้า ทางพี่ชายก็คือโอเคเลยเพราะไปเวนิสก็ได้ตามเจียงจื่อเฉิงด้วยและก็ไปทำงานได้ด้วย มีแต่ได้กับได้ แล้วเรื่องก็เกิดเข้าให้เมื่อทางเซี่ยอิ๋งอิ๋งต้องการแลกห้องกับเจียงจื่อเฉิงเพราะอยากอยู่ชั้นเดียวกับโอปป้า ก็เลยได้ยกห้องตัวเองที่อยู่ชั้นบนราคาแพง2ห้องนอน1ห้องน้ำให้ โดยไม่ได้รู้เลยว่าอีกห้องเป็นของใคร และฉากเจอกันอีกครั้งประทับใจไม่รู้ลืมก็เกิดขึ้นในห้องน้ำ เจียงจื่อเฉิงแช่น้ำแล้วเซี่ยเป่ยวั่งเปิดประตูเข้ามาเจอ 555 แตกเป็นแตก มุดเป็นมุด อีกเหตุการณ์ที่เซี่ยเป่ยวั่งได้แสดงอำนาจก็ตอนเจียงจื่อเฉิงได้แชทหาคุณหนู”เซี่ย”เรื่องคู่อริเก่าที่ชอบลวนลามตัวเอง ต่อมาไม่นานเลยได้เจอข่าวคู่อริโดนดึงเข้าไปเกี่ยวกับมาเฟียนอนหยอดข้าวต้มไปแล้ว ดูก็รู้เลยนะคะว่าฝีมือใคร 5555

แล้วซีเป่ยวั่งคือหึงเก่งจ้า ตั้งกฎบ.แบบว่าคิดว่าคงอ้างมาเดี๋ยวนั้นแหละ(กับเจียงจื่อเฉิง)ว่า  ห้ามศิลปิน(แซ่เจียง)ที่อายุต่ำกว่า30ปีมีคู่จิ้น ตลกมากกก เป็นพระเอกเป็นดาราจะไม่มีคู่จิ้นได้ยังไง หลังๆคือรับงานเป็นตัวเด่นก็ต้องมีข่าวให้เป็นกระแสไง แต่ดั้นมาตั้งว่าห้ามมี

มีช่วงที่ร้านหม้อไฟก่อนจะเปิดกิจการก็ได้ชวนเจียงจื่อเฉิงไปกินก่อนเพราะช่วงที่เปิดพอดีกับช่วงถ่ายหนังแล้วบังเอิญวันนั้นเจียงจื่อเฉิงปะกับซีเป่ยวั่งเลยได้เอามากินหม้อไฟกันด้วย และด้วยความที่อีกฝ่ายกินไม่เป็นเพราะนักธุรกิจใหญ่โตจะมีจัดงานหม้อไฟก็ไม่ได้ ที่บ้านก็ไม่ได้สนิทจะกินก็คงยาก น้องสาวก็มีกลุ่มเพื่อนของตัวเองก็ไม่เคยกินกับน้องการกินครั้งนี้เจียงจื่อเฉิงเลยดูคล้ายๆพี่เลี้ยงเด็ก คอยทำให้คอยดูแล แล้วทางคนร้านหม้อไปที่เป็นเจ้านายเก่าก็ไม่รู้ว่าซีเป่ยวั่งเป็นถึงผู้บริหารคิดว่าเป็นแค่ผู้จัดการก็ไม่เกรงอะไร มีการถ่ายรูปอีกซะด้วยแบบโฟกัสสองคนนี้โมเมนต์ดี โมเมนต์ได้ เจียงจื่อเฉิงมาเจออีกรอบถึงกับตาหลุดภาพนิใหญ่แบบเมตรครึ่งถึงกับให้ถอดเอากลับ…หาทางทำลาย แต่ตอนจะขึ้นที่พักมาเจอซีเป่ยวั่งก่อนแถมเห็นรูปไปแล้วอีก ซีเป่ยวั่งก็ได้อานิสงค์กลายเป็นคืนสำเร็จโทษ

เล่ม2 เจียงจื่อเฉิงปลดล็อครู้ความจริงสมัยเด็กกับพี่ชายที่เคยเฝ้ารอ จากนั้นก็คือหวานเกิ๊นนนน ทะลึ่งไปดิ 555

ฮืออออ พัฒนาการไปเร็วมากก แม่จะเป็นลม ขึ้นเตียงไม่กี่ครั้งก็ขนาดนี้แล้ว

ซีเป่ยวั่งนางน่ารักนะ ทำได้ทุกอย่างให้เจียงจื่อเฉิงอะ แบบโดนแฟนคลับดาราคนอื่นรังควาญทางแก้ก็ต้องหาพวก แต่ดาราอีกคนที่จะมาช่วยไม่สามารถพูดป่าวประกาศได้เพราะบ.ห้าม ซีเป่ยวั่งเลยทำการเข้ารวบบ.เลยแล้วให้ดาราคนนั้นมีอิสระแล้วพูดมาช่วยเจียงจื่อเฉิง

ได้รับบาดเจ็บจากการช่วยอีกฝ่ายเลยต้องออกคำขู่สักหน่อย น่ากลัวมากกก ก็คือกลัวจริงแหละ 55

มีอีกคู่น่าส่องไม่แน่ใจจะมีเรื่องแยกไหมเป็นเทพบุตรขวัญใจเจียงจื่อเฉิง กับ คนเขียนบทละคร เทพบุตรขวัญใจอดีตเป็นดาราแต่ตอนนี้มาผันตัวเป็นผู้ช่วยผู้กำกับเพราะบอกว่าไม่มีบทที่อยากเล่น คนเขียนบทละครร่างยักษ์ท่าทางสวนกับอาชีพเขียนบทดีบทเร็วราคาถูกแต่แต่งตัวซกมกเคราไม่โกนหนีบร้องเท้าแตะเสื้อยืดสกรีนQR CODE บัญชี เปลี่ยนบททำให้ได้ตังมาของไปโอนเร็วทำเร็ว แต่เห็นดูท่าทางซกมกแต่ความจริงหล่อและดูเหมือนจะเป็นพี่น้องต่างแม่ของซีเป่ยวั่ง ใช่ไม่ใช่?

เรื่องราวจะมีหลักๆแค่สองอย่างคือ

  1. เรื่องความรักความสัมพันธ์ของคนสองคนระหว่างเซี่ยเป่ยวั่งและเจียงจื่อเฉิง เจอกันตอนไหน อดีตเป็นยังไง ทำไมจำไม่ได้ แล้วตกลงมันยังไงมองอนาคตสองครั้งทำไมเจอแต่ฉากวาบหวิว ครั้งแรกสัญญาเลี้ยงดูที่เซวี่ยเป่ยวั่งยื่นให้ ครั้งสองเจียงจื่อเฉิงยื่นให้อีกฝ่าย
  2. เรื่องเซี่ยเป่ยวั่ง กับ พ่อของตัวเองที่มีปัญหากัน การแยกบริษัท ซึ่งจะมาในช่วงท้ายๆเรื่อง แต่ก็ไม่ได้ดราม่าหนักหนาสาหัส
นัมเบอร์วัน 10 10 10

“สิ่งที่งดงามที่สุดของความรักก็คือ..ความคลุมเครือ..เพราะความคลุมเครือเป็นสถานะที่เลือนรางและไม่ชัดเจนกว่าอย่างอื่น ทุกครั้งฝ่ายรุกก็จะต้องหยั่งเชิงด้วยความระมัดระวังและทุกครั้งที่หลบหนีความจริงแล้วยินดีแต่แค่แกล้งเป็นปฏิเสธเท่านั้น”

ประโยคเด็ดกินใจอยากเอามาแปะ

เม้าท์

  • ความสามารถพิเศษนอกจากจะใช้กับคนได้แล้วก็ยังสามารถใช้กับสัตว์ได้ด้วย สุดมากกก
  • ต้นแปะก๊วยที่ปลูกเรียงรายหน้าบ.รุ่ยซือเป็นฝีมือของเซี่ยเป่ยวั่งเพราะมีความหลังตอนยังเด็กกับคนคนหนึ่ง
  • เจียงจื่อเฉิงเป็นคนที่ไม่ค่อยจำเรื่องราวในอดีตได้เท่าไหร เนื่องจากตัวเองมองเห็นอนาคตทำให้โฟกัสอยู่กับตรงนั้นมากกว่าอดีตทำให้หลายๆเรื่องได้ถูกหลงลืมไปรวมทั้งพี่ชายที่แสนดีตามติดตอนยังเด็กก็ลืมเลือนจนกระทั่งที่บ้านได้เอากล่องสำคัญมาให้ข้างในเป็นจดหมายที่ตัวเองเขียนให้พี่ชายคนนั้นและถูกตีกลับเพราะไม่มีคนรับ
  • เสียดาย: มีฉากตอนที่เจียงจื่อเฉิงมองอนาคตแล้วเห็นงานแต่งก็เดาได้แหละว่าเป็นงานแต่งตัวเองกับซีเป่ยวั่ง แต่เสียดายอ่านจนจบก็ไม่มีให้เห็นเสียดายจริงๆ
น้องเป็งคนตลก

รีวิว+สปอย | หัวใจมีหลิงซี

Molly เขียน
SUNTUR แปล


แนะนำก่อนอ่าน

  • ตามซื้อเรื่องนี้เพราะอ่านนิยายเรื่อง “น้องชายที่รัก” แล้วคือมีตัวละครในเรื่องนี้โผล่มาแจม
  • เป็นนิยายฟิลกู้ดโรแมนติก อ่านง่าย ไม่มีดราม่า 1เล่มหนาสะใจ 407หน้า
  • เป็นนิยายวงการบันเทิง ดาราxนักร้อง ให้ชวนจิ้นมีแฟนคลับมีแฟนฟิค 
  • นายเอกโก๊ะๆเปิ่นๆ น่ารัก เป็นคนสดใส
  • พระเอกคือดี ดีแบบดียยย์ ต้องมีแบบนี้หลายๆคนเป็นคนที่เห็นใจใส่ใจเพื่อนร่วมโลก ดังไม่หยิ่ง มีความนุ่มนวล
  • เป็นการสานความสัมพันธ์ที่เริ่มจากการเป็นเพื่อนแล้วค่อยๆไต่ระดับ

ตัวละคร

หลิงซี – นายเอก

นักร้องฉายาราชาเพลงร้านสองหยวน ก็คือถึงจะมีความสามารถแต่ก็ไม่ได้ดังเป็นพลุแตกตีตลาดได้หลายช่วงอายุแต่เป็นความดังที่จะได้ยินเพลงตามร้ายขายของชำตามชนบท ยอดขายไม่ได้ทะลุเป้า เข้าวงการเพลงมาตั้งแต่อายุ15ปี(ในเรื่องหลิซีอายุ26ปี)ผู้จัดการไปเห็นดูมีแววก็เลยลากเข้าวงการ 

อันรุ่ยเฟิง – พระเอก

ดาราหน้าลูกครึ่งดังมาจากละครแล้วผันตัวเข้าวงการหนัง หน้าตาดีถูกใจทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพเรียกว่าใครๆก็ต้องรู้จักตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ขนาดพระลัทธิเต๋าในหุบเขายังเป็นแฟนคลับ เรียกได้ว่าถ้าเทียบกันในเรื่องการงานแล้วหลิงซีกับอันรุ่ยเฟิงก็คือฟ้ากับเหวต่างกันมากๆ แบบมองแล้วไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้


เนื้อเรื่อง

เริ่มต้นการเจอหน้าเป็นการพบปะบนเครื่องบินที่แม้ว่าสถานะชนชั้นในวงการจะแตกต่างกันแต่ก็ได้เจอกันบนเครื่องบินที่ห้องน้ำชั้นfirst class ไม่ใช่ว่าหลิงซีได้นั่งชั้นนี้แต่ห้องน้ำฝั่งธรรมดามันเต็มเลยขอแอร์มาเข้าฝั่งนี้ได้เพราะสถานะทางการเงินที่บ.ให้กับหลิงซีคือน้อยมากนั่งที่ดีๆไม่ได้เงินไม่พอ และการเจอในห้องน้ำก็เป็นฉากประทับใจไม่รู้ลืมแรกเจอหน้าพระนาย 5555 เพราะตกหลุมอากาศและกางเกงยังสวมไม่เสร็จงานนี้ลืมยาก 555 พอลงเครื่องก็เจอหน้าอีกได้คุยกันจุดหมายปลายทางเดียวกันแล้วยิ่งรุ่ยเฟิงออกตัวว่ารู้จักกันสนิทกันแม้เพิ่งเจอบวกเข้ากับความไหลลื่นความสดใสของหลิงซีก็ทำให้สนิทกันจริงๆ

จากการเจอกันครั้งแรก ครั้ง 2 3 4 ก็ตามมา พอเวลามีปัญหาหลิงซีก็ได้รุ่ยเฟิงเข้ามาช่วยแล้วคือช่วยได้ไงเพราะดังมีชื่อเสียงการมีปัญหากับดารายังไงคนดังกว่าก็ได้ชัยชนะ ปัญหาที่ว่าก็คือหลิงซีได้หน้าที่แต่งเพลงประกอบด้วยพอเพลงเสร็จเดโมเสร็จปรากฎว่าไปโดนใจพระเอกของหนังเรื่องนี้เข้า ก็แบบอยากร้องอยากได้เลยใช้กำลังใช้ชื่อเสียงจะมาเอา หลิงซีไม่ยอมก็ไปขอความช่วยเหลือรุ่ยเฟิงเลยจบได้เพราะทางรุ่ยเฟิงดังกว่าพระเอกของหนังเรื่องนี้ถ้ารุ่ยเฟิงอยากร้องยังไงผลลัพธ์ที่ได้ล้นหลามกว่าแน่นอน เป็นการเริ่มต้นแบบเพื่อนช่วยเพื่อนที่ดูธรรมดาไม่มีอะไรแต่ยังมีหลายเหตุการณ์ให้ เอ๊ะ! ยังไงนะคู่นี้

หลิงซีไม่ใช่คนที่จะมาเอาเปรียบง่ายๆเห็นร่าเริงเข้ากับคนง่ายแต่ฝีปากคือสุดมากกกก หลิงซีได้บทเป็นปีศาจหมากลายร่างเป้าฮุยเลยว่าเข้าถึงอารมณ์หมาได้ยัง เจอหลิงซีสวนกลับเข้าให้ว่าแล้วบทที่เป็นคนละท้าทายมากสินะ – แบบว่าเป้าฮุยเป็นหมาหรืออย่างอื่นที่ไม่ใช่คนกลับต้องมาเล่นบทคน 5555

มีช่วงรุ่ยเฟิงทำงานต่างเมืองหลิงซีว่างก็เลยบินไปหาเพราะจะเอากระเป๋าเดินทางไปให้และเป็นการไปเยี่ยมด้วย การพบกันที่สนามบินครั้งแรกมีการพูดถึงกระเป๋าเดินทางของหลิงซีเพราะเด่นมากจริงๆเป็นรูปซูชิแบบแฮนด์เมดลอยมาตามสะพานคือเห็นมาแต่ไกลก็เลยได้ทำให้รุ่ยเฟิง1ใบ เพื่อนกันต้องมีคล้ายๆกัน

มีช่วงหลิงซีทำconcertตามหัวเมืองต่างๆพบปะแฟนคลับ เป็นช่วงที่เป็นที่รู้จักมาระดับหนึ่งละเพราะมีข่าวกับรุ่ยเฟิงที่สนามบินด้วย(มีข่าวจิ้น) มีเล่นหนังร้องเพลง ช่วงนั้นก็คือคุยแชทกับรุ่ยเฟิง’ทุกคืน’และมีการนัดกันด้วยว่าตอนไปเมืองใกล้ที่รุ่ยเฟิงทำงานอยู่จะจองที่ไว้ให้มาดูมาฟัง อีกอย่างคือรุ่ยเฟิงชอบเพลงของหลิงซีมาถึงกับตั้งให้เป็นเสียงรอสาย แต่สรุปคือวันนั้นมาไม่ทันรถติดที่ทางมีปัญหาแต่หลิงซีก็คือโทรหาแล้วร้องผ่านทางโทรศัพท์ให้ฟังจ้าาาา ดียยย์ แฟนคลับสายจิ้นที่ซื้อตั๋วเข้ามาแอบมีตงิดก็คือลอยเพราะทางนั้นก็เป็นแฟนคลับรุ่ยเฟิงและเป็นหัวเรือใหญ่ในการจิ้นคู่นี้ด้วย

หวานไปไหมแม่!!!! ถ้าผมเป็นดวงอาทิตย์ของพวกคุณ เขาก็คงเป็นจักรวาลของผม เพื่อนกันไม่พูดแบบนี้นะลูกกก

มีช่วงได้ถ่ายหนังด้วยกันบนเขาแล้วต้องนอนด้วยกัน แล้วช่วงนั้นคือต่างคนต่างยอมรับใจตัวเองกันแล้วก็คือระเบิดพลุ ยินดีกับความรัก หวานมากแต่มีอะไรกันไม่ได้เพราะคิวแน่นมากถ่ายเช้าดึกร่างกายต้องพร้อมเพราะเป็นหนังแบบวิทยายุทธ์หนังจีนโบราณแฟนซีแต่จ้ะ แน่นอนว่าปิดกองลงเขาดุเด็ดเผ็ดมันส์ ต่างคนต่างเข้ากันได้ดี ทางหลิงซีก็คือพูดเก่ง ทะลึ่งเก่ง 

มาในส่วนของเรื่องงานทางหลิงซีที่ดูจะไม่มีวี่แววโด่งดังพลุแตกเพราะถึงจะได้ถ่ายหนังแต่กว่าจะถ่ายทำกว่าจะได้เข้าโรงระยะเวลาก็ทิ้งห่างจนถูกค่ายลอยแพ โยกผู้จัดการที่ดูแลกันมา11ปีไปดูแลคนอื่น คนใหม่ไม่ส่งมาแล้วคือลำบากช่วงนั้นจะลงเขาด้วยยังดีที่มีรุ่ยเฟิงอยู่คอยช่วย ทางหลิงซีที่มีการต่อสัญญาเพิ่มอีก3ปี หลังจากหมดไปตอนอายุ25ปี ซึ่งตอนนี้เหลืออีก2ปีก็ไม่ไหวละโดนลอยแพแถมพอไปคุยกับบ.อีก2ปีที่เหลือก็คือจะไม่ดันนะจะให้ทำงานเบื้องหลังให้แต่งเพลงให้นักร้องใหม่แล้วคือแต่งให้แบบเป็นเงาไม่ได้ชื่อได้แค่เงิน หลิงซีทนไม่ได้ดีนะอัดเสียงไว้เลยมีข้อต่อรองฉีกสัญญา


เม้าท์

ตอนทำหนังหลิงซีได้บทเป็นปีศาจหมากลายร่าง ตอนเป็นคนเลยมีหางมีหูทางกองถ่ายก็ได้เครื่องมือได้เทคโนโลยีมาช่วย เป็นหูห่างที่ตอบสนองตามความคิดคนใส่แล้วคือรุ่ยเฟิงประทับใจมากถึงกับให้หลิงซีติดต่อซื้อให้แล้วทำเป็นให้เก็บไว้ให้ แต่เสียดายที่พอชอบกันแล้วไม่เห็นมีฉากบนเตียงที่ได้เอามาใช้เลยอะ

ของเล่นตั้งแพงแต่กลับไม่มีบท เสียดายจริงๆ

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม1

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ


แนะนำก่อนอ่าน

  • เริ่มจากปกก่อน เห็นรูปกับอ่านเรื่องย่อข้างหลังก็งงๆนะสำหรับคนไม่อ่านตัวอย่างเนื้อหาเรื่องแบบเรา ตอนแรกคิดว่าเป็นจีนโบราณเพราะปกมันใช่ แล้วไปเจอย่อหน้าที่พูดถึงเซียนบนสวรรค์ผ่านด่านเคราะห์อีกก็ไปกันใหญ่ว่าตกลงเป็นวงการบันเทิงหรือว่าศึกชิงยุทธภพ หลังจากอ่านก็สรุปได้ว่าเป็นเรื่องในวงการบันเทิง ทั้งหนัง ละคร แฟชั่น 
  • อ่านง่าย ไม่ดราม่าหนักหน่วง
  • นายเอกเก่ง พระเอกก็ดัน
  • ตายกลับมาเกิดใหม่

ตัวละคร

กงซีเฉียว – นายเอก

  • บ้านรวย พ่อแม่รัก การแสดงเก่ง จบมหาวิทยาลัยดังผลการศึกษายอดเยี่ยม แค่คำขึ้นต้นปกหลังก็เป็นนายเอกที่เพอร์เฟ็คสุดๆแบบว่าดีไปหมด360องศา เห็นอย่างนี้จะว่าใจบุญสุนทานก็ได้แต่น้องเชือดได้เชือด ดีมาดีตอบร้ายมาร้ายกลับเชือดแบบนิ่มๆเสียวสันหลัง 
  • ในเรื่องตายแล้วมาเกิดใหม่มีความจำชาติที่แล้วเป็นคนยุคโบราณแบบว่าเป็นบัณฑิตข้างฮ่องเต้ เขียนพู่กันสวย เล่นดนตรีเครื่องสายได้ ขี่ม้าเป็น ยิงธนูเก่ง เป็นความสามารถที่ส่งให้การเล่นหนังแนวจีนโบราณไหลลื่นเป็นที่น่าประทับใจหลายๆคนถึงขั้นได้กลายเป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆ บวกกับความเป็นคนที่แบบทำงานกองไหนกองถ่ายรัก
ฮาตอนได้เป็นพรีเซนเตอร์เสื้อผ้าแล้วเขาเอารูปขึ้นตึก ตรงนั้นเป็นเส้นถนนรถผ่านไปมาเป็นอันมีเหตุชนกันเรื่อยหลังจากได้ขึ้นรูปเสี่ยวเฉียว ก็คือหล่อมาก หล่อสะดุด หล่อจนคนขับรถผ่านไปมาต้องชะงักชนกันหลายครั้งหลายคราจนตำรวจต้องขอความร่วมมือให้ปลดภาพออกเพื่อลดการติดขัดของจราจร

สีชิง – พระเอก

  • ผู้นำตระกูลสีผู้น่าเกรงขาม กำจัดคนในตระกูลที่ไร้ประโยชน์สิ้นซากขึ้นมาเป็นผู้นำทั้งอายุยังไม่ถึง30ปี 
  • หลังปกเขียนบอกว่าสีชิงเป็นแฟนคลับเบอร์ใหญ่ของกงซีเฉียว เริ่มเป็นตั้งแต่กงซีเฉียวยังไม่ได้เป็นนักแสดงเบอร์ใหญ่ จริงๆเหตุก็คือมีความหลังกันแต่ดูทางเสี่ยวเฉียวแล้วเหมือนจะจำไม่ได้ว่ามีความหลังยังไงตอนไหน
  • อย่างที่บอกไปว่าเป็นผู้นำตระกูลย่อมเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามแต่การที่เจอเสี่ยวเฉียวแล้วขอถ่ายรูปนิเป็นอะไรที่เกินไปมาก รวมไปถึงการปั้นตุ๊กตาหิมะแล้วโพสต์ติดแท็กเสี่ยวเฉียวที่ปั้นตุ๊กตาหิมะเล่นที่บ้านก็ดูเป็นการกระทำที่เอาลูกน้องงงไปตามๆกันบวกกับการยืนคุยโทรศัพท์แล้วยิ้มเป็นแบบ…ขนลุกไปเลยว่ายิ้มอะไรยิ้มในแง่ไหนยิ้มกับใคร

กงซีสยง – พ่อของเสี่ยวเฉียว

  • เป็นตัวละครที่ทำให้ยิ้มจริงๆ คือเปย์ลูกเก่งโอ๋ลูกเก่ง ทางแม่เสี่ยวเฉียวก็เก่งนะคุณแม่อัปเดตโทรศัพท์มาประเคนให้ลูกใช้ตลอดจนคนที่ไม่รู้ก็คิดว่าเสี่ยวเฉียวอวดของแบบอะไรออกใหม่คือต้องใช้ แต่หนักกว่าคือพ่อเบอร์ใหญ่มากกก เกินเบอร์สุดๆเห็นมีรถใหม่ออกก็จองให้ซื้อให้เพราะเห็นวัยรุ่นฮิตกันลูกฉันก็ต้องมี เงินเก็บไว้มันบูดเอามาใช้ดีกว่า 
  • การแต่งตัวของพ่อเสี่ยวเฉียวในหัวเราก็แบบอาเสี่ยไปเลย ใส่ทองทั้งสร้อยแหวนนาฬิกา เสื้อผ้าก็คงแบบเวอซาเช่แน่นอนสีดำลายทอง แบบว่าใครเห็นก็คงดีใจที่เสี่ยวเฉียวไม่ได้เทสการแต่งตัวของพ่อมา555 แล้วบ้านนี้ก็เป็นคนรวยแบบติดดินอะ เป็นคนรวยที่เพิ่งจะรวยที่รุ่นพ่อแต่ทำตัวง่ายๆสบายๆแต่เรื่องการใช้เงินก็คือฟาดได้ฟาดลูกอยากได้อะไรของให้บอก ขอห้าสิบล้านให้หกสิบล้านเพราะกลัวไม่พอใช้

เนื้อเรื่อง

เล่าเรื่องเริ่มตั้งแต่เสี่ยวเฉียวเข้าวงการ เริ่มต้นจากพ่อเห็นว่าลูกสนใจด้านนี้เลยดันให้เพื่อนที่อยู่ในวงการหาทางให้ พอได้เข้ามาด้วยความที่เก่งไปซะทุกด้านและถึงบางอย่างไม่เก่งแต่ก็ไม่ได้แย่จนแบบดันไม่ขึ้นมารวมกับการที่เป็นเศรษฐีนิสัยดีเข้ากับคนง่ายไม่หยิ่งก็กลายเป็นที่รักได้ง่าย หลายๆอย่างดันให้เสี่ยวเฉียวได้งานดีๆหลายๆอัน แต่แน่นอนว่าพอเริ่มดังหน้าตาที่เด่นและบทบาทที่ได้รับก็ดูจะเด่นเกินไปสำหรับคนที่เพิ่งเข้าวงการก็มีคนอิจฉาเยอะแต่เสี่ยวเฉียวก็ไม่ใช่กระต่ายที่จะเคี้ยวง่ายๆยิ่งบวกกับน้องได้มีโอกาสทำความรู้จักกับ”สีชิง”นักธุรกิจใหญ่ที่ใครๆก็เกรงก็กลายเป็นทางเดินเหินสะดวกมากไปอีก แค่มีพ่อรวยแล้วรักลูกหนักมากอย่างกงซีสยงทางเดินก็ดูไม่ลำบากแล้วพอมีสีชิงก็กลายเป็นทางเดินเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าไปอีก สบาย


เม้าท์

อย่างที่บอกไปตอนแรกว่าน้องกลับมาเกิดใหม่เลยมีความรู้ความสามารถหลายๆอย่างที่คนคาดไม่ถึง ช่วงแรกๆคือมีบอกด้วยว่าเก่งในเรื่องดูของเก่า คนก็คิดว่าอาจจะเพราะเรียนเก่ียวกับประวัติศาสตร์มาด้วยเลยมีความสามารถแต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีการเสริมความเก่งของน้องตรงนี้ เดี๋ยวรอดูเล่มต่อไปว่าจะมีเพิ่มไหม

การเกิดใหม่ที่ไม่ได้เป็นเกิดซ้ำเพื่อมาแก้ไขสถาณการณ์ เป็นการกลับมาเกิดอีกครั้งจากยุคเก่ามายุคใหม่ที่ห่างกันหลายร้อยปี แต่การปรับตัวการใช้ชีวิตก็คือดี ไม่ใช้การสิงร่างแต่เป็นแบบจิตมาตั้งแต่ตั้งท้อง เกิดมาร่างเบบี้เลยน่าจะอย่างนั้นเพราะดูไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจ หรือเกิดใหม่แบบจำเรื่องในชาติก่อนได้

ตอนแรกว่าจะเทียบกับ”กลับมาเกิดใหม่เป็นซูเปอร์สตาร์” แต่พอพิมพ์ไปพิมพ์มาก็เออ เทียบไม่ได้อะ เรื่องนั้นเป็นแบบมาสิงร่าง ก็คือเก่งเรื่องนั้นๆมาก่อนแล้วพอได้ร่างก็พยายามทำให้ดีขึ้นบรรลุเป้าหมาย แต่เรื่องนี้เกิดใหม่จิตวิญญาณเก่าเป็นการเลือกเส้นทางเองเป็นเส้นทางใหม่ที่ไม่ได้ทำมาก่อน 

แต่ถ้าเทียบเรื่องอื่นก็พอได้อยู่ เช่น 

  • การเดินเรื่องเร็ว ตัวหนังสือจำนวนหน้าบางกว่า อ่านจบเร็วกว่า ทำให้พระเอกนายเอกเจอกันเร็ว สนิทกันเร็ว วางเรื่องพระเอกบุกก่อนมีความหลังกัน 
  • เรื่องธุรกิจวงการบันเทิงเบากว่า ไปทางกำจัดคนขี้อิจฉา การทำงานของน้องที่ไม่ได้มีเป้าบรรลุจริงจังว่าจะไปขั้นสุดขนาดไหน เป็นแค่จำกัดทางเดินให้ดูดีดูสูงค่าให้ลูกค้าเกรดดีเข้ามามากกว่า

เรื่องที่ไม่เท่าก็มี ซึ่งเป็นการคาดเดา เช่น

  • คิดว่าฉากบนเตียงอาจจะไม่โหดเท่ากลับมาเกิดใหม่ อันนี้คิดนะ เพราะน้องดูออร่าพ่อพระมากถึงแม้จะเชือดศัตรูด้วยความคิดและคำพูดนิ่มๆก็ตาม ต้องรอดูเล่มต่อไปว่ายังไงต่อ
  • ความลุ้นอาจจะไม่เท่า เพราะยังหาไม่ได้ว่าจะให้ลุ้นอะไร ไม่มีเป้าอะว่าจะไปถึงขั้นไหน สุดๆที่เห็นก็คือสีชิงจะจีบเสี่ยวเฉียวยังไงเพราะเสี่ยวเฉียวดูเพอร์เฟ็คไปหมด ดูเป็นคนไม่มีความรักไม่มีแฟนก็ไม่เดือดร้อนอะ

รีวิว+สปอย | Turing code โปรแกรมลับรีเทิร์นรัก เล่ม1,2

เฟยเทียนเย่เสียง เขียน
ผู่เอ๋อร์ แปล


แนะนำก่อนอ่าน

  • เลิกกันแล้วแต่ยังมีเยื่อใยแต่ด้วยอีโก้ค้ำคอก็ไม่คุยไม่เคลียร์ไม่เข้าหา ทางบ้านฝ่ายพระเอกก็ยังเข้าใจว่ายังคบกันอยู่ซะด้วยซ้ำ
  • เป็นเรื่องธุรกิจ บริษัท การเงิน วงการไอที
  • คู่หลักเล่ม1ยังหม่นๆ โดนแย่งซีนด้วยคู่รองที่ฮาสุดๆ
  • เล่ม2 คู่หลักก้าวหน้ามาก กลับมาคบกันแล้วHappy แต่ยังรอดูว่าเล่ม3มีอะไร เพราะเห็นว่าเหมือนตัดจบแล้ว เล่ม3เป็นตอนพิเศษล้วนเลยหรือเปล่า

ตัวละคร

เหวินเทียนเหอ – นายเอก

ได้กลับมารับตำแหน่ง CEO ของบริษัทอีพีอุสจากพี่ชายที่ทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ คือบ.ล้มละลาย ตัวเองบินหนีไปต่างประเทศแบบไม่บอกน้องเลยว่าวิกฤตมาก คือแย่สุดๆพอน้องมารู้ก็คือมืดแปดด้านหาทางออกไม่ได้จากคนที่เป็นเศรษฐีแต่มาวันนี้ทุกอย่างล้มไปต่อหน้าแบบงงๆทำตัวไม่ถูก จนได้มาเจอกับ”โพรมีธีอุส”ปัญญาประดิษฐ์ที่พ่อและเพื่อนพ่อ(อาของกวนเยวี่ย)ได้สร้างไว้ซึ่งเอไอนิแหละก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยและเพื่อนอีกคนของเทียนเหอและเป็นตัวการสำคัญในการกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าอย่างกวนเยวี่ย

กวนเยวี่ย – พระเอก

ผู้จักการใหญ่บ.การเงินเบอร์ต้นๆแยกสาขามาจากบ.แม่ที่อเมริกา เป็นบ.เดียวที่โพรมีธีอุสคิดว่าจะช่วยให้อีพีอุสกลับมาได้เพราะเงินหนาความเชื่อถือยาวนาน และอีกอย่างคนใหญ่คนโตก็เป็นคนมีความหลังกัน กวนเยวี่ยเป็นคนที่ถือได้ว่าเก่งหาเงินเก่งติดอันดับโลกทั้งๆที่อายุยังน้อย ที่บ้านถือกิจการทำกระดาษไม่ได้ดูใหญ่โตแต่กลับกลายเป็นคนที่ก้าวหน้ารวดเร็ว

โพรมีธีอุส – ปัญญาประดิษฐ์ 

เป็นสิ่งที่จะมาเมื่อ the right people in the right place at the right time ซึ่งคนที่ได้สิทธิ์นั้นก็คือเหวินเทียนเหอนั้นเอง โพรมีธีอุสมีเสียงที่ค่อนข้างคล้ายกวนเยวี่ยและมีการวิเคราะห์ลักษณะความเป็นไปได้ต่างๆที่เข้าขั้นแม่นยำจะเกิดขึ้นกับกวนเยวี่ยเพราะใช้กวนเยวี่ยเป็นต้นแบบวิเคราะห์ ดังนั้นการที่เหวินเทียนเหอได้โพรมีธีอุสเป็นผู้ช่วยจะออกไปแนวพ่อสื่อพ่อชักมากกว่าคนช่วยงาน 5555 แล้วการวิเคราะห์แต่ละอย่างก็น่าคิดแบบว่าจริงเปล่า กวนเยวี่ยยังมีใจหรือเปล่าาา

เจียงจื่อเจี่ยน

เพื่อนสนิทเทียนเหอ ลูกชายคนเดียว บ้านรวย พ่อแม่ตามใจสุด ไม่ว่าไม่ห้าม อยากทำอะไรทำ งานการไม่จริงจังไม่เป็นไรของแค่มีสะใภ้มาสืบต่อก็ได้ไม่ว่ากัน(ความคาดหวังที่บ้านว่าอย่างนี้) ออกแนวเพลย์บอย สุดท้ายอยากตามหารักแท้ก็เลยปลอมตัวเป็นคนจน จนไปเจอคนที่ถูกใจเข้านั้นก็คือพนักงานนวด(นวดผ่อนคลาย)

ถงข่าย 

ทนายที่ปรึกษาของกวนเยวี่ย เพื่อนสนิท บ้านรวย มีธุรกิจที่ฮอลแลนด์ ตระกูลมีเชื้อสายราชวงศ์ กิจกรรมอดิเรกหลังเลิกงานปลอมตัวเป็นพนักงานนวดในร้านคนรู้จัก อ้างว่าเสพติดไม่ได้นวดให้คนอื่นแล้วจะนอนไม่หลับ


เนื้อเรื่อง – เล่ม 1

จุดเริ่มต้นของความรักครั้งเก่าเริ่มมาบรรจบด้วยพ่อสื่อที่เป็นเอไอ เสนอให้ไปพึ่งพาคนรักเก่าก็มีทางเลือกอื่นแหละ แต่ทางนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้ จะมีบทเล่าสลับไปมาระหว่างความหลังครั้งเก่าสมัยวัยเด็กที่เพิ่งรู้จักกัน กวนเยวี่ยคอยดูแลเทียนเหอมานานตั้งแต่ก่อนจะเป็นวัยรุ่นเสียอีก มันเลยเป็นความรักที่เหมือนเป็นความผูกผันด้วย แล้วก็มีสมัยที่คบกับหวานชื่นรวมไปถึงช่วงที่ทะเลาะกันและห่างเหิน กลับมาที่ปัจจุบันมองหน้ากันยังไม่ค่อยอยากจะมองแต่ว่าตัวช่วยก็เหมือนจะคอยแก้สถานการณ์อยู่กลายๆในความหมายของการกระทำที่กวนเยวี่ยทำไป 

คู่รอง เจียงจื่อเจี่ยน ถงข่าย เจอกันต่างคนต่างปลอม ต่างคนต่างหลอก แต่ความรู้สึกคือชอบกันจริง อยากสานต่อพัฒนาความสัมพันธ์กันจริง ทุกอย่างดูเข้ากันได้ดีแต่สิ่งที่ไม่ลงตัวในรักครั้งนี้ก็คือใครจะรุกใครจะรับเพราะต่างคนต่างเป็นรุกทั้งคู่ ลุ้นมากกก ตลกมาก

คู่หลักอาจจะทำให้คนอ่านหลายคนเบื่อ แต่พอมีคู่รองก็ทำให้เล่ม1กลายเป็นเล่มที่ดูสนุกขึ้นมาก แต่คู่หลักความหลังครั้งเก่าก็หวานจนแบบปัจจุบันกลายเป็นเรื่องขัดหูขัดตาจริงๆ

เนื้อเรื่อง – เล่ม 2

กวนเยวี่ยออกจากบ.เดิมแล้วก็ร่วมทุนกับเพื่อนๆช่วยกันเปิดบ.ร่วมกับเทียนเหอ ทั้งบ.ไอทีและอนาคตเป็นบ.เกี่ยวกับการเงินด้านที่ตัวเองถนัด เล่มนี้ก็เป็นเรื่องราวการรวมคนการทำทีมเพื่อขึ้นบ.ใหม่ ทั้งกวนเยวี่ยเทียนเหอก็ไปไหนไปกันไปหาคนเข้าร่วม ยิ่งหลังจากหาคนมาทำงานได้ก็ได้จัดoutingบ.ไปต่างประเทศ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ก้าวหน้าไปมาก มีฉากท้าทายความตายของกวนเยวี่ยที่คงจะไปปลุกความต้องการเบื้องลึกของเทียนเหอขึ้นมา ทั้งบันจี้จัมพ์โดดร่ม กิจกรรมเอ็กซ์ตรีมต่างๆที่นักธุรกิจมาดนิ่งอย่างกวนเยวี่ยชื่นชอบ แต่อะไรก็ไม่เท่าขอคบกึ่งบังคับตอนโดดร่ม ส่วนความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไม่แน่ว่ามาจากการที่โพรมีธีอุสถอยหลังหันจากไปหรือเปล่า(ซึ่งความจริงแล้วนางคงแอบๆอยู่มากกว่า ไม่เปิดเผยตัว)เพราะเชื่อว่าภารกิจหลักเป็นการให้คนสองคนกลับมาเดินร่วมทางกันอีกครั้ง พอได้กลับมารวมกันแล้ว ตัวเองที่เป็นแค่สื่อนำก็ต้องถอยหลัง 

เล่ม1คู่รองแย่งซีน แต่เล่มนี้บอกเลยว่าช่วงหลังคู่หลักมาแรง หวานมากก แรกๆจะยังเป็นช่วงเทียนเหอกล้าๆกลัวในการกลับไปคืนดีเพราะกลัวซ้ำรอยเดิม แต่หลังๆพอตัดสินใจได้คือดี ช่วงย้อนอดีตว่าหวานแล้ว แต่ปัจจุบันคือได้มากก ด้วยความที่พระเอกดูเป็นคนมีมาดอะ ตอนให้แหวนก็ยังดูมีมาดเหมือนเดิม แต่รู้แหละว่ายิ้มกว้างมากก แล้วตอนอยู่สองคนเรียกเทียนเหอว่า เป่าเปา นะคือหวานสุด ส่วนทางเทียนเหอก็เรียกแทนว่า พี่ชาย อหหหห ยอมไปเลย คู่รองหันเรือหนี เริ่มหวานก่อนแต่ก้าวหน้าไม่เท่านะจ้ะบอกเลย

หลังจากให้แหวน คนมีมาดอะเนอะ

ทางคู่รอง เล่มนี้อย่างที่ลุ้นว่าความจะแตกไหมแน่นอนว่าได้รับชม ฮาจริงๆบทงอนกันไปมา แต่ก็ยังไม่เฉลยว่าใครรุกใครรับ ใจเชียร์เจียงจื่อเจี่ยนรุกนะดูบทยังเหมือนเหนือกว่า แถมยังมีตอนที่ดูเหมือนเถียงชนะถงข่ายอยู่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า… แต่ก็ถ้าสลับกันคงไม่ติดต้องรอดูเล่ม 3 แหละว่ายังไง

ในเล่มสองช่วงก่อนจบเล่มมีตัดจบเหมือนจบจริงๆ และมีเหมือนตอนพิเศษมาลงท้าย1ตอน เป็นตอนของกวนเยวี่ยกับโพรมีธีอุส คือฮามาก ตอนโพรมีธีอุสกับเทียนเหอดูเหมือนเป็นเพื่อนเป็นคนแนะนำ แต่พอมาอยู่กับกวนเยวี่ยดูกลายเป็นทาสอะ ถูกต่อรองทุกด้าน ถูกขู่สั่งชัตดาว์นแหล่งพลังงานซะด้วยซ้ำตลก


คาดหวังเล่มสุดท้าย

ต่อไปก็มาลุ้นเล่ม3แหละว่าจะเป็นตอนพิเศษทั้งหมดหรือเปล่าเพราะเหมือนโดนจั่วท้ายว่าจบแล้ว คู่รองจะเอาไงต่อ บทบาทยังไง เทียนเหอจะได้คุยกับโพรมีธีอุสต่อไหม จะได้เจอกันอีกไหม ก็เหมือนมีตงิดนะเพราะเหมือนมีทักกวนเยวี่ยว่าทำไมใส่หูฟัง ใช่หรือเปล่า