รีวิว+สปอย | ผมกับคุณผู้ไม่ชอบแมว

Marii เขียน

#บทกลอนให้พรแด่คุณ

ผมกับคุณผู้ไม่ชอบแมว บทกลอนให้พรแด่คุณ

แนะนำก่อนอ่าน

  • บอกก่อนเลยว่าเป็นแนวขมแต่ไม่คาย ชอบกันแหละแต่ปากไม่ได้มีไว้พูดค่ะมีไว้กินข้าว อีกอย่างคือกว่าจะรู้ตัวก็สาย
  • แต่จบแฮปปี้นะ
  • ระหว่างทางคือดี แบบดียยยยย์ น้ำตามันไหลเพราะความซาบซึ้ง ดีแบบอยากได้เล่มเลย แม้ว่าจะซื้อe-bookไปแล้วก็เถอะ สำนวนคือได้
  • เป็นการเล่าเรื่องแบบสลับไปมาระหว่างสองตัวละคร แต่จะเน้นไปทางบทกลอนมากกว่า
  • แด่คุณ(พระเอก)ชอบก่อน 🫣🤫🫢 สปอยเวอร์

ตัวละคร

บทกลอน – นายเอก

เกิดมาในบ้านที่หลังใหญ่โต มองจากภายนอกก็คงคิดว่าโอเคแล้ว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ บทกลอนเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านที่มีพี่ชายคนโตแต่คนละแม่ และอย่างที่คาดน้องชายกับพี่ชายบ้านนี้ไม่ถูกกัน

คุณ แด่คุณ – พระเอก

perfect guy ที่ใครๆก็ว่าสมบูรณ์แบบ เป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ คนรอบข้างไม่มีใครไม่ชอบ ที่บ้านก็สมบูรณ์แบบครอบครัวดี มีเงินใช้


เนื้อเรื่อง

บทกลอนและแด่คุณต้องแต่งงานกันเพื่อธุกิจ แม้ว่าบทกลอนจะมองว่าธุรกิจของที่บ้านนั้นสามารถไปได้ด้วยตัวเองและมีตลาดของตัวเองที่แน่นอนที่ค่อนข้างมั่นคงอยู่แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายบทกลอนก็ยอมแต่งงานด้วยข้อเสนอที่ว่าสุดท้ายแล้วถ้าระหว่างที่อยู่ด้วยกันเมื่อใครเจอคนที่ชอบสามารถบอกอีกฝ่ายได้เพื่อที่จะขอหย่า

การใช้ชีวิตของสองคนนี้เป็นไปอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวา เป็นเหมือนคนที่รู้ใจกันสองคนอยู่ด้วยกันเพราะว่าพออยู่ๆไปต่างก็รู้สึกว่าเราสองคนเหมือนกันเกินไป บางอย่างไม่ต้องถามก็รู้ว่าควรทำยังไง ไม่ต้องพูดก็รู้สึกว่าอีกคนต้องการอะไร ทำให้บ้านที่เงียบสงบ…เงียบมากจนเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นในทุกทุกวันพิเศษทั้งสองคนก็จะมีเรื่องอย่างหนึ่งที่ต้องทำก็คือ ออกไปกินข้าวไปดินเนอร์ด้วยกัน รวมถึงการให้ของขวัญในวันพิเศษอย่างเช่นวันเกิดก็มีอย่างสมำเสมอไม่ขาดตกบกพร่อง แม้ในบางที่ทุกอย่างดูเหมือนเป็นการป้อนคำสั่งระหว่างหุ่นยนต์สองตัวก็เถอะ

แล้วทำไมเราไม่พูดกันล่ะ?
หมายถึง ก่อนหน้านี้น่ะ

ทุกอย่างเรียบๆ ง่ายๆ จนกระทั่งวันหนึ่งบทกลอนรู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นาน นั่นเป็นจุดเปลี่ยนของการกระทำทุกอย่าง อย่างแรกเพราะว่าไม่อยากจะตายในห้องผ่าตัดเลยเลือกที่จะไม่รักษาและที่สำคัญอีกอย่างคือเลือกที่จะไม่บอกใคร อยากจากไปอย่างเงียบๆคนเดียวเหมือนแมวที่เวลาตายก็อยากจะหนีไปไกลๆเพราะไม่อยากให้เจ้าของรับรู้ อย่างที่สองเพราะเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่าชอบแด่คุณเข้าให้แล้วเลยตั้งใจทำของขวัญชิ้นสุดท้ายให้ ทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่ใช้ของที่แพงอย่างทุกครั้งที่ผ่านมาแต่เป็นของที่ทุกอย่างมีความหมาย

คุณจะอยู่ที่นี่ อยู่ที่เดิม ณ หลังกำแพงที่กำลังคลอน
กำแพงมันคลอนโดยที่คุณไม่ต้องถือค้อนมาทุบด้วยซ้ำ
กำแพงนั้นกั้นคุณกับใจของผมเอง
อืม อย่างที่คุณน่าจะเดาได้แล้ว

ผมชอบคุณแหละ คุณที่ไม่น่าจะชอบผมได้

– บทกลอน –

ก่อนหน้าที่บทกลอนจะจากไป บทกลอนไปเก็บแมวตัวหนึ่งได้ตามข้างทางแล้วเอามาเลี้ยง(แบบไม่ได้บอกแด่คุณ)มันจะดูเหมือนก็ไม่อะไร แต่คนที่อยู่ด้วยกันและรู้จักกันดี บางทีก็อาจจะต้องขอก็ต้องบอกนิดนึงแถมอีกอย่างคือแด่คุณเป็นคนที่แพ้ขนแมวอ่อนๆด้วย แต่สุดท้ายแม้จะเอาเข้าบ้านมาแล้ว และเกือบจะได้คุยกันในครั้งที่ได้กินข้าวด้วยกันบทกลอนก็ไม่ได้พูดขอโทษอะไรจริงจัง แต่แด่คุณที่รู้ว่าบทกลอนคงอยากจะพูดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็เลยบอกอะไปว่า”ไม่เป็นไร” ไม่เป็นไรที่จะเลี้ยงมัน ฉันโอเค

“หากเป็นวันสุดท้ายในชีวิต ผมอยากจากไปเงียบๆน่ะ”
“แล้วฉันล่ะ อยู่ที่ไหน”

และอย่างที่คาดไว้ สุดท้ายบทกลอนก็จากไป…ในที่ที่ห่างไกล แต่ด้วยปาฏิหาริย์ที่คาดไม่ถึงบทกลอนได้มาเข้าร่างเจ้าเหมียว แมวที่บทกลอนเก็บมาเลี้ยงและในร่างของเจ้าเหมียวนี่แหละทำให้บทกลอนรู้หลายๆเรื่องที่ตัวเองไม่เคยได้รู้ของแด่คุณ ไม่เคยได้ถาม ไม่เคยได้สังเกต

คุณจะจากไปอย่างเงียบ ๆ รึเปล่า มันไม่ใช่เรื่องที่คุณจะคิดเองได้
อย่างน้อย การจากไปของคุณมันก็ดังมากสำหรับผม
ดังก้องระดับที่กลบเสียงรอบข้างจนมิด

– แด่คุณ –

เม้าท์

  • เป็นนิยายที่อ่านกี่รอบกี่รอบก็น้ำตาคลอ น้ำตาต้องมาก มันแบบนะหวานก็อยากจะอมแต่ขมไม่ค่อยอยากคาย ความขมที่ว่ามันขมแบบซึ้งอะ
  • อย่างที่บอกว่าจบแฮปปี้ แฮปปี้จริงนะ อารมณ์แบบตอนพิเศษครึ่งเล่ม i love 😍 อย่างที่อ่านข้างบนคือมันเป็นมีความไซไฟแฟนซีนิดๆอย่างการที่บทกลอนมาเข้าร่างเจ้าเหมียว ดังนั้นความแฟนซีมันก็จะเกิดขึ้นอีกแน่นอน 😉😉😉
  • สำนวนคนเขียนก็ดียยย์ เป็นการเขียนที่แบบเออ.มันก็ประโยคเดิมแบบที่เราอ่านมาแล้วนิหว่า แต่ว่ามันattackใจเรามากตอนมาอ่านเจออีกรอบ ประโยคเดิมแต่สถานการณ์เปลี่ยน บริบทเปลี่ยน น้ำตามา😭
  • ตอนพิเศษ(ที่คิดซะว่าคือครึ่งเล่มหลัง) ก็คือดียยย์ นอกจากจะได้อ่านมุมมองของแด่คุณแล้ว ก็ยังมีตอนที่เล่าเรื่องราวสมัยเด็กๆ สมัยที่เจอกันครั้งแรก(สำคัญเลยเรื่องนี้) แอบบอกสองคนเจอกันครั้งแรกจริงๆแล้วไม่ใช่วันที่บ้านทั้งสองนัดดูตัว

รีวิว+สปอย | Turing code โปรแกรมลับรีเทิร์นรัก เล่ม3 จบ

เฟยเทียนเย่เสียง เขียน
ผู่เอ๋อร์ แปล


เนื้อเรื่อง

  • เริ่มเล่มด้วยความเฉื่อยแฉะ อ่านไปง่วงไป เป็นการเล่าตอนปัจจุบันกับflash back ย้อนอดีตสมัยทั้งคู่ยังเรียนอยู่สลับไปมา พอแต่พอเข้ากลางเล่มเริ่มสนุกเริ่มฮา มีตอนที่ย้อนเล่าไปตอนที่อธิบายว่ากวนเยวี่ยชอบน้องตอนไหนด้วย กลายๆว่าสารภาพความในใจตอนที่รู้ตัวแล้วว่าคิดยังไงกับน้องก็คือเริศจ้าาา 10 10 10 ก็คือตอนนั้นเพื่อนชายอย่างเจียงจื่อเจียนก็ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีด้วยกับทำพอร์ตผู้ชายดีๆมาให้น้องเลือกว่าอะProfileเป็นอย่างไง เรียนอะไร หน้าตาเป็นแบบนี้มีรูปแนบแบบว่าเป็นCatalogเลยอะ แล้วทางพี่ก็คือไม่โอเคละถ้าน้องจะมีแฟนประมาณนั้น ก็เลยรู้ตัวแล้วก็เปิดเผยความในใจ โห มันดีจริงๆ ก็คือกวนเยวี่ยทำแบบอ้อมโลกมากกก แต่พอพูดอธิบายเท่านั้นแหละ ดียยยยย์ 
กวนเยวี่ยไปตามหาหนังสือให้น้องเป็นหนังสือของ Alan Mathison Turing(บิดาของวิทยาการคอมพิวเตอร์) ที่ให้ Christopher Morcom ก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วคือมีความสัมพันธ์มากกว่าพี่น้องจริงไหมระหว่างสองคนนี้ แต่ทาง Alan Turing ก็คือเปิดเผยนะว่าตัวเองเป็นเกย์(ถ้าคนเคยดูเรื่อง The imitation game อาจจะคุ้น) แต่ในเรื่องนี้บ่งบอกว่าเกินเลยเพราะกระดาษหน้าหนึ่งมีการเน้นข้อความด้วยหมึก ก็เป็นหนังสือที่มีนัยยะและมีความเปิดเผยแต่คือน้องไม่ได้อ่านไง สุดท้ายก็เลยต้องมาบอก ปล.ขอเซนเซอร์เพราะเด็ดจริง สปอยมากกว่านี้คงไม่ต้องอ่านเล่มละ
  • ช่วงแรกจะมีขำๆเรื่องของคู่รองบ้าง ความฮาก็คือบ้านอยู่ใกล้ๆกันแต่คือไม่เคยเจอกัน 
  • มีเรื่องสมัยเรียนของเทียนเหอ ช่วงวัยของการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องการเข้าสังคม เรื่องความรัก ความสับสน
  • แล้วก็มีเรื่องธุรกิจที่เริ่มดุเดือดฟาดฟัน ปั่นหัว วางแผน 
  • พี่ชายคนโตของเทียนเหอกลับมา พี่ชายคนนี้คือเก่งมากก คือออกจากบ้านหายไป20กว่าปีไม่ติดต่อกลับมาแบบว่าไปทำงานเพื่อชาติเป็นงานลับอะแล้วได้เหรียญมาเยอะก็เอามาเป็นของฝากให้คนในบ้านแต่ก็ต้องสูญเสียไปหลายอย่างพอรู้ว่าหลายๆคนก็ล้มหายตายและจากไปแล้วอย่าง เช่น พ่อของตัวเอง ทางเทียนเหอก็คือดีใจนะที่พี่กลับมาตอนนี้ครอบครัวตัวเองก็คือครบทั้งพี่คนโตพี่คนรองและคนรู้ใจอย่างกวนเยวี่ย แต่คือพี่คนโตไม่ถูกใจกวนเยวี่ยนี้แหละปัญหาคือไม่โอเคกับเพศที่สามก็ว่าหนักหนาแล้ว พอมารู้ว่าคนที่ที่บ้านไว้ใจให้ดูแลน้องชายคนเล็กตอนไปเรียนนอกกลับมาเอาน้องชายไปเป็นคนรักก็คือไม่สบอารมณ์อย่างแรงก็ตีกันนานอยู่ ทางพี่ชายคนโตก็คือมาแล้วก็ได้มาเป็นตัวช่วยในเรื่องงานเพราะความเก่งนิแหละเลยถูกน้องชายอย่างเทียนเหอหลอกล่อเซ็นยอมรับสภาพการทำหน้าที่ในบริษัทที่จัดตั้งกันมา ก็คือขำมากก น้องจะโดดหน้าต่างขู่คนพี่เลยต้องยอมเซ็นแต่ยอมไม่จบง่ายๆนะมีการขู่เอาไปจ่อเครื่องทำลายเอกสารด้วย สุดท้ายน้องโดดจริงคนพี่วิ่งไปหาน้องที่โดดไปจากหน้าต่างก็เจอว่ากวนเยวี่ยรอรับน้องอยู่ด้านล่าง เอกสารที่เซ็นก็คือหลุดมือละเครื่องทำลายไม่ได้กินแถมเอากลับคืนไม่ได้เพราะมีคนรับไม้ต่อมาฉกไปก่อน 5555 ทำงานกันเป็นกระบวนการ เป็นแก๊งค์ต้มตุ๋นที่แกงคนเก่งระดับชาติ
  • อีกอย่างคือความพี่น้องที่เขียนโค้ดเป็นก็คือทำเรื่องปวดหัวให้กับคนในออฟฟิศสุดๆเมื่อแกล้งกันแล้วต้องเอาคืนก็คือกระทบไปหมด อ่านแล้วคือขำนะแต่ถ้ามีอย่างนั้นกับเราจริงๆก็คือต้องกรี๊ดไหม แบบว่าทำอะไรกัน ว่างมากหรอ 5555
ปวดหัวไหมแม่ ที่ถ่ายมาคือส่วนหนึ่งนะ ยังมีต่อจ้ะ ตีกันให้ออฟฟิศแตก ตีกันสองคนแต่คือบานปลายเหมือนคน10คนตีกัน ปล.แอนดี้ที่ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเรื่องที่ต้องฟาดฟันกันกับบ.ของกวนเยวี่ย
  • ตอนพิเศษตอนท้ายก็คือฮา เมื่อกวนเยวี่ยกับถงข่ายเผลอกินยาช่วยลืมลงไป คืนนั้นก็เมาแหละก็ฟัดกับคู่ตัวเองอีกดุเดือด แต่พอเช้ามาคือลืมไง บันเทิง
    • ทางกวนเยวี่ยความจำก็หายสิ่งที่จำได้ก็เป็นช่วงอายุ18 ที่ทั้งกวนเยวี่ยแล้วเทียนเหอยังเรียนอยู่ แล้วสภาพก็เปลือยคืนนั้นฟัดกันสุดไง ตื่นมาพร้อมกับความคิดที่ว่าตัวเองเป็นพี่ชายของเทียนเหอนะไม่ใช่คนรักของเทียนเหอก็คือ ตายไปเลย ทำอะไรลงไป นี่น้องนะ แล้วเรื่องงานอะไรก็กระทบหมดเพราะอายุ18ก็คือไม่มีประสบการณ์แต่งานที่ต้องรับผิดชอบตอนนี้คือCEOไง เงินเป็นพันล้าน แต่ยังดีที่มีโพรมีทิอุสเวอร์ชันอัพเกรดสุดๆมาช่วยให้รอดพ้น
    • ทางถงข่ายตื่นมาก็คืออาละวาดตามระเบียบแบบว่าถูกล่อลวงมา อาละวาดสุดฤทธิ์สุดเดช ถ้ายังจำช่วงที่ตีกันตอนว่าใครจะรุกจะรับก็นั้นแหละ รับตัวเองไม่ได้เพราะตัวเองโดนไง 555 รู้บทบาทกันแล้วเนาะ

เม้าท์

  • อย่างที่บอกตอนเริ่มว่าอ่านแล้วท้อเลยช่วงแรกเพราะหนาจริง แล้วอ่านไม่ต่อเนื่องไง หลายๆอย่างก็งงว่าเออ..อะไรตอนไหนที่มายังไง 
  • เป็นเล่มที่ฮาและหวานนะ คือบาลานซ์กันได้ทั้งคู่หลักคู่รอง คู่หลักก็อาจจะเรื่องเยอะกว่า แต่คู่รองก็มีประเด็นมาให้เล่นด้วยเหมือนกัน
  • อ่านยากสำหรับเราใน เรื่องธุรกิจ เรื่องการเงิน เรียกได้ว่าไม่มีความรู้เลย เคยแค่เทรดเงินเล็กๆน้อยๆ ถ้าคนที่เรียนสายนี้อาจจะสนุกกับการเล่นเกมส์ของคนรวยที่ใช้การปั่นหุ้น การเลเวอเรจสัดส่วนเงินแล้วยิงตีกันถล่มกัน ไม่ใช่การแก้แค้นแบบฟาดฟันฆ่ากันให้ตายแต่เป็นการเอาเงินเข้าสู้กันให้หมดตัวให้ล้มละลายมากกว่า
  • ฉากอย่างว่าก็คือแซ่บ เทียนเหอไม่ใช่คนขี้อายเด้อ คนขี้อายเป็นทางกวนเยวี่ยซะมากกว่า หลายๆฉากก็คือกล้าเกิน ที่ทำงานบ้างอะไรบ้าง 
เห็นประโยคนี้แล้วคือต้องเก็บอะ หมั่นไส้ ตอนแรกๆก็คืออีโก้สูงปรี๊ดดด
มาตอนนี้หรอเต็มปากเต็มคำไม่บ่ายเบี่ยงรู้เลยนะว่าเจาะจงคนไหน

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม3 จบ

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ

เล่ม3 หน้าปกน่าจะเป็นต้นแป๊ะก๊วยหน้าบริษัทของสีชิงไหม ที่ได้ทำการถอนต้นไม้เก่าออกแล้วเอาต้นไม้ที่น้องชอบลง จนกลายเป็นเอกลักษณ์เป็นจุดเด่นของบริษัทเลยที่ใครผ่านก็ต้องมองต้องถ่าย

เม้าท์

  • บอกก่อนเลยว่าเล่มนี้หวานอะ แบบว่าย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วไปอยู่บ้านสีชิง คืออ้างกับคนอื่นว่าเชฟที่บ้านสีชิงทำอาหารอร่อยเลยย้ายไปอยู่ด้วย อยากจะแหมมมมม่ ยาวๆ ทุกคนรู้ ประตูบ้านรู้ โคมไฟรู้
  • ความโหด เฉือนนิ่มๆของเสี่ยวเฉียวยังคงเส้นคงวา อ่านแล้วสะใจ ยิ่งมีตอนที่น้องลับฝีปากกับทนายอีก คำด่าแบบแบบฟังแล้วต้องคิดตามอะ สุดจริงด่าแบบคำปกติทั่วไปมันไม่เหมาะกับนักเรียนดีเด่นแบบน้อง
  • ฉากNC ไม่มีบรรยาย ไม่ได้เล่าแบบถึงพริกถึงขิงแบบที่คาดไว้เลย เป็นแบบตัดเข้าโคมแบบว่ารู้กัน ก็คือเหมาะกับเนื้อเรื่องแหละถ้าให้พ่อเทพบุตรเสี่ยวเฉียวมีฉากแบบนั้นก็คิดว่ามันจะกระโตกกระตากเกินไปหน่อยอะ
ครั้งแรกใช่ไหม ครั้งแรก เขินแทนสีชิง
ทำไมน้องพูดอย่างนี้ มันต้องสลับกันไหมอะพ่อเทพบุตร
  • พ่อแม่ของเสี่ยวเฉียวรับรู้ ไม่มีดราม่า เรื่องการคบผู้ชายของน้อง
  • อ่านแล้วยิ้ม ฟิลกู้ด เรื่อยๆ ไม่หวือหวา ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ 
  • เป็นเล่มจบที่เหมือนไม่จบ เพราะอ่านแล้วยิ้มมาตั้งแต่เริ่มเล่มคือเขาอยู่ด้วยกัน พอมาท้ายๆเรื่องทุกอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทางความสัมพันธ์ไม่มีอะไรเปลี่ยนไม่มีอะไรกระทบกระทั่ง พระเอกคือตอนเขินก็น่ารักแต่ตอนดูแลก็คือ ออกหน้าออกตา.ออกปากปกป้องน้องดีมากๆให้ทำอะไรก็ทำ ชวนไปเล่นหนังยังไป 555

เนื้อเรื่อง

  • เริ่มเล่มมาเสี่ยวเฉียวไปงานรับรางวัล แล้วก็แน่นอนจ้ะ ได้รางวัลมา แล้วคือรางวัลใหญ่อะ อ่านไปลุ้นไป พอประกาศก็คือยิ้ม สร้างชื่อเสียงอีกแล้วยัยน้อง เก่งที่สุด สมกับคำว่าเทพบุตรแห่งชาติจริงๆไปที่ไหนก็ได้ดีได้คนชมได้ผลงาน ตอนเล่ม2ได้รางวัลไป1 มาเล่มนี้ได้อีก1 สุดยอด
  • ระหว่างการรับรางวัลก็มีการปะทะกันระหว่างแฟนคลับน้องกับแฟนคลับของดาราใหญ่ สุดท้ายแฟนคลับของเสี่ยวเฉียวชนะไปเพราะน้องได้รางวัลรับใหญ่เมื่อเทียบกันแล้วก็คือน้องได้รางวัลเร็วกว่า แล้วพอดาราคนนั้นมาเม้นต์แสดงความยินดีบังเอิญข้อความนั้นไม่เข้าหูเข้าตาประธานสีเข้าให้ ท่านประธานก็เลยจัดไปหนึ่งดอก สั่งตัดขาห้ามบริษัทในเครือให้งานดาราคนนี้อีกก็กลายเป็นว่าต้องห่างหายจากวงการ ไประยะหนึ่ง
  • น้องก็มีการรับเล่นหนังบ้าง และก็ลงทุนเองด้วยบ้างเพราะเงินมันเหลือ
เสี่ยวเฉียวไม่ได้เป็นแค่นักแสดงนะ เป็นนักลงทุนไปแล้วว
เงินเหลือๆเห็นลู่ทางเลยหว่านพืชรอผลสักหน่อย
  • มีช่วงเสี่ยวเฉียวบอกนะว่าตัวเองเคยเป็นใครอะไรยังไง(เรื่องในชาติก่อน)แต่สีชิงก็คือไม่ได้เชื่อไง แบบว่าเออ.ก็รับฟังไว้ แต่หลังจากนั้นก็มีบางอย่างตงิดใจแล้วก็เลยเริ่มหาข้อมูลเริ่มอ่านหลายๆอย่างที่มีความเกี่ยวพันกับยุคนั้นที่เสี่ยวเฉียวบอกว่าเคยอยู่ จนกระทั่งได้ทำหนังเกี่ยวกับสมัยราชวงศ์ที่น้องเคยอยู่ เป็นเรื่องที่ไม่มีนางเอกมีแต่ตัวเอกซึ่งมองคล้ายๆก็เหมือนเป็นหนังที่ถ่ายทอดชีวิตในชาติก่อนของเสี่ยวเฉียว 🥳🤩🥳🤩🥳🤩

รีวิว+สปอย | ความลับของตั้งโอ๋

MOOMOOTEN98 เขียน


แนะนำก่อนอ่าน

  • อ่านง่าย เรื่อยๆ ไม่ดราม่าเลย
  • วัยทำงาน ดารากับพนักงงานบริษัท
  • มีNC สดใสซาบซ่าน ตอนพิเศษคือไม่ไหว เลือดล้มมันเดิน กำไม้เรียวแน่นมาก

ตัวละคร

ตั้งโอ๋ – นายเอก

  • ข้างนอกใสๆ นุ่มฟู น่าบีบ แต่ข้างในแซ่บๆ
  • น้องเป็นพนักงานลูกจ้างในบริษัทที่ทำตัวจืดจาง แต่ยังไงค่ะ ความจริงลูกแม่เปิดแอคล็อคถ่ายรูปวาบหวิวลงเป็นงานอดิเรก

ดินแดน – พระเอก

  • ดาราลูกครึ่งชื่อดัง
  • ห้องพักอยู่ติดกับตั้งโอ๋ เหมือนจะธรรมดานะแต่ความไม่ธรรมดาคือพี่แกเป็นfollowerในแอคล็อคตั้งโอ๋ด้วย เป็นfollowerสายเปย์ท่านหนึ่ง

เนื้อเรื่อง

ตั้งโอ๋พนักงานบ.ที่แสนจะจืดจางดูธรรมดาสุดๆ แต่มันไม่ปกติเมื่อรู้ว่ามีคนข้างห้องเป็นดาราอย่าง”ดินแดน”แถมยังเป็นfollwerในแอคล็อคที่เขาคอยถ่ายรูปวาบหวิวลงอีก เป็นดาราแค่ให้ตื่นเต้นไม่พอใช่ไหมถึงต้องแถมoptionเพิ่มด้วยแล้วคือ…เป็นoptionที่ไม่อยากให้ใครรู้ ต้องบอกก่อนว่าแอคลับแอคล็อคที่เปิดก็เปิดแบบไม่ได้ว่าจะมีคนใกล้ตัวรู้เลยใช้ “ชื่อเล่นจริงๆ” ของตัวเองเป็นชื่อแอคไปอีกกก ยัยน้องงงง -_-!!!

ซวยซ้ำกรรมซัดหรือโชคพาชะตาลิขิต นอกจากห้องอยู่ข้างกันแล้ว สุดท้ายต้องมาทำงานรวมกันเพราะบ.ของตั้งโอ๋มีโปรเจค ก็ดูไม่มีอะไรมากแต่ก็นะ คนดูแลดารายังว่างจะมีใครบ้างจับจอง ใช่จ้าาาา. ตั้งโอ๋คนดีคนเดิมที่พี่ๆในบ.ใช้อะไรก็ทำกลายมาเป็น GB general เบ๊ ของดาราประจำโปรเจคอย่างดินแดน แล้วคนเราอะกลัวความแตกก็เลยเปลี่ยนชื่อเรียกเอากลางคันจาก”ตั้งโอ๋”กลายเป็น”ติ” ก็เนียนแหละ เนียนมาก ให้กำลังใจน้องเขาหน่อย

พอได้ไปทำงานร่วมกันมันก็จะดูงงๆหน่อย พอน้องเมาเรือ อีพี่ก็พร้อมเข้าชาร์ทเต็มที่ ไม่รู้ใครดูแลใครละงานนี้ แถมพอเมาเรือเมาอากาศมีอาการเหมือนจะป่วย พี่ๆเขาก็ให้พัก ความว่างใดๆเลยไถ่โซเซียลแล้วบ่นลงแอคลับว่าอยากกินปลาหมึก เท่านั้นแหละจ้าาา ปลาหมึกมาเสริฟ์ถึงห้องแบบไม่ต้องกดสั่ง คนเสริฟ์ก็นั่นแหละจ้าาา ไม่ต้องสืบ โป๊ะไม่โป๊ะ แตกตอนไหนใครทราบบบ 5555


รีวิว+สปอย | SKALET ความรักของคุณสกาเล็ต

nicedog เขียน


แนะนำก่อนอ่าน

  • อ่านง่ายเป็นเรื่องสั้น ไม่ดราม่า
  • มีความแฟนซี

เนื้อเรื่อง

เนื่องจากโฬมสอบติดและเป็นวันเกิดที่บ้านเลยให้เสนอของที่อยากได้ แล้วสิ่งที่อยากได้อยากมีคือนก อยากเลี้ยงนก พอที่บ้านอนุมัติก็จัดเลยหาร้านหาแหล่ง พอไปดูเขาก็แนะนำตัวเกิดใหม่ที่พร้อมออกร้านแต่โฬมดั้นไม่ถูกตาต้องใจ ไปถูกใจตัวที่เขาไม่ได้เสนอ น้องเป็นนกที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานเหมือนกันร่างกายสมบูรณ์ แต่แปลกตรงที่ไม่ค่อยส่งเสียงร้อง เจ้าของร้านเลยไม่ได้เสนอขาย

พอเอามาบ้านก็มีห้องมีของครบ ปัญหาของสกาเล็ตอย่างเดียวก็คือติดเจ้าของอย่างโฬมเกินไป จะไปเรียนทีก็ร้องหา จะนอนก็ร้องไม่อยากห่างกัน(ห้องนอนโฬมก็คือข้างๆนั่นแหละ) ติดหนักจนโฬมเจาะผนังเพื่อจะทำที่กั้นแบบให้มองเห็น อีกอย่างเลยคือนกตัวอื่นเวลาออกนอกบ้านเจ้าของกลัวบินหนี แต่สกาเล็ตไม่ยอมบินจะเกาะเจ้าของอย่างเดียวจนโฬมต้องหาวิธีล่อให้บิน

และนั่นแหละสกาเล็ตก็มีความผูกผันกับโฬมมาก ก็เลยอธิษฐานขอให้ตัวเองเป็นคนเพื่อที่จะได้ทำอะไรหลายอย่างที่สามารถอยู่ใกล้ชิดโฬมได้ตลอดเวลา สุดท้าย ปิ๊ง! แฮปปี้


รีวิว+สปอย | เมื่อผมเป็นเจ้าของสวนสัตว์ เล่ม 1

ลาเหมียนฮวาถังเตอะทู่จื่อ เขียน
Himazan แปล

มี 6เล่มจบ


แนะนำก่อนอ่าน

  • อ่านง่าย สบาย
  • แฟนตาซี โลกมนุษย์ สวรรค์ ปีศาจ ตลกฮา
  • เป็นเรื่องของสัตว์เทพ(มีร่างคน)ที่โดนลงโทษให้มาทำงานในสวนสัตว์เป็นพนักงานตำแหน่ง”สัตว์” เช้าเป็นสัตว์ เย็นเป็นคน
  • แล้วแต่ละคนก็คือไม่ธรรมดา แบบโหดสุด หลงตัวเองสุด เวทมนตร์อลังการสุด ใฝ่รู้ใฝ่เรียนสุดก็มี
  • อ่านแล้วฟิลกึ่งเกมส์อะ แบบสร้างสวนสัตว์จากร้างๆให้กลายเป็นที่นิยม ตัวเอกก็ได้รับภารกิจเรื่อยๆต้องทำเควส ถ้าไม่ทำหรือทำไม่สำเร็จก็จะโดนฟ้าผ่า ก็คือไม่มีทางเลือกต้องสำเร็จเท่านั้นใครจะอยากเสี่ยงตาย เป็นมนุษย์ธรรมดามีชีวิตเดียว

ตัวละคร

ต้วนเจียเจ๋อ – ตัวเอก

  • นักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่หางานไม่ได้ไปต่อไม่ถูก ญาติคนไหนไม่รู้ตายเลยได้มรดกเป็นสวนสัตว์ร้าง ตอนแรกก็คิดว่ารับไว้แล้วกะขายเอาเงินแต่แจ็คพอตเจอคำขู่เซ็นรับไปแล้วไม่ทำไม่ได้เดี๋ยวเจอฟ้าผ่าลงหัวตายแบบไม่เกิดใหม่
  • สัญญาที่ว่าเป็นสัญญาที่ชื่อว่า “โครงการแห่งความหวังหลิงเซียว”
  • ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสวนสัตว์
ยังไม่ใช่เวอร์ชั่นผมลอนอะ 555

ลู่ยา

  • อีกาทองสามขาตัวสุดท้ายระหว่างสวรรค์กับโลก
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนคือหล่อสุด หล่อจริง แต่หน้าไม่รับแขกสุดๆเช่นกัน
  • โหดสุด หลงตัวเองสุดๆ ให้ทำอะไรไม่ชอบทำอย่ามาใช้งานกันนะ แต่ถ้าชมหน่อยยอพี่เขาหน่อยก็คือทำได้ เดี๋ยวทำให้แหละ 5555
  • ในสวนสัตว์เป็นนกไม่ระบุสายพันธ์
  • เป็นลูกพี่ใหญ่ของสวนสัตว์เลยแหละ สัตว์ตัวไหนก็กลัว เป็นขาใหญ่
  • อาหารต้องให้ต้วนเจียเจ๋อทำให้เท่านั้น ต้องทำ คนอื่นห้าม ห้าม ห้าม

โหย่วซู

  • จิ้งจอกเก้าหางในตำนาน
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนเป็นเด็กน้อย สาวน้อย หลอกตามากใครเห็นก็คือเอ็นดู แต่อีแม่อยากฟาดกระต่ายสดมาก หิวของดิบ
  • ในสวนสัตว์เป็นจิ้งจอกอาร์กติกสีขาว เริศเชิด
  • ความสามารถนางเรียกได้ว่าใครๆก็ต่างบูชาแค่เห็นร่างแล้วขอก็ได้สิ่งนั้นเลย กลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ประจำสวนสัตว์ พิมพ์99แล้วสาธุได้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ไป๋ซูเจิน และ เสี่ยวจิง

  • นางพญางูขาวและผู้ใกล้ชิด
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ร่างคนเป็นผู้หญิงและผู้ชาย ตามปกติผู้ใกล้ชิดจะเป็นหญิงแต่มีเหตุ
  • ในสวนสัตว์เป็นงูขาว และงูเขียว 

หูต้าเหวย

  • จิ้งจอกปีศาจ 
  • ถูกจับผลัดจับมาเป็นแรงงานทาสในสวนสัตว์ ถูกกดจากรุ่นพี่(เดาไม่ยากว่าใครที่วิชาแกร่งกล้า) ทำงาน24/7 รับใช้และประจบผู้อำนวยการ
  • ในสวนสัตว์เป็นจิ้งจอกแดง

สงซือเชียน

  • หมี
  • เป็นพนักที่ระบบส่งมารับหน้าที่ในตำแหน่งสัตว์
  • ในสวนสัตว์เป็นหมีดำ
  • คือเป็นตัวละครที่น่ารักมากก แบบว่าเป็นคนตัวใหญ่เปิดมาฉากมาฉากแรกแบบโหดเลยนะ แต่พอเอาเข้าจริงเป็นคนซื่อๆรักการเรียนรู้ บอกว่าตอนทำงานตอนเช้าที่เป็นร่างสัตว์อยากได้หนังสือ เอาไว้อ่านในกรงเพราะเป็นคนรักการเรียนรู้ ต้วนเจียเจ๋อก็คือไปไม่เป็นเลยอะเพราะเป็นสัตว์เด้ออ อยากให้คนอื่นรู้หรือไงว่าไม่ได้เป็นสัตว์ปกติอะ ก็เลยได้แค่เอาทีวีไปติดให้ แล้วก็ยังไม่พอรีเควสช่องข่าวด้วย 555 อยากติดตามสถานการณ์บ้านเมือง ตลก

เนื้อเรื่อง+เม้าท์

เปิดมาก็เป็นการรับมรดกตกทอดจากญาติและความหดหู่หลังจากที่ได้รู้ว่าสวนสัตว์ไม่สามารถขายต่อได้ต้องถือไปเป็นระยะเวลา70ปี และถือเฉยๆไม่ได้ด้วยนะต้องปรับปรุงสวนสัตว์ต้องทำเควสตามที่ระบบประกาศ ก็คือมีแอปติดตั้งในโทรศัพท์เลยแล้วเช็คเอาว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำเสร็จสำเร็จก็มีรางวัลให้ แต่ถ้าไม่สำเร็จก็คือโดนฟ้าผ่า(ตายไหมไม่รู้เพราะเล่มนี้ยังไม่โดน) 

สภาพสวนสัตว์ร้างเดิมก็ยังพอมีสัตว์อยู่บ้างแต่ก็แห้งแล้งมากเพราะโดนคนที่จ้างมาให้อาหารโกงเอาอาหารไปเยอะ พอต้วนเจียเจ๋อมาดูก็แก้ก็ปรับปรุงหลายอย่าง และสัตว์ตัวแรกที่มาช่วย(?)ก็คือลู่ยา ช่วยให้ดีขึ้นหรือช่วยให้ลำบาก555 เอาใจยากมากพ่อ เรื่องทำเควสก็เป็นพวกหาเงินเข้าให้ได้ ให้คนเข้ามาเที่ยวตามจำนวน หาสัตว์เข้ามาตามจำนวนต้องเป็นสัตว์ประเภทนี้ รางวัลที่ได้ก็พวกปรับปรุงสวนสัตว์ ทัศนวิสัย อาคาร คือทำทุกอย่างแต่ไม่ได้ทำอาคารอำนวยการ แล้วอาคารเนี่ยก็เป็นสิ่งที่ต้วนเจียเจ๋ออยากแก้มากอยากทำใหม่แต่ไม่มีตังค์ เศร้า

ความฝันอย่างหนึ่งของต้วนเจียเจ๋อคือมีอควาเรียม คือนางเป็นคนที่เลี้ยงปลาขึ้นมือมาก แบบว่าเลี้ยงดีจนงง เลี้ยงรวมกันก็ยังรอดจนเป็นที่สงสัย ด้วยความอยากมีแต่ทำอะไรไม่ได้ต้องเก็บเงินทำสวนสัตว์นี้ก็เลยมีแหละอควาเรียมหน่ะ…แต่เป็นขนาดตู้ปลา55555 และเพราะเรื่องปลานิแหละก็ทำให้ต้วนเจียเจ๋อได้คอนเนคชั่นอลังกาล รู้จักคนใหญ่คนโต

ด้วยความที่สวนสัตว์มีสัตว์เทพและปีศาจก็เลยมีเรื่องมีราวกับสำนักพรตที่ชื่อว่าสำนักหลินสุ่ย เป็นสำนักพรตที่มีชื่อเสียงมากในเมืองก็คือก่อตั้งมาเป็นพันปีละ คนก็นับหน้าถือตาเป็นทั้งที่ท่องเที่ยวและที่พึ่งพาทางใจ เรื่องเกิดเพราะนักพรตจับได้ว่ามีไอปีศาจที่สวนสัตว์แล้วคือต้วนเจียเจ๋อก็รู้อยู่แก่ใจแหละว่ามีจริงๆ5555 แต่คือจะไปบอกว่ามีไม่ได้ ก็ต้องบ่ายเบี่ยงจนสุดท้ายได้ลู่ยาเข้ามาช่วย ลู่ยาก็แบบเหมือนใช้กลแล้วไปหลอกว่าเป็นพุทธที่แกร่งกล้ามากจนนักพรตคนนั้นต้องนั่งสมาธิเข้าญาณไม่ออกหลายวันจนทำให้ทางสำนักเดือดร้อนเพราะกลัวว่านักพรตคนนี้จะเปลี่ยนศาสนาคือเป็นศิษย์เอกไง ไปมาเลยกลายเป็นที่รู้กันว่าที่สวนสัตว์มีคนที่วิชาแกร่งกล้ามาก ห้ามไปมีเรื่องด้วย ถ้าช่วยอะไรก็ช่วยถ้ายิ่งถูกออกปากจากต้วนเจียเจ๋อคือห้ามปฏิเสธ สวนสัตว์ก็เลยได้อานิสงค์หลายอย่าง

อีกอย่างที่เป็นเรื่องน่ารักเลยก็จะเป็นเรื่องของสัตว์ ในสวนสัตว์ตอนแรกก็จะแห้งแล้งมากแต่พอทำเควสได้รางวัลเป็นอาหารก็คือจะอุดมสมบูรณ์มากกว่าทั่วไปเพราะเป็นเนื้อเป็นอาหารที่มีพลังวิญญาณ คือถูกส่งมาจากสวรรค์อะแหละ ทำให้สัตว์ทุกตัวขนสวย จิตใจเบิกบาน บวกกับความที่มีลูกพี่คุมอยู่(ลู่ย่า)คุยภาษาเดียวกันก็เลยแลดูเป็นสัตว์ที่เชื่องมากเรียกได้ว่ารู้ความมากกว่าปกติ ทำให้เวลามีคนถ่ายคลิปหรือมีไลฟ์ไปโผล่บนSNSก็จะกลายเป็นที่ฮือฮากันมาก 

  • อย่างฉากที่สงซือเชียนหรือหมีดำที่ว่าชอบการเรียนรู้อะ มีช่วงที่เปิดข่าวแล้วคือนางยืนดูข่าวไงคนที่เห็นก็จะแบบ อะไรอะ ไม่เคยเห็นหมีดูข่าว ดูรู้เรื่องหรอ แล้วมีความหาของกินมากินไปดูไป 
  • มีคนมาไลฟ์สด แบบว่าชื่อดังคนตามเยอะ
  • ถ่ายโฆษณา

ทางสวนสัตว์ก็มีSNSเป็นของตัวเองด้วยก็เหมือนจะดูง่ายนะ แต่เควสบอกเลยว่ายากขึ้นเรื่อยๆต้องแบบใช้ทั้งเงิน(ที่ไม่ค่อยจะมี) ใช้เวลา และคอนเนคชั่นในการสร้างชื่อเสียงอีกเยอะแยะมากมาย

ส่วนที่อ่านแล้วลุ้นคือความจะแตกไหมที่สวนสัตว์มีทั้งมนุษย์และพนักงานตำแหน่งสัตว์อยู่ร่วมกัน คือต้วนเจียเจ๋อเป็นคนเดียวที่รู้ว่ามีคนที่ไม่ใช่คนอยู่ โป๊ะไหมต้องรอดูเพราะคนเริ่มเยอะแล้วตอนนี้

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความน่ารักของผู้อำนวยการต้วนเจียเจ๋อในทรงผมใหม่ดัดลอน ทรงผมนี้มีที่มา จะเป็นช่วงท้ายเล่มแบบว่าน่ารักเอ็นดูนาง ไม่ชอบนะ แต่ว่าแก้ไม่ได้ละ55555 


ที่มาของรูปตัวละคร
《我开动物园那些年》 第1话:我是陆压【加入会员专享全集】


รีวิว+สปอย | ค่อยๆรัก 3เล่มจบ

summer december เขียน


แนะนำก่อนอ่าน

  • อ่านได้เรื่อยๆ slice of life มีฟีลกู้ด มีหน่วง มีแซ่บ หลายรสชาติ
  • เป็นนิยายวัยทำงาน แบบว่างานสายDigital Marketing Production ตั่งต่าง ความกทม. งานออฟฟิศ
  • เจ้านาย ลูกน้อง
  • Age gap พระเอกนายเอกมีความต่างด้านอายุ แบบ10+

เนื้อเรื่อง

พัท(นายเอก)เด็กจบใหม่จากอเมริกาตัดสินใจกลับมาหางานทำที่ไทย แล้วก็ได้เข้ามาทำงานที่บ.เจียนกรุ๊ปซึ่งก็เป็นกิจการทางบ้านของเจ๋ง(พระเอก) แรกเจอหน้าเป็นอุบัติเหตุแบบฮาๆอย่างการเผลอทำน้ำเฉาก๋วยหกใส่รองเท้าสุดหรูอย่างบอตเตก้าเวเนต้าของเจ๋ง ซึ่งถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักแบบผ่านไปผ่านมาก็คงจะขอโทษแล้วก็ผ่านไปแบบไม่ได้นึกถึงอะไรมาก แต่ยังไงค่ะ! 555 คุณเจ๋งเจ้าของรองเท้าบอตเตก้าเวเนต้ากลายมาเป็นหัวหน้าคนใหม่ของแผนกที่พัทได้เข้ามาทำงาน กลายเป็นว่าพอได้เห็นหน้า กลิ่นน้ำเฉาก๋วยกับยี่ห้อรองเท้าก็ลอยตามมาอย่างช่วยไม่ได้

ฉากแรกเจอหน้าก็ไม่ค่อยน่าประทับใจ ฉากต่อมาอย่างการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้านายมือใหม่กับลูกน้องที่เพิ่งเคยมาร่วมงานกับคนไทยด้วยกัน100%ก็บอกได้คำเดียวว่าshock ไม่มีเรื่องให้น่าประทับใจเลย เจ๋งที่ต้องมาเป็นเจ้าคนนายคนก็คือทำตัวไม่ถูก ปกติทำงานเองเดินงานเอง พอต้องมาcontrolมาmanageและช่วยsupportบางทีก็ทำเกินหน้าที่ไปจนดูเหมือนไม่วางใจให้ลูกน้องทำงาน แล้วยังไง! พัทไม่ยอมให้เป็นอย่างนี้ต่อไปแน่นอน เครียดมากจนแบบอยากย้ายงานคือมันไม่ได้มีแค่เรื่องหัวหน้างาน แต่เรื่องเพื่อนร่วมงานก็ไม่น้อยหน้า อย่างการที่เด็กใหม่ต้องมาช่วยงานแบบแปลเอกสาร ถ่ายเอกสาร คือมันเป็นงานที่ไม่ใช่หน้าที่ที่สมัครเข้ามาไง พอมีให้ประเมินก็ฟาดเลย นี่ไม่โอเคเลย ไม่โอเคมากๆ ต้องเปลี่ยนตัวเองนะคุณเจ๋ง ต้องเชื่อใจและแนะนำให้ลูกน้องหาทางลองผิดลองถูกเอง ไม่ใช่จะมาปูพรมเดินหรือแหวกทางถางป่าให้ ถ้าทำตัวดีขึ้น พัทจะเลี้ยงชาไข่มุก🧋🧋🧋 55555 พิมพ์แบบโกรธมากกแต่ลงท้ายก็คือ ยังไง  😋

หลังจากนั้นสถานการณ์หลายๆอย่างก็เริ่มโอเคขึ้นเรื่อยๆ เจ๋งก็เริ่มปรับตัวปรับปรุงหลายๆอย่าง และแน่นอนสิ่งที่พัทเคยบอกไว้อย่างการเลี้ยงชานมก็ต้องจัด และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคุณเจ๋งเป็นเพื่อนของเหล่าเฮียๆที่พัทรู้จักอีก ก็เป็นคนใกล้ตัวที่พัทไม่คุ้นหน้าคุ้นชื่อ พอได้มางานเลี้ยงเปิดตัวร้านอาหารที่หุ้นกันระหว่างเฮียๆกับคุณเจ๋งก็คือ 5555 ทำตัวไม่ถูก เจ้านายกับเฮียเป็นเพื่อนกัน(ซึ่งก็เป็นเจ้านายที่เคยไม่ชอบหน้า+เคยเม้าท์กับเหล่าพี่ๆว่าไม่โอเคมากๆ)

ความใกล้ชิดก็เริ่มเพิ่มขึ้น เมื่อเจ๋งรู้ตัวแล้วว่าตัวเองชอบน้องมากกกก มีความเอาตัวเข้าใกล้ ทำอะไรหลายๆอย่างให้ ส่วนทางพัทนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไรทั้งที่บางอย่างความเจ้านายลูกน้องคือไม่ใช่เลยยย ไม่มีเจ้านายที่แบบใจดีและเข้าถึงขนาดนั้นหรอก เจ้านายที่ไหนบอกจะมารับไปอีเกียด้วยกัน “คุณเจ๋ง ณ บางไหน” ก็มา5555 ตัวเองจะพูดไปบางนา แต่น้องแทรกขึ้นมาว่าจะไปบางใหญ่ก็ต้องหาทางเลี้ยวสิ รถคันหลังบีบแตรด่าพ่อแล้วนะเอาจริง บางไหน!! 5555 

ยังไม่พอ ยังมีตอนที่ต้องออกสนามดูโลเคชั่น ทำงานนอกสถานที่อีก ก็คือซับเต็มที่ อีกตอนก็ตอนหลอกน้องว่าจะเลี้ยงดื่มเลี้ยงข้าวแบบหาไอเดียปรับปรุงร้านอาหารที่หุ้นกับเพื่อน แต่ความจริงมันก็คือเดตดีๆนี่เอง ส่วนทางพัทก็คือ ของฟรีมีหรือพัทจะพลาด5555 บางทีก็สงสารคุณเจ๋ง

เห็นเหมือนสนุกเฮฮาแต่ก็มีตอนหน่วงๆเหมือนกันเมื่อเจ๋งสารภาพว่าชอบพัท แล้วพัทคือตอบกลับว่าไม่จริงหรอก ก็คือช้ำใน ช้ำอกมากกก บอกปฏิเสธยังไม่เจ็บขนาดนี้แต่กลับบอกไปว่าไม่จริงหรอก พัทคือมองว่าคุณเจ๋งคือperfect guyสุดๆ ไม่มีทางมาชอบพัทหรอก ก็เลยห่างเลย ส่วนทางพัทหลังจากนั้นก็ได้ลองคบหาดูใจกับคนคนหนึ่ง ก็เหมือนจะไปด้วยดีนะ แต่สุดท้ายเหมือนไม่ลงล็อคก็เลยเลยต้องบอกปัดไป ช่วงนี้ใครทีมคุณเจ๋ง ณ บางไหนก็คือเจ็บปวดรวดร้าวมากกก สงสาร

มาเรื่องฮาของตัวละครประกอบอย่าง”เจ๊โชติ“บ้างดีกว่า เจ๊โชติเป็นตัวละครหนึ่งที่เราชอบที่สุด มาตอนที่พัทเครียดเรื่องงานในช่วงแรกๆเพราะว่าพัทไม่getกับการวิธีการทำงาน บวกกับคนในที่ทำงานlifestyleไม่เข้ากันอีกก็ยิ่งหนัก พอมีเจ๊โชติที่ตอนแรกเป็น”พี่โชติ”ก็เหมือนจะมีคนคุยด้วย แต่พอสุดท้ายกลายเป็น”เจ๊” พัทก็ได้เพื่อนกินข้าว เพื่อนปรึกษางาน และเพื่อนทางใจ ครบทุกอย่าง อีกคนที่ชอบมาตั้งแต่เรื่องของนางแล้วก็คือ”จ๊าบ” น้องชายแท้ๆของเจ๋ง ณ บางไหน ตอนอ่านเรื่องของจ๊าบก็เป็นคนuniqueแบบตลกๆนะ แล้วพอได้มาอ่านเรื่องนี้ก็คือฮา เหมือนจะมาเป็นตัวขัดแต่ก็กลายเป็นตัวฮาซะงั้น เพราะแรกๆนางดูไม่โอเคกับที่พี่ชายมาชอบพัทซึ่งเป็นลูกน้องในปกครอง และสุดท้ายเจ๋งก็กลายเป็นคนหนึ่งที่พัทสนิทด้วยมากๆ แต่ยังไงสุดท้ายนางเจ๋งก็ต้องห่างๆเพราะต้องเคลียร์เรื่องตัวเอง(นางมีเรื่องของตัวเองแยกเด้อ)+ต้องยอมเพราะพี่ชายกับพัทเขาชอบกันจริง แต่คนฮาทำอะไรมันก็ฮาอะ ภาพในหัวคือเป็นคนคูลแบบตลก


เม้าท์

  • ปกติก็ชอบนิยายวัยทำงานอยู่แล้ว แล้วเรื่องนี้ก็คือเยอะไปอีก ไฮไปอีก แบบว่าเป็นโลกที่ฉันคิดว่าไม่น่าจะได้เข้าถึงอะด้วยรูปแบบของงาน แต่ชอบนะ แบบได้เรียนรู้ว่าเออ เขาทำงานกันอย่างนี้หรอ เพราะไม่มีเพื่อนเรียนสายนี้เลย
  • ความage gapใดๆก็คือได้มากกก ขำแบบเทียบอายุแล้วน้องยังเด็กอยู่ ตลก ส่วนคนพี่ที่ดูเนิร์ดนิดๆเหมือนไม่ได้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญอะไรมาก แต่พอขึ้นเตียงเป็นอีกแบบเลยนะ 5555 แต่คือเข้ากันได้ดีมากก เกิ๊นนน
  • ความหน่วงก็คือได้ที่ ไม่ได้หนักหนาสาหัส หน่วงพอได้รสชาติ
  • ส่วนตัวละครที่ชอบก็คงไม่พ้นจ๊าบ ชอบนางมาตั้งแต่เรื่องของนางเองละ ได้อ่านตอนที่นักเขียนลงเรื่องนี้ใหม่ๆก็เลยไปตาม อีกคนที่ชอบก็ไม่พ้นเจ๊โชติ 555 ความเม้าท์ความคันปากแล้วไประบายกับแม่ก็คือฮา
  • ส่วนตอนพิเศษก็คือดียยยยย์ อีพ่อก็คือดาเมจรุนแรงมากกกก ละนางจ๊าบก็555 ไม่สงสารหรอกนะ ตลก

นิยายเรื่องอื่นๆสำหรับคนที่ชอบนิยายวัยทำงาน

เราก็อยากจะขายนิยายเรื่องอื่นด้วยให้ไปอ่านกันเป็นแนวทำงาน หรือใครจะมาแนะนำเพิ่มเติมก็ยินดีมากๆค่ะ มีหลายเรื่องที่ได้อ่านแต่อาจจะลืมชื่อลืมแนะนำไป


รีวิว+สปอย | S.C.I. #ทีมพิฆาตทรชน เล่ม 1

เอ๋อร์หย่า (ErYa) เขียน
ชุนลี แปล

13 เล่มจบ

แนะนำก่อนอ่าน

  • เนื้อหามีส่วนที่ค่อนข้างรุนแรงไม่เหมาะสำหรับคนจิตใจอ่อนไหว
  • เป็นแนวสืบสวนสอบสวน
  • เป็นทีมพิเศษที่ชื่อว่า S.C.I. เป็นการรวมเอาคนเก่ง คนหัวกะทิในแต่ละด้านมารวมกันทั้งสืบสวนสอบสวน ต่อสู้ จิตวิทยา แพทย์นิติเวช และอื่นๆ เพื่อไขคดีที่มีความซับซ้อนยุ่งยาก

เล่ม1 ไป๋อวี้ถัง(บน) – จั่นเจา(ล่าง)

เล่ม 1 ตอนที่ 1 – ตอน ฆาตกรหมายเลข

เกริ่น

  • ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
  • จิตวิทยา

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

คู่ 1 – ไป๋อวี้ถัง(หัวหน้าหน่วย เก่งสืบสวน ต่อสู้) กับ จั่นเจา(หัวหน้ารอง อัจฉริยะด้านจิตวิทยา)

           เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนรู้จักกันมาแต่เด็กที่บ้านรู้จักกันสนิทกันแถมเกิดเวลาไล่เลี่ยกันก็เรียกได้ว่าตีคู่สูสีกันมาแต่เด็กเลย ผลัดกันชนะผลัดกันแพ้ พอโตขึ้นก็มีทางเป็นของตัวเองแยกกันไปแต่พอมีการจัดตั้งทีมS.C.I. ก็ได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ทางไป๋อวี้ถังก็คือเอ๊ะอะจับจูบ ส่วนทางจั่นเจาจะยอมไม่ยอมหรือมีปฏิกริยาตอบรับรุนแรงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่ก็ยังไม่รู้ที่มาที่ไปว่าความสัมพันธ์จากคนที่ตีกันตอนเด็กกลายมาจับจูบกันตอนไหน อย่างไร

ก็คือยังไง ยังไง แม่!!! ต้องสู่ขอแล้วไหมมมม

คู่ 2 – ไป๋จิ่นถัง(พี่ชายไป๋อวี้ถัง) กับ กงซุน(แพทย์นิติเวชมือ1ของทีม)

          เป็นคู่ที่มีความตลกเพราะต่างคนก็ต่างดูเกินๆไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร ทางไป๋จิ่นถังก็คือเป็นนักธุรกิจที่รวยมากซื้อรถสปอร์ตให้น้องชายสบายๆทั้งที่น้องก็ไม่จะดูแลพี่ดีเท่าไหร อยากได้อะไรก็ต้องได้แล้วพอมาถูกใจกงซุนก็คือ…นึกภาพตอนตกลงปลงใจกันไม่ออกว่าจะจบดียังไง ขำตั้งแต่กงซุนเมาแล้วไป๋จิ่นถังเอาปากกามาเขียนบนตัวกงซุนว่า’จองแล้วนะที่ตรงนี้’ ก็คือฮา คนปกติเขาไม่ทำกันนะแบบนี้ แล้วบังเอิญวันนั้นกงซุนโดนโรคจิตที่แบบคลั่งไคล้ในตัวกงซุนจับไปอีกก็คือสติแตกไหมถามมมม

คู่นี้มันฮาจริงๆ

เนื้อเรื่อง

เรื่องเกิดเมื่อมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น แล้วศพทุกศพบนหลังใบหูจะมีตัวเลขกำกับไว้เหมือนหมูที่โดนฆ่าแล้วมีตัวเลขประทับ ซึ่งตัวเลขก็คือรันเป็นจำนวนหลายร้อย แต่ศพที่พบตัวเลขข้ามไปข้ามมาไม่ได้เรียงกัน คดีนี้สืบไปสืบมากลายเป็นว่าไปพัวพันกับคนที่มีชื่อเสียงและมีตำแหน่งทั้งวงการจิตวิทยาและวงการของตำรวจ เป็นคดีเก่าแก่ที่เคยโด่งดังมาก่อนแต่ปัจจุบันไม่มีใครพูดถึงแบบลงรายละเอียดและแฟ้มคดีก็หายไปไร้ร่องรอย เรื่องราวสืบไปหลายสิ่งหลายอย่างก็ได้โยงเข้ามาถึงตัวละครหลักทั้ง จั่นเจาที่มีคนติดตามแบบชื่นชอบมากๆจนกระทั่งได้ถูกฆาตกรรมแต่ก่อนจะตายก็ยังให้ข้อมูลช่วยเหลือ ทางกงซุนก็มีโรคจิตติดตามซึ่งก็เกี่ยวพันกับคดีนี้อีก ยังมีพี่ชายของไป๋อวี้ถังที่เป็นคนมีความเกี่ยวพันกับคนตัวการหลักของคดีซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกี่ยวพันขนาดไหนด้วย คือทุกคนโดนหมด แน่นอนว่าคดีปิดได้คนร้ายตายหมด(ฆ่าตัวตาย)แต่ตัวการหลักลอยนวล คงได้ตามต่อในตอนอื่นๆเพราะเก่งมากจริงขนาดว่าฆ่าคนได้ทั้งที่ไม่ต้องออกเสียงซะด้วยซ้ำ

ความหลอนของตอนนี้ก็คือ พี่ชายของไป๋อวี้ถัง ชื่อ “ไป๋จิ่นถัง” เป็นคนที่อายุพอจะทันเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกับคดีโด่งดังซึ่งตอนนี้ตามหาเบาะแสไม่ได้ไม่มีใครบอก ทางจั่นเจาก็เลยจะทำการสะกดจิตเพื่อหาร่องรอยของคดีนี้ว่าเป็นยังไง เผื่อจะมีอะไรเหลืออยู่บ้างที่ต้องสะกดจิตก็เพราะว่าทางไป๋จิ่นถังเกิดอุบัติเหตุตอนเด็กทำให้เวลาในช่วงเด็กหายไป พอได้ย้อนกลับไปจั่นเจาก็เหมือนได้รับรู้อะไรหลายๆอย่างแล้วอยู่ๆไป๋จิ่นถังก็ทำท่าทางออกมาแบบไม่รู้ตัว นั้นก็คือ ยื่นนิ้วชี้ออกมาแนบเข้ากับริมฝีปากแล้วส่งเสียง ‘ชู่ว์‘ ออกมา

บอกได้เลยว่าร้องเชี่—หนักมากกกกก

 ก็คือหลอนมากกกกก อยากจะกรี๊ด แบบอ่านตอนกลางคืนก็คือเสียวขาขนลุก เพราะการกระทำนี้จะเป็นที่รู้กันว่าเป็นท่าทางของตัวร้ายตัวหลักของตอนที่ทำจนติด คล้ายกับว่าเป็นท่าทางประจำตัวเลยก็ว่าได้ ซึ่งจากการกระทำนี้ก็เป็นไปได้ว่า ไป๋จิ่นถังเคยใกล้ชิดกับคนร้าย(ก็เป็นไปได้เพราะเหมือนพ่อซึ่งเป็นตำรวจเคยสนิทกับคนนี้มาก่อนแบบเคยเป็นเพื่อนกันทำงานร่วมกันแต่คนนี้เดินไปอีกทาง) หรือเคยถูกชักจูงทางจิตจากคนร้าย ซึ่งก็ต้องตามต่อ

เฉลย : คนร้าย = เจ้าเจ๋ว์ อัจฉริยะด้านจิตวิทยา ให้คนอื่นฆ่าคนให้ได้โดยไม่ต้องออกปาก และหลบหนีการจับกุมได้ในท้ายที่สุด 


เล่ม 1 ตอนที่ 2 – ค่ายฝึกอบรมนักฆ่า

เกริ่น

  • ฆาตรกรรมต่อเนื่อง
  • จิตวิทยา
  • มีฉากขืนใจ

เนื้อเรื่อง

ในงานเลี้ยงนักจิตวิทยาชื่อดังถูกซุ่มยิงจากมือปืนอายุน้อยแต่บุญบาปโชคดีที่มีไป๋อวี้ถังในงานด้วยเลยรอดตายบาดเจ็บนิดหน่อยส่วนมือปืนก็โดนมือดีอย่างไป๋อวี้ถังสอยร่วงตายในนัดเดียว หลังจากตามหาและระบุตัวคนร้ายก็ได้ความว่าเจ้าตัวเป็นนักศึกษาธรรมดา เป็นพี่ชาย เป็นนักดนตรีมือเบส แต่แค่เป็นโรคนอนละเมอและได้พบหมออยู่เรื่อยๆซึ่งหลังจากเรื่องราวประกอบกันหมดความจริงแล้วก็คือคนนี้เป็นโรคหลายบุคลิคซึ่งตัวร้ายใช้โรคนี้ให้เป็นประโยชน์ปั้นคนก่อการร้ายปั้นมือปืนซุ่มยิง

จากการลอบยิงในช่วงนี้สังเกตได้ว่าแต่ละครั้งมือปืนจะจำกัดระยะการยิงแค่500เมตร ซึ่งเป็นระยะทั่วไปในการซ้อมยิงที่สนามยิงปืน หลังจากนั้นก็ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่เป็นทั้งการลอบฆ่า การสร้างความปั่นป่วน ซึ่งแต่ละครั้งล้วนมีความสัมพันธ์กัน พอไปสืบหาลงลึกค้นเมลล์คนก่อเหตุก็เจอว่ามีจดหมายหลายฉบับที่ส่งมาในวันเกิดเหตุโดยมีการลงนามว่าส่งมาจาก Killer Trianing Camp ทางS.C.I.เลยจำกัดวงแล้วส่งคนเข้าไปเป็นเหยื่อล่อซึ่งคนนั้นก็คือ”หม่าฮั่น”ที่เก่งเรื่องซุ่มยิง คนพวกนี้จะจิตแกร่งกว่าปกติทำให้การแสร้งเป็นคนจิตไม่ปกติสามารถทำได้และไม่มีผลกระทบทางจิต(ที่พูดถึงหม่าฮั่นเพราะต่อไปจะเริ่มมีบทบาทเด่นละรอๆ) แล้วก็โป๊ะ!หม่าฮั่นตกเหยื่อได้ ได้รับเมลล์ต่างๆแล้วก็ได้ทำตามขั้นตอนที่จั่นเจาบอก ลุล่วง

เฉลย : ค่ายฝึกอบรมนักฆ่าเป็นการแข่งขันด้านจิตวิทยาของหมอบ้าๆสองคน โดยการปั่นหัวคนใช้ประโยชน์จากโรคหลายบุคลิคหรือโรคต่างๆที่เข้าข่ายในการสร้างเครื่ืองมือทำลายล้างให้คนเหล่านั้นไปกำจัดไปปิดปากโดยโยงไปต่างๆนานาให้คนนั้นคนนี้กลายเป็นแพะแล้วตัวเองลอยนวล โดยถ้าสำเร็จก็คือการทดลองทฤษฎีที่ตั้งไว้ก็ลุล่วง

ตัวละครใหม่

ไป๋ฉือ

  • ลูกพี่ลูกน้องของไป๋อวี้ถัง
  • เป็นตำรวจเหมือนกัน ฉากแรกที่เจอเป็นตอนที่ไป๋อวี้ถังและจั่นเจาไปตามดูคนร้ายที่ยิงตายในฉากแรกที่ลอบยิงนักจิตวิทยา ไป๋ฉือก็คือเป็นคนเง๋อง๋ะนิดๆ เป็นตำรวจแต่ใช้ปืนไม่เป็นขี้ตกใจแล้วครั้งนั้นเป็นการเดินลาดตระเวณครั้งแรกด้วยก็แจ็คพอตเจอคนร้ายที่โดนยิงเป็นศพ 
  • ครั้งสองที่เจอก็เลยได้รู้ว่าเป็นญาติกัน พอได้คุยไปมาเลยรู้ว่าไป๋ฉือเป็นคนที่IQสูงมาก จั่นเจาก็ปลอบว่าเป็นตำรวจไม่ต้องต่อสู้เก่งเหมือนคนในตระกูลไป๋คนอื่นก็ได้นะ ตำรวจไม่ต้องบู๋เก่งอย่างเดียว ขนาดตัวจั่นเจาเองบู๋ไม่เก่งยังเป็นตำรวจเลย ไป๋ฉือเลยฮึดเลย จากนั้นก็เลยให้มาฝึกงานที่S.C.I.ทำฝ่ายเอกสารดูก่อน
  • มีฉากหนึ่งที่ไป๋ฉือขึ้นรถไปแล้วเจอคนคนหนึ่งซึ่งยังเป็นที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นเจ้าเจ๋ว์ที่เป็นคนร้ายในตอนที่1เล่ม1

ความสัมพันธ์ของตัวละคร

คู่ 1 – ไป๋อวี้ถัง(หัวหน้าหน่วย เก่งสืบสวน ต่อสู้) กับ จั่นเจา(หัวหน้ารอง อัจฉริยะด้านจิตวิทยา)

          ในตอนที่1อ่านแล้วดูคลุมเครือว่ายังไง พอมาตอนนี้ก็คือจ้าา ขอกันเป็นแฟนแล้วจ้าาา ก็ตอบตกลงกันไป มีฉากหวานๆเขินๆเรื่อย

เขินไหม ถามมมมม

คู่ 2 – ไป๋จิ่นถัง(พี่ชายไป๋อวี้ถัง) กับ กงซุน(แพทย์นิติเวชมือ1ของทีม)

          จากตอนแรกที่ดูฮาๆดูไม่น่าจะพัฒนาได้เร็ว แต่มาตอน2ก็คือทะลุปรอทเพราะอีพี่ไปฟันเขาซะงั้น ก็แบบว่าหึงมาก หน้ามือเลยจัดเขาบนรถเลย กงซุนคือโกรธสุดก็มาแบบนิ่งๆเลยไม่อยากยุ่งละไม่พอใจ ทางน้องชายก็เข้าใจแหละว่าพี่ชายตัวเองไม่ปกติก็เลยมาคุยกับกงซุนดู ทางกงซุนก็เหมือนจะเข้าใจพฤติกรรมไป๋จิ่นถังมากขึ้นเพราะเป็นผลกระทบจากที่ตอนเด็กที่มีช่วงหนึ่งคามทรงจำหายไปแล้วหลังจากนั้นก็เลยเปลี่ยนไปเหมือนกลายเป็นคนละคน ขนาดตัวไป๋อวี้ถังที่รักพี่ชายนะแต่บางครั้งก็ยังกลัวๆเลย ทางกงซุนก็โอเคมากขึ้นก็ยอมกลับไปคุย เปิดใจดูค่อยๆปรับไป อย่างว่ากงซุนก็ไม่ใช่คนปกตินะเอาจริงๆ 5555 

          อีกอย่างที่ฮาก็จะมีลูกน้องของไป๋จิ่นถังที่เป็นคู่แฝดติง คู่นี้ก็คือเป็นลูกรับได้ฮามาก เชียร์อัพลูกพี่ตลอดเรื่องกงซุน

แต่คือน่าจะเป็นเชียร์อัพให้ฝั่งที่ได้เปรียบ ณ ช่วงเวลานั้นๆมากกว่านะ 5555

รีวิว+สปอย | #Wilderness วิลเดอร์เนส 3เล่มจบ

Tensiel เขียน
ตรองสิริ แปล

นิยายวายเกาหลีที่มีความหนา3เล่ม
แต่อ่านชิวเพราะพระเอกเก่งมากกก+เด็กน่ารัก


แนะนำก่อนอ่าน

  • ผู้ชี้ทาง อดีตว่าเป็นคนขายเรือนร่างให้กับผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองได้มาซึ่งอำนาจ มีความสามารถในการปลอบประโลมดูแลสัตว์อสูรให้ไม่เจ็บปวดและช่วยผ่อนคลาย สามารถคุยกับสัตว์ได้
  • สัตว์อสูร คลอดออกมาเป็นสัตว์ถ้าได้รับการฝึกฝนใส่ใจดูแลจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ ในอดีตผู้ชี้ทางถูกกำจัดสัตว์อสูรเลยตายตกไปมากเพราะไม่มีผู้ช่วยปลอบประโลมดูแลเพราะในช่วงคืนวันเพ็ญที่ร่างกายจะพัฒนาจะเจ็บปวดมากมีหลายคนทนไม่ไหว
  • MPREG นายเอกท้องได้ มีความกึ่งomegaverseนิดๆแบบว่ามีฟีโรโมนเพราะตัวละครมีร่างสัตว์ด้วย
  • เริ่มเรื่องคือผูกพันธ์กันแล้วมีลูก1 แต่มีเรื่องหมางใจกันเลยได้แยกกันอยู่ ลูกอยู่บ้านพ่อ
  • ครบรส อ่านง่าย ไม่ดราม่าหนัก NCก็แซ่บ เลือดสาด เลือดแบบเลือดหัวออกอะ 5555

ตัวละคร

อีซึงโด – นายเอก

  • ผู้ชี้ทาง
  • ความสามารถพิเศษคุยกับสัตว์ได้เลยได้ประจำการเป็นหมอสวนสัตว์ขนาดเล็ก 
  • อายุยืนยาวไม่เสื่อมไปตามวัยเหมือนมนุษย์

แทกูกยอง – พระเอก

  • เป็นสัตวอสูรเลือดราชันย์
  • อยู่รอดเติบโตมาได้ด้วยฝีมือของอีซึงโดผู้ชี้ทางที่หายากยิ่งกว่ายากเนื่องจากถูกฆ่าล้างไปมาก 
  • เป็นคนแข็งแกร่งที่สุดในเรื่อง
  • ตัวเก็งผู้นำของสัตว์อสูรแต่ไม่อยากทำเพราะขี้เกียจ

แทอีกยอง

  • ลูกของแทกูกยองและอีซึงโด ใช่ เปิดมาคือมีลูกกันแล้วสี่เกือบห้าขวบได้ เพราะช่วงติดสัดช่วงหนึ่งแทกูกยองไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลยทำการขื่นใจอีซึงโดจนทำให้เกิดแทอีกยองขึ้นมา 
  • ไม่ได้เป็นสัตว์อสูรเต็มตัว(ตอนคลอดมาเป็นร่างมนุษย์) แต่พวกลูกครึ่งแม้จะไม่คลอดออกมาร่างสัตว์แต่ก็ยังสามารถรับรู้อารมณ์ของแม่ที่ท้องและมีความจำตั้งแต่อยู่ในท้อง 
  • เป็นเด็กที่น่ารักสดใสแม้ตอนท้องอีซึงโดจะหดหู่และสิ้นหวัง

เนื้อเรื่อง

แทกูกยองง้ออีซึงโด มีลูกแล้วแต่เมียไม่ให้อยู่ใกล้ ไม่ให้อะไรด้วย หงอหนักมากเมื่ออยู่กับเมีย โหดกับทุกคนยกเว้นกับอีซึงโด ยิ่งเปิดเรื่องมาอีซึงโดได้ช่วยยออึนแท(ลูกบ้านตระกูลแท ตระกูลใหญ่หัวหน้าตระกูลเป็นประมุขของพวกสัตว์อสูร) ยออึนแทเป็นสัตว์อสูรที่มีเลือดราชันย์แต่ที่บ้านมีปัญหาไม่โอเคกับการมีอยู่เลยอยากฆ่าให้ตาย ยออึนแทก็พลัดหลงมาบ้านอีซึงโดเลยได้มาใช้ชีวิตด้วยกันในบ้านอารมณ์แบบคอยดูแลคล้ายๆกับตอนที่อีซึงโดเลี้ยงดูแทกูกยองแต่เป็นฟีลลูกนะ อายุน้อยอะ ก็เป็นช่วงที่แทกูกยองตัดพ้อกับชีวิตหนักมากแบบเมียพาชู้เข้าบ้านไม่สนใจผัวเลยประมาณนั้น ยิ่งหนักเข้าไปอีกเมื่อท้องลูกคนที่สองหลังจากคืนดีกันก็คือจ๊ะจ๋าหน้าหมั่นไส้จริงๆ

เป็นฉากนัดประชุมเป็นการเป็นงานแต่เมียโทรมาฝากซื้อของกินไปให้แบบว่าร้านอยู่ไกลแหละแต่ก็บอกว่าใกล้ ไม่ลำบากจริงๆ การพูดคุยคือจ๊ะจ๋ามากตัดกับบรรยากาศการประชุมที่ตึงเครียดความเป็นความตายสุดๆ

เรื่องสกุลต่างๆแย่งชิงความเป็นใหญ่ แต่ละตระกูลจะมีคนปกครองและสัตว์อสูรทั้งหมดจะมีประมุขปกครองอีกที(คนตระกูลแทเป็นประมุข) การฆ่าฟัน ล้างบางเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หากผิดกฎทำตัวไม่สมศักดิ์ศรี แทกูกยองเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดเพราะมีสายเลือดราชันย์ทำให้ทุกคนต้องเกรงใจหนึ่งขั้นถึงแม้ประมุขที่มีองครักษ์ก็ยังต้องปล่อยผ่านในหลายครั้งเพราะไม่แน่ใจว่าจะเอาอยู่ อีกอย่างความกวนตีนของแทกูกยองสูงมากจริงๆอ่านเจอทีก็อยากให้มีคนเอาอะไรมาอุดปากแต่ก็คือไม่มีจ้ะ ไม่มีใครกล้าสามารถ ก็ถือเป็นความเข้มข้นของเรื่องอีกอย่างเมื่อเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็ต้องมีคนอยากล้มหมาก คนเหล่านั้นเลยเลือกที่จะกำจัดจุดอ่อนซึ่งก็คือลูกและเมียของแทกกูยอง


เม้าท์

  • เป็นเรื่องที่อ่านง่ายไม่เครียด ไม่ดราม่าหนัก อาจจะมีความหลังที่ซีเรียสแต่ปัจจุบันคือเบาๆ 
  • ความหื่น18+ก็จัดว่าเยอะ ยิ่งตอนอีซึงโดท้องลูกคนที่สองก็คือฮอร์โมนมันพลุ่งพล่านแล้วท้องลูกสัตว์อสูรก็แข็งแกร่งสุดๆหัวลูกไม่มีทางบุบ อีพ่อเอาใหญ่ ถ้าอีแม่ไม่ห้ามก็ดูท่าทางคงจัดทุกวัน 
  • ส่วนในทาง18+ที่ไม่หื่นก็คือเลือดสาสหนักมาก ควักไส้ทะลวงตับ กระชากม้ามกันเลยที่เดียว ถ้าใครเคยอ่านรุ่งอรุณวันสิ้นโลก ความเลือดกระจายเราว่าระดับพอๆกัน
  • ความฮาก็เยอะ ทั้งแทกูกยองที่กวนแบบกวนจริงๆนะ เป็นพระเอกไม่คูลอะ เก่งจริงแต่ความเท่หาได้ยากมากๆ ยิ่งไปเจอกับเด็กในสกุลแทที่บ้าพลังเหมือนจับปูใส่กระด้งก็คือเหมือนขายขำ ตลกคาเฟ่ นอกจากความกวนแทกูกยองก็เป็นพระเอกสายขี้เกียจ การงานไม่ทำ โยนให้พี่ จะเป็นประมุขหรอไม่อยากอะ ขี้เกียจขจัดทุกข์บำรุงสุขเปลื้องงบเพราะต้องดูแลองครักษ์ ขนาดการจะเป็นหัวหน้าสกุลยังขี้เกียจ ชีวิตคืออยากทำแค่อยู่กับอีซึงโด หายใจเข้าออกเป็นเธอเรื่องอื่นไม่สน

รีวิว+สปอย | เทพบุตรแห่งชาติกับคุณผู้ชายคนนั้น เล่ม2

เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง (Yue Xia Die Ying) เขียน
ศีตกาล แปล

มี 3 เล่มจบ

มาเล่ม2หน้าปกดูเข้าที่เป็นสีชิงยืนกางร่ม แต่พออ่านจบแล้วก็ยังคิดไม่ออกว่าไปยืนกางร่มตอนไหน แต่เป็นปกที่แสดงแนวทางของเนื้อเรื่องได้ดีนะแบบว่าทำให้คนที่มองดูออกง่ายว่าเออ เป็นเรื่องแนวปัจจุบัน ถ้าเป็นเล่ม1คนที่แค่มองผ่านไม่อ่านเรื่องย่อหลังเล่มคงคิดว่าเป็นแนวจีนโบราณแต่เล่มนี้โอเค คนใส่สูท มีรถหรู

เส้นเรื่อง

  • ยังคงความเรื่อยๆในการพัฒนาความสัมพันธ์
  • สีชิงรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้คิดกับเสี่ยวเฉียวแบบเพื่อน แน่ละเพื่อนที่ไหนทำกันขนาดนี้
  • ยังมีการเปิดตัวความสามารถของเสี่ยวเฉียวที่ให้ต้องตะลึงอีกละ เก่งไปไหน
  • มีความห่วงเสี่ยวเฉียวออกนอกหน้านอกตามากกก หมั่นไส้
  • สีชิงและเสี่ยวเฉียวสนิทกันจนคนรอบข้างแปลกใจ ขำตรงคนใกล้ตัวสีชิงแบบบอดี้การ์ดคนงานในบ้านคือรู้แกวกันหมดละว่าต้องทำตัวยังไงกับเรื่องของเสี่ยวเฉียว
  • ฉากแสดงการจิกกัดคนที่มาแบบไม่หวังดีของเสี่ยวเฉียวคือ 10 10 10 ร้ายมาร้ายตอบ ฉันไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณหรอก
  • เรื่องธุรกิจของตระกูลใหญ่เริ่มทวีความรุนแรง

สปอยละขอมาแนวเม้าท์ไปทีละข้อ

  • จากการที่เสี่ยวเฉียวไปเล่นหนังระดับชาติก็ทำให้เสี่ยวเฉียวได้รางวัลใหญ่มาตั้งสองรางวัล สุดยอดมากกกก บอกแล้วว่าเก่งไปหมดทุกอย่างทุกทางจริงๆ
  • เสี่ยวเฉียวได้รับเชิญไปงานนานาชาติเป็นงานที่รวมคนหลายๆชาติมาแสดงผลงานทางศิลปะ ทางเสี่ยวเฉียวที่เป็นนักวาดพู่กันแบบไม่มีใครรู้จักหน้าตาปิดเป็นความลับมาตลอดแต่ทางคนในวงการจำฝีแปรงของเสี่ยวเฉียวได้เลยรู้ตัวตน งานของเสี่ยวเฉียวคือมีค่ามีราคาในตลาดมาก ด้วยความที่กลับมาเกิดใหม่เสี่ยวเฉียวก็จะรู้รายละเอียดรู้องค์ประกอบการจัดวางรู้วิธีการที่สรรสร้างทำให้ภาพหรือวิธีการที่เสี่ยวเฉียวถ่ายทอดลงกระดาษมีค่ามากๆ ยิ่งบวกกับหน้าตาความสามารถที่เป็นดาราดังเพิ่งได้รับรางวัลใหญ่อีกก็ทำให้แตก งานแตกแบบใครๆก็ต้องการสัมภาษณ์ ยังไม่นับงานที่เสี่ยวเฉียววาดมาโชว์อีกที่ทำให้คนในวงการถึงกับต้องหลั่งน้ำตาที่ได้ยล
  • สีชิงมีการเอาเสี่ยวเฉียวไปแนะนำกับเพื่อนแล้วนะจ้าาา แบบเพื่อนก็เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันแหละและเป็นพวกตระกูลใหญ่เหมือนกันเพราะเรื่องธุรกิจเริ่มดุเดือดก็กลัวอีกฝ่ายจะเล่นสกปรกเลยหาที่พึ่งหาคอนเนคชั่นให้เสี่ยวเฉียวเพิ่ม คือทางเสี่ยวเฉียวก็เป็นแค่คนมีตังค์ไม่ได้มีอำนาจ ขำตอนพอเสี่ยวเฉียวไปงานนานาชาติก็ได้ซื้อของกลับมาฝากเพื่อนแล้วทางสีชิงคือมองของที่น้องจะให้เพื่อนแล้วดูอิจฉาอะ 555 แบบว่าของตัวเองละ มีให้คนอื่นแล้วฉันละ สุดท้ยของสีชิงก็มีจ้าา แล้วคือถ่ายอวด 5555 ลงSNSไปเลย หมั่นมากกก หมั่นไส้
  • ต่อมาเสี่ยวเฉียวไปออกกองถ่ายเป็นแบบปิดถ่ายในที่ห่างไกล ความเจริญไม่ค่อยมี อาหารก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ ตอนลากันขึ้นเครื่องก็คืออ้อยอิ่งมากกกกก ไปสักทีเถิดพ่อ คือตัวเองก็ส่งบอดี้การ์ดในร่างคนดูแลสุขภาพไปด้วยนะ(บอกว่าเป็นอดีตพยาบาลเก่า แต่สภาพคือถ้าบอกเป็นทหารเก่าจะน่าเชื่อถือกว่าและแน่ละเอามาเป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยน้อง) บวกความห่วงความคิดถึงเข้าไปอีกคือไปเยี่ยมกองถ่ายทั้งๆที่อีกแค่อาทิตย์เดียวก็จะยกกองละ บอกว่าเป็นกองปิดนะแต่คือบ.สีชิงเป็นคนออกเงินให้กองไงจะเข้าไปดูก็เข้าได้ ก่อนหน้านี้คือเสี่ยวเฉียวบ่นให้ฟังว่าอยากกินหม้อไฟบวกกับได้รับอุบัติเหตุสิชิงก็เลยได้หิ้วของไปหาแล้วคือต้องนั่งออฟโร้ดไปนะเพราะทางคือไม่ดีฝนตกทางเละ แล้วห้องก็ได้นอนด้วยกันเพราะที่พักไม่พอ ดี ดีไปหมด ก็คือลาภปากคนในกองถ่ายเพราะหม้อไฟเนื้ออร่อยมาก อาหารอร่อยมันหาได้ยากแถวนี้ ดูสภาพหม้อไฟคนที่เอามาด้วยก็น่าจะเป็นเชฟด้วยซ้ำ แต่คนอื่นเข้าใจว่าเป็นบอดี้การ์ดสีชิงที่ทำกับข้าวเป็น 5555
  • เสี่ยวเฉียวป่วย!!! บอดี้การ์ดที่ส่งไปดูแลรายงานมา ก็เอาเลยจ้ะให้มานอนที่บ้าน แล้วคือคนทำอาหารที่บ้านน้องก็ลาพอดีน้องเลยตกลงไปอยู่ด้วย อะไรจะเหมาะขนาดนี้บรรยากงบรรยากาศ ฝนตกไฟดับคนในบ้านก็เป็นใจ ทุกคนรู้หมดว่าคนนี้เจ้านายชอบ 
  • จบเล่ม2ก็มาบอกชอบเสี่ยวเฉียวตอนท้าย เอาจริงตอนอ่านเล่ม1คิดว่าจะบอกเร็วกว่านี้นะ เพราะดูเข้าหาเร็ว สรุปคือเข้าหาเร็วแต่รู้ตัวช้า บอกช้า แล้วเสี่ยวเฉียวก็คือให้ดูๆกันไปก่อน เล่ม3ก็ไม่รู้จะหวานกันเยอะไหมเพราะดูจะมีเรื่องธุรกิจที่เริ่มดุเดือดละ ส่วนเรื่องในวงการของเสี่ยวเฉียวก็ดูจะลอยตัวไปแล้ว ไม่มีอะไรไม่ดีไม่ดังทุกอย่างคือPerfect
คือบอกคำที่บอกว่าน้องยิ้มตาหยีคือคนอ่านก็ยิ้มตามไง ยิ้มทำไม ฮือออ บอกไปแล้วนะ น้องยิ้มรับก็คือใจชื้นแหละคุณพี่